Total War: THREE KINGDOMS Guide

ไกด์มือใหม่เพื่อมือใหม่ Total war three kingdoms for Total War: THREE KINGDOMS

ไกด์มือใหม่เพื่อมือใหม่ Total war three kingdoms

อินเตอร์เฟสหน้าหลัก

หลังจากเข้าเกมผู้เล่นจะพบกับอินเตอร์เฟสดังนี้

1.Campaing = โหมดเนื้อเรื่องหลัก
1.1.Countiue = เล่นต่อจากเซฟเก่า
1.2.New = เริ่มเล่นใหม่
1.3.Load = เลือกเล่นต่อจากเซฟเก่า
1.4.Multiplayer = เล่นแบบหลายคน co-op campaing
2.Battle = โหมดการต่อสูแบบผู้เล่นจัดเอง
2.1.New = จะเข้าโหมดการต่อสู้

2.1.1 Custom battle = โหมดการต่อสู้แบบผู้เล่นจัดทำกันเอง ไว้ฝึกซ้อมกับaiหรือทดสอบยูนิต
2.1.2 Historical battle = โหมดการต่อสู้ตามประวัติศาสตร์ มีดังนี้
2.1.3 Rank battle = โหมดการต่อสู้แบบจัดอันดับ
2.2.Multiplayer = โหมดออนไลน์จัดทัพต่อสู้กันเอง
2.3.Dynasty mode = โหมดให้ผู้เล่นจัดทีมสู้กับทหารนับหมื่น เป็นโหมดเอาไว้ทดสอบการ์ดจอและ cpu โดยเฉพาะ
2.4.Replay = โหมดให้ผู้เอาไว้ดูฉากการต่อสู้ต่างๆที่ผู้เล่นเลือกเซฟเอาไว้

3.Extra = อื่นๆ
3.1.Options = การตั้งค่าภายในเกม
3.2.Credits = รวมผู้สร้างเกม
3.3.Dlc = เนื้อหาเสริมภายในเกม
3.4.Quit = ออก

อินเตอร์เฟส Campaing 1

เมื่อกดไปที่ new จะเข้าสู่หน้าต่างการเริ่มเกมแบ่งเป็นดังนี้
1.ปีที่เริ่ม campaing อย่างในภาพเป็นปี 190 เป็นช่วง campaing หลังตั๋งโต๊ะพึ่งครองอำนาจ
2.ตัวละครที่เลือกได้ในปีนั้นๆ
recomanded characters = ตัวละครที่เกมแนะนำเหมาะสำหรับมือใหม่
3.ปีที่เลือกเล่นได้แบ่งเป็น 5 ช่วงเวลา
-ปี 182 ผ้าเหลืองเริ่มก่อกบฏ ตัวละครแต่ละตัวพึ่งเริ่มสร้างตัว เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่าย Hun กับ โจรผ้าเหลือง
-ปี 190 ตั๋งโต๊ะครองอำนาจ ขุนศึกเริ่มตั้งตัวมีเมืองเป็นของตัวเองกันแล้ว ผ้าเหลืองที่อยู่ในปีนี้จะเป็นซากทัพแล้ว
-ปี 194 แผ่นดินปั่นป่วนขุนศึกเริ่มขยายอำนาจ เข้าสู่ยุกสงครามโจโฉขยายดินแดนทางภาคกลาง อ้วนเสี้ยวขยายดินแดนทางภาคเหนือ ลิโปกับซุนเซ็กออกมาตั้งตัว เป็นต้น
-ปี 200 ราชสำนักอยู่ในกำมือโจโฉ อ้วนเสี้ยวยึดดินแดนทางเหนือ ศึกกัวต๋อระหว่างโจโฉและอ้วนเสี้ยวเป็นต้น
-ปี 291 หลังจากแผ่นดินถูกรวบรวมโดยราชวงศ์จิ้นได้ไม่นานเหล่าอ๋องทั้ง 8 เริ่มตั้งตัวเป็นใหญ่ทำให้สงครามเริ่มขึ้นอีกครั้ง
4.ชื่อฝ่ายสไตร์การเล่นของฝ่ายนั้นๆความยากของฝ่าย
5.ความสามารถของฝ่าย อย่างที่ผมยกมาคือโจโฉกับความสามารถ Credibility ที่ใช้ปั่นหัวและยุแยงให้ศัตรูตีกันเอง
6.ยูนิต,สิ่งก่อสร้าง,และฮีโร่ประจำฝ่ายอย่างโจโฉจะมีทหารม้าสุดแกร่งอย่างหน่วยอาชาเสือดาวและยังมีแฮหัวตุ้นและแฮหัวเอี๋ยนเป็นขุนศึกเริ่มต้น

7.opitons = การตั้งค่าแบบปลีกย่อยต่างๆ
7.1.Campaing difficulty level = ปรับความยากในโหมด campaing ยิ่งความยากสูงจะทำการทูตยากขึ้นศัตรูไม่ชอบหน้าเรามากขึ้น
7.2.Battle realisem mode = โหมดสมจริงถ้าเปิดโหมดนี้ตัวเกมจะจำกัดมุมมองของเราตามมุมองของทหารและปิดแผนที่ เหมาะสำหรับคนสาย hard core ชอบเล่นสมจริง
7.3.Battle time limit = เป็นการตั้งค่าเวลาในการรบโดยปรกติตัวเกมจะจำกัดเวลไว้เช่นฝ่ายบุกต้องตีเมืองภายใน 40 นาที หากตีไม่สำเร็จตามเวลาที่กำหนดฝ่ายบุกจะต้องแพ้ไปแม้ว่าฝ่ายป้องกันจะเหลือทหารหยิบมือก็ตาม สำหรับมือใหม่ 40 นาทีกำลังดีครับไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป
7.4.auto save cloud = save เกมของเราไว้ที่ cloud ส่วนตัวไม่เคยใช้ครับ
7.5.Timeless character = หากเปิดโหมดนี้ตัวละครของเราจะเปลี่ยนจากอายุเปินเทรินแทนช่วยให้ขุนพลแก่ๆอยู่ได้ยาวนานขึ้น หากปิดโหมดนี้ตัวละครของเราจะใช้ระบบอายุหากตัวละครอายุมากระดับนึงจะตายทันทีทำให้ช่วงหลังๆจะมีแต่ขุนพลหน้าใหม่ๆที่มาสร้างชื่อแทนขุนพลที่ตายไป
7.6.Time of day = การปรับปรุงเวลาใน campaing โดยปรกติตัวเกมจะ run เวลาไปเรื่อยตั้งแต่เช้าถึงค่ำในการตั้งค่าโหมดนี้จะช่วบล็อคเวลาใน campaing อย่างในถายที่ผมตั้งค่าไว้ตอนเช้าเพื่อไม่ให้มีกลางวันกับเย็นและกลางคืนเพรารำคาญแสงที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้นเอง แต่แล้วแต่คนชอบครับ
7.7.Show ai player move = โหมดนี้ถ้าเปิดจะเป็นการแสดงการเดินของ ai ทุกตัวในระว่างจบตาครับ หากปิดไว้ตัวเกมจะ time skip การเดินของ ai ทั้งหมดช่วยประหยัดเวลาในการจยแต่ละตาครับ
7.8.Advisor help = จะเป็นการเปิดให้ผู้ช่วยของเราทางมุมซ้ายบนของเราครับ โดยเขาจะทำการแนะนำระบบการเล่นต่างๆภายในเกม แต่หากผู้เล่นรำคาญสามารถกดปิดได้ดังภาพครับ
7.9.Battle difficulty level = ปรับความยากของการต่อสู้ยิ่งความยากสูงจพทำ ai แข็งแกร่งขึ้นตายยากขึ้นในการรบ
8.โหมดที่ใช้ในการเล่น = โดยจแบ่งเป็นสองโหมดคือ
-Records ที่จะเป็นโหมดคราสสิกของ total war ระบบจะเหมือนภาคประวัติศาสตร์ทั่วไป
-Romance โหมดแฟนตาซีแม่ทัพแต่ละคนจะเก่งดุจเทพลงมาจุดติสามารถหนึ่งหนึ่งกับทหารได้กองนึงเลย
9.แผนที่ อย่างในภาพที่โจโฉมีจุดเกิดอยู่แถวๆภาคกลาง โดยสีแดงในแผนที่จะหมายถึงศัตรู(ในส่วนนี้จะไปขยายในคู่มือ campaing ตอนหลัง

อินเตอร์เฟส Campaing 2


หลังจากเข้าเกมมาจะเข้าสู่โหมด campaing ในตัวเกมซึ่งจะเป็น phase 1 ก่อนจะเข้าฉาก battle นั้นเองในช่วงนี้จะเป็นการบริหารเมืองทำการทูตกับฝ่ายอื่นๆสร้างทหารเป็นต้น

1.ข้อมูลต่างๆของฝ่ายเรา
1.1.
-Turn = จำนวนตาที่เราจในแต่ละรอบ
-เงิน = จำนวนรายได้ของทั้งฝ่ายเราเมื่อนำเมาส์ไปชี้จะมีการบอกรายรับรายจ่ายทั้งหมดของเรา
-ข้าวหรือเสบียง = มีหนึ่งในทรัพยากรหลักของเกมโดยมันจะถูกสร้างโดยฟาร์มที่ประจำเมืองลูกเขาเรา(ไปขยายตรงอินเตอร์เฟสเมือง)เสบียงจะถูกใช้เพื่อเลี้ยงเมืองต่างๆยิ่งเมืองใหญ่เท่าไหร่จะกินสเบียงมากขึ้นตามไปด้วย ถึงแม้ว่าเมืองใหญ่จะเสบียงติดตัวเกมจะทำการดึงสเบียงจากเมืองอื่นๆที่เสบียงเหลือมาใช้แทน หากเสียเมืองผลิตเสบียงไปจะทำให้เสบียงติดลบผู้คนจะไม่พอใจและเริ่มออกจากเมืองไป
-ทรัพยากรพิเศษ = ทำหน้าที่คล้ายๆเสบียงโดยมันจะเป็นทรัพยากรที่อยู่ตาเมืองต่างๆ เช่น ม้า พริกไทย เกลือ โดยมันจะไว้ทำไปใช้ในการอัพเกรดทหารและอัพเกรดเมืองต่างๆ
1.2.ฝ่ายของเราเมื่อนำเมาส์ไปคลิ้กจะเข้าสู่หน้าต่างยศของเรา(ไปขยายตรงอินเตอร์เฟสยศ)


1.3.Court(ระบบสภา) = ระบบนี้จะมีการแบ่งเป็นตำแหน่งต่างๆเพื่อช่วยบัพฝ่ายของเรา โดยบัพนั้นจะแต่งต่างกันขึ้นอยู่กับขุนนางที่เราเอาไปใส่(ไปขยายในอินเตอร์เฟสสภา)


1.4.Diplomacy(ระบบทางการทูต) = ระบบนี้จะไว้ใช้ทำความสัมพันธ์กัลฝ่ายต่างๆภายในเกมทั้งการค้า,การทูต,การเปิดสงคราม(ไปขยายหน้าการทูต)


1.5.Reform(ระบบวิจัย) = ระบบนี้มีไว้วิจัยเทคโนโลยีต่างเพื่อปลดล็อคนำมาใช้โดยแบ่งเป็นห้าสี
-สีทอง = การปกครอง การเงินจากประชาชน ทหารม้าโล่ดาบ
-สีเขียว =การทำฟาร์มเพื่อเพิ่มข้าว ทหารหอก ทหารง้าว ทหารหอกโล่
-สีฟ้า = การทูต สายลับ พลธนูและหน้าไม้ การค้า
-สีเทา =การเงินด้านอุตสาหกรรม ทหารดาบโล่
-สีแดง =ด้านการทหาร การป้องกัน ทหารม้าหอก ทหารม้าเกราะหนัก


1.6.Undercover Network(สายลับ) = มีหน้าที่ขโมยข้อมูลต่าๆที่เราส่งสายลับไปรวมถึงการปั่นป่วนอีกฝ่ายเช่น ทำลายเส้นทางการค้า วางยาพิษกองทัพ(ไปขยายหน้าสายลับ)
1.7.Records(บันทึก) = บันทึกต่างๆของฝ่ายเราสามารถย้อนดูการกระทำต่างๆของเราได้


1.8.Treasury(การเงินทั้งหมด) = ระบบนี้จะคล้ายๆกลับระบบเงินโดยผู้เล่นสามารถดูรายได้-รายรับต่างๆภายในเกมและสามารถขึ้นภาษี


1.9.Faction council(ระบบสภขุนนาง) = ระบบใหม่ที่พึ่งอัพเดทเข้ามา ในทุกๆปีขุนนางของเราจะเสนอนโยบายต่างๆมาให้เราเลือกซึ่งจะเป็นบัพให้กับฝ่ายเรา,ดีบัพให้ฝ่ายตรงข้าม,หรือฆ่าผู้นำฝ่ายก็มี หากเราเลือกบัพจากคุณคนใดคนนึงไปแล้วจะต้องรอปีหน้าเพื่อเลือกใหม่อีกครั้ง



1.10.Imperial Intrigue(ระบบฮ่องเต้) = เมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้โตขึ้นระบบนี้จะทำงานโดยจะเพิ่มความโปรดปรานของฮ่องเต้ขึ้นมายิ่งมีค่านี้สูงมากเท่าไหร่เราจะได้รับบัพจากพระเจ้าเหี้ยนเต้มากขึ้นเท่านั้น หากเราชิงตัวพระเจ้าเหี้ยนเต้มาได้ตัวเกมจะมีทางเลือกให้ผู้เล่นกอบกู้ฮั่นหรือจะชิงบันลังค์ หากฝ่ายใดค่าความโปรดปรานต่ำกว่าระดับที่กำหนดฝ่ายฮั่นจะไม่ชอบขี้หน้าเราและพร้อมเปิดศึกกับเราทุกเมื่อ
-Increase Favour = เพิ่มค่าความโปรดปรานของพระเจ้าเหี้ยนเต้ กดให้ฝ่ายใดก็ได้ กดใส่ฝ่ายตัวเองได้
-Decrease Favour = ลดค่าความโปรดปรานของพระเจ้าเหี้ยนเต้ กดให้ฝ่ายใดก็ได้ กดใส่ฝ่ายตัวเองได้
-Enemy of the Hun = จะใช้งานได้ต่อเมื่อเราเป็นผู้สำเร็จราชการเท่านั้น ประกาศให้ฝ่ายเป้าหมายโดนดีบัพจากฝ่าย Hun

2.อีเว้นที่เกิดขึ้นแต่ละตาโดยจะเป็นการแจ้งข่าวต่างๆ เช่น ตัวละครตัวนี้ตาย เสียเมืองตรงจุดไหน ฝ่ายไหนทำการทูตอะไร ได้รับอาวุธต่างๆเป็นต้น
3.ตัวละคร เมื่อคลิ๊กไปที่ตัวละครจะเข้าสู่หน้ากองทัพของตัวละคร
4.เมืองที่เราครอบครอง(ไปขยายอินเตอร์เฟสเมือง)
5.ภารกิจต่างๆ
6.แผนที่และคียลัดไปยังส่วนต่างๆ
Mission = ภารกิจต่างๆที่เกมมอบหมายให้เราหากทำสำเร็จจะได้รางวัล
Charaters = จำนวนตัวละครที่อยู่ฝ่ายเราทั้งหมด

Armies = จำนวนกองทัพที่ผู้เล่นถือครองอยู่
Commanderies = จำนวนเมืองที่ครอบครองแสดงรายรับจากเมืองนั้นๆ

Know factions = จำนวนฝ่ายที่เรารู้จักทั้งมิตรและศัตรู

อินเตอร์เฟส Campaing 3

เมื่อเราคลิ๊กไปที่กองทัพของเราจะพบกับรายละเอียดต่างๆเช่นการเดินทัพ เสบียง การสลับเปลี่ยนขุนพลง

1.Stance หรือ ค่าในการเดินทัพของกองทัพนั้นๆซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ตามสถานการณ์ stance แต่ละอันจะมีบัพและดีบัพต่างกันหากค่า stance ไม่พอเราจะไม่สามารถใช้งานได้
-Normal เป็นการเดินปรกติ ผู้เล่นสามารถสั่งให้กองทัพเดินหรือโจมตีหรือฟื้นฟูทหารได้ ไม่มีบัพและดีบัพ
-March เป็นการเดินแบบรวดเร็วเพิ่มค่า stance ทำให้ผูเเล่นเดินได้ไกลกว่าปรกติ ผู้เล่นสามารถสั่งกองทัพให้เดินโจมตีได้ แต่จะไม่สามารถฟื้นฟูกองทหารได้และกองทัพจะโดนดีบัพความเหนื่อยทำให้ทหารอ่อนล้าลง หากผู้เล่นใช้ค่า stance หมดต้องรอตาต่อไปเพื่อเปลี่ยน stance ใหม่
-Encamp เป็นการสั่งตั้งค่ายเพื่อฟื้นฟูทหารต้องใช้ค่า stance 50 หรือก็คือครึ่งนึงของค่าเดินทัพเรา ผู้เล่นจะไม่สามารถสั่งเดินทัพหรือโจมตี แต่จะฟื้นฟูทหารและเสบียงของกอพให้เร็วขึ้นเมื่อเราถูกโจมตีจะมีค่ายทหารมาช่วยป้องกันเหมือนเมือง
-Ambush สั่งให้กองทัพเข้าสู่โหมดซุ้มโจมตีใช้ค่า stance 25 หากศัตรูเข้ามาใกล้เรา ambush จะทำงานและเข้าสู่ฉากซุ้มโจมตีจะเป็นการล้อมกองทัพศัตรูและดีบัพขวัญกำลังใจทัพศัตรูระดับนึง
-Spoils ฝ่ายโจรจะสามารถเลือกแจกจ่ายเสบียงได้โดยจะลดเสบียงของเราจำนวนนึง ผู้เล่นไม่สามารถเดินหรือสั่งการอะไรกองทัพได้ แต่จะฟื้นฟูกำลังทหารเพิ่มรายได้และเสบียงประจำเมืองนั้นๆการผลิตอาหารแบบรวดเร็วแทน
-Raid ฝ่ายโจรสามารถสั่งให้กองทัพเข้าสู่การปล้นเพิ่มเสบียงของกองทัพเราพื้นที่ที่เราปล้นจะลดค่าความสงบและเสบียงประจำเมืองนั้นๆ ผู้เล่นสามารถสั่งให้กองทัพโจมตีได้และเดินได้

2.จำนวนเสบียงที่กองทัเรามีโดยเสบียงของกองทัพจะไม่ถูกนำรวมกับเสบียงอื่นๆ ถึงแม้ว่าเสบียงส่วนกลางของเราหมดเรายังสามารถเพิ่มเสบียงกองทัพได้อยู่ดี เสบียงของกองทัพจะถูกใช้งานเมื่อผู้เล่นออกนอกเขตของตนเองทั้งพันธมิตรและศัตรู หากเสบียงหมดกองทัพจะถูกดีบัพและทหารจะหนีทัพออกไปเรื่อยๆ

3.นอกจากจะเป็นค่าแสดงระยะการเดินของผู้เล่นมันยังแสดงจำนวน stance ที่เราใช้การได้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าโหมดของ stance จำเป็นต้องใช้ค่านี้หากค่า stanceไม่พอเราจะเปลี่ยนโหมด stance ไม่ได้

-การสลับเปลี่ยนขุนพลประจำกองทัพเราจะเปลี่ยนตัวละครนั้นๆมาเป็นผู้นำทัพเมื่อขุนพลตัวนั้นๆมีสกิลบัพทั้งกองทัพเช่น ถ้ากุนซือคนนี้เป็นผู้นำจะเพิ่มเสบียงและระยะการเดินกองทัพหรือตัวละครธาตุไฟถ้าเป็นผุ็นำทัพจะเพิ่มแรงชาร์จให้ทั้งกองทัพเป็นต้น ดังนั้นการเลือกขุนพลเป็นผู้นำทัพที่มีสกิลดีจะทำให้เราเล่นง่ายขึ้นมากๆ

-การเรียกขุนพลกลับจะทำได้ต่อเมื่อเราอยู่ในเขตของเราโดยตัวละครตัวนั้นๆจะกลับไปอยู่หน้าต่างการว่าจ้างตัวละครเหมือนเดิมและเราต้องเสียเงินจ้างเขาใหม่อีกครั้ง จำนวนกองทหารต้องฟื้นฟูอีกใหม่อีกครั้ง

ยศ/ลำดับขั้น


ระบบยศเป็นระบบต่ำแหน่งขั้นของเราโดยตำแหน่งยิ่งสูงขึ้นบัพก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ยิ่งเรายศสูงเท่าไหร่เราจะทำการทูตกับฝ่ายอื่นๆยากขึ้นและเมื่อเราเลื่อนยศถึงระดับ Emperor ตัวเกมจะบังคับให้อีกสองที่มีอนาเขตและอำนาจเยอะที่สุดฝ่ายขึ้นเป็น Emperor เหมือนกันและต้องสู้กันจนกว่า Emperor จะเหลือแค่เราฝ่ายเดียว
โดยการวิธีการเลื่อนยศจะมาจาค่า Prestige(ยศสักดิ์)ซึ่งมาจากการยึดเมืองต่างๆหรือมาจากบัพทางสิ่งก่อสร้างเป็นต้น
1.ข้อมูลของบัพพิเศษและยูนิตฝ่ายเราฝ่ายเรา
2.ยศต่างๆ
3.ข้อมูลต่างๆของฝ่ายเรา เช่น จำนวนเงิน เสบียง มีศัตรูฝ่ายใดบ้าง


ปรกติเมื่อเรายศเลื่อนขั้นตัวเกมจะเพิ่มโบนัสต่างๆเช่นค้าขายมากขึ้น สร้างกองทัพได้เยอะขึ้น แต่ตอนนี้เราสามารถเลืออัพเกรดสิ่งต่างๆเองได้แล้ว แบ่งเป็นดังนี้
-Assignment = เพิ่มจำนวนขุนนางไปบริหารพิ้นที่
-Administrators = เพิ่มจำนวนเจ้าเมือง
-Trad argeements = เพิ่มเส้นทางการค้าขาย
-Spies = เพิ่มจำนวนสายลับให้ใช้งานมากขึ้น
-Armies = เพิ่มจำนวนกองทัพ

สายลับ

การทูต


ระบบการทูตเป็นระบบสำคัญในเกม Total war ช่วยเพิ่มมิติของเกมให้ลึกขึ้นไม่ใช้แค่สร้างกองทัพสู้กันอย่างเดียวโดยแบ่งเป็นดังนี้
1.War = หมวดการประกาศสงคราม
2.Peace = หมวดการขอสงบศึก
3 Trade and Marriage = หมวดการค้าและการแต่งงาน
4.Vassals = หมวดเมืองขึ้น
5.Alliances = หมวดการทำพันธมิตร
6.Diplomatic Treaties = หมวดความสัมพันธ์ทางการทูต
7.War co-ordination = หมวดการช่วยทำสงคราม
…จะอัปเดตย่อยทีหลัง…..

การสร้างเมืองและบริหาร

เมืองถือได้ว่าเป็นทั้งฐานที่มั่นและการผลิตทรัพยากรของเรา การเสียเมืองไปในแต่ละครั้งจึงทำให้ฝ่ายเราอ่อนแอลงเรื่อยๆ ผู้เล่นจึงต้องวางแผนในการอัปเกรดเมืองต่างๆให้ดีเพราะทรัพยากรในเกมก็มีจำกัดในช่วงแรกๆ
เมืองจะถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ เมืองหลัก เมืองรองหรือเมืองลูก และด่าน
1.Assignments = ระบบนี้คือการส่งตัวละครของเราไปพัฒนาพื่นที่ต่างๆตามเวลาที่กำหนดเมื่อส่งไปแล้วตัวละครตัวนั้นจะไม่สามารถออกรบได้ โดยสกิลในการบริหารจะขึ้นอยู่กับธาตุของตัวละครนั้นๆการส่งตัวละครที่ธาตุตรงกับเมืองไปบริหารจะได้โบนัสด้วย นอกจากนี้สกิลที่ใช้พัฒนาพื้นที่ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้จากสกิลที่เราอัพไปจากตัวละครนั้นๆ การส่งตัวละครไป assignments จะได้รับ exp ด้วยจึงแนะนำให้ส่งตัวละครที่ไม่ได้นำไปออกรบไป assignments
-สีแดง ลดจำนวนประชากร
-สีเขียว เพิ่มเสบียง เพิ่มจำนวนประชากร
-สีฟ้า เพิ่มรายได้จากการค้าขาย
-สีทอง เพิ่มรายได้จากประชาชน เพิ่มความสุขในเมือง
-สีเทา เพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรม ลดเวลาการสร้างสิ่งก่อสร้าง
1.1.Building browser = แผนผังการอัปเกรดเมืองของเรา
1.2. = การย้ายเมืองหลวง
1.3. = แต่งตั้งตัวละครไปเฝ้าเมืองนั้นๆ

2.= ชื่อเมืองนั้นๆ


3.รายละเอียดในเมืองนั้น
3.1.Tax exemption = เมื่อกดติ้กไปจะเป็นการไม่เก็บภาษีในเมืองนั้นๆช่วยให้เมือมีค่าความสงบเพิ่มขึ้น
3.2.Income = รายได้ประจำเมืองนั้นๆโดยรายได้จะมาจากสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในเมืองโดยแบ่งออกเป็นสามประเภทคือรายได้จากประชาชน รายได้จากการค้า รายได้จากอุตสาหกรรม
3.3.Food = อาหารหรือเสบียงโดยปรกติเมืองแต่ละเมืองจะผลิตอาหารออกมาโดยส่วนใหญ่เสบียงจะถูกผลิตจากสิ่งก่อสร้างสีฟ้าและเขียว จำนวนเสบียงที่ผลิตได้จะถูกหักลบกับจำนวนบริโภคของประชากรและจึงค่อยนำไปเก็บในเมือง เช่น เมือง a ผลิตเสบียง 20 เมือง a กินไป 10 ก็จะถูกเก็บเข้ากองกลาง หากเมืองไหนเสบียงติดลบนั้นหมายถึงเมืองนั้นไม่สามารถผลิตเสบียงได้และต้องการบริโภคมากขึ้นโดยเราสามารถเช็คจำนวนเสบียงทั้งหมดของเราได้จาก Food ทางซ้ายบนเมื่อนำเมาส์ไปชี้จะมีการบอกจำนวนเสบียงที่ผลิตได้และบริโภคไปเท่าไหร่ หากเสบียงไม่เพียงพอต่อการบริโภคจะทำให้เมืองเกิดความไม่สงบประชาชนจะหนีออกจากเมืองหรือเกิดกบฏตรงเมืองนั้นๆ
3.4.Public order = ค่าความสงบของเมืองหากค่านี้เป็นบวกจะทำให้เมืองนั้นๆได้รับบัพจากรายได้เพิ่มขึ้นหรือการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งค่านี้สามารถลดลงได้จากหลายๆปัจจัย เช่น จำนวนประชากรที่มากเกินไป มีกบฏเกิดใกล้ๆเมือง เสบียงหมด หากค่านี้ติดลบมากๆจะทำให้เกิดกบฏในเมืองนั้นๆ
3.5.Reservers = จำนวนเสบียงที่เมืองนั้นเก็บเอาไว้ เมือ่เมืองถูกล้อมจะนำเสบียงตรงนี้มาใช้แทนหากเสบียงหมดลงไปเรื่อยๆจะทำให้ทหารที่เฝ้าเมืองนั้นๆไม่มีอาหารกินและเริ่มตายลงไปเรื่อยๆ
3.6.Population = จำนวนการเติบโตของประชากรยิ่งจำนวนประชากรสูงเท่าไหร่เมืองนั้นจะได้รับโบนัสต่างๆมากขึ้น เช่น สร้างสิ่งก่อสร้างเร็วขึ้น รายได้เยอะขึ้น เสบียงเพิ่มขึ้น เป็นต้น
3.7. = รายละเอียดเฉพาะเมืองนั้นๆ เช่น ความแห้งแล้ง ความสงบประจำเมือง
3.8. = ทหารที่เฝ้าเมืองนั้นๆ
4.= คำแนะในการสร้างสิ่งก่อสร้างในเมืองให้เราดูจากเมืองลูกของเราเป็นหลักครับเพือ่ให้สิ่งก่อสร้างในเมืองได้บัพกันอย่างเต็มที่ เช่น ถ้าเมืองลูกของเราเป็นสีเขียวให้สร้างสิ่งก่อสร้างของเราเป็นสีเขียวทั้งหมดเพื่อดึงประสิทธิภาพของบัพเมืองนั้นๆให้สูงที่สุด แล้วจึวค่อยสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆเสริมขึ้นมาโดยสิ่งก่อสร้างแบ่งเป็นดังนี้
สีเขียว = สิ่งก่อสร้างประเภทเพิ่มเสบียงต่างๆช่วยเพิ่มทั้งรายได้ การเติบโตของประชากร ค่าความสงบและเสบียงประจำเมืองนั้นๆ
สีแดง = สิ่งก่อสร้างประเภททหารช่วยเพิ่มการจ้างทหารในเมืองนั้นๆถูกลง เพิ่มการฟื้นฟูทหาร สร้างอาวุธ เพิ่มทหารที่เฝ้าเมืองนั้นๆ
สีฟ้า = สิ่งก่อสร้างประเภทช่วยเพิ่มรายได้ต่างๆ exp ตัวละคร และเสบียงในเมืองนั้นๆ
สีทอง = สิ่งก่อสร้างประเภทเพิ่มความสงบช่วยเพิ่มความสงบในเมือง เพิ่มรายได้ประจำเมืองนั้นๆ
สีเทา = สิ่งก่อสร้างประเภทเพิ่มรายได้ช่วยเพิ่มรายได้ต่างๆภายในเมืองและลดค่าคอลับชั่นในเมืองนั้นๆ
*อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นครับว่าจะตัดสินใจสร้างสิ่งก่อสร้างอะไรอย่างบางเมืองเมืองลูกสีแดงเพิ่มรายได้ทางอุตสาหกรรมเราอาจจะสร้างสิ่งก่อสร้างสีเทาเพื่อบัพรายได้จากอุตสาหกรรมก็ได้เหมือนกันครับ
5.= เมืองลูกหรือเมืองรองประจำจังหวัดนั้นๆ โดยมันมีหน้าที่ในการบัพเมืองหลักของเราทั้งการค้า เสบียง อาวุธและทรัพากรพิเศษอื่นๆ
6.=เมื่อนำเมาส์ไปคลิ้กขวาที่เมืองจะเข้าสู่หน้าแผนผังอัปเกรดเมืองโดยจะแสดงรายละเอียดการสร้างเมืองต่างๆ


-เมืองหลัก อย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้นว่าเมืองมีหน้าที่ผลิตทรัพยากรต่างๆให้กับเราซึ่งนั้นคือหน้าที่ของเมืองหลัก
เมืองหลักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่สามารถอัปเกรดเพื่อขยายเมืองทำให้เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆได้มากขึ้นรวมถึงตัวเมืองจะแข็งแกร่งขึ้นและมีทหารประจำเมืองที่เก่งขึ้นด้วย แต่ยิ่งเมืองมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่มันจะกินเสบียงมากขึ้นเท่านั้นอิงจากความเป็นจริงถ้าเมืองใหญ่ขึ้นประชาชนก็ต้องการอาหารมากขึ้นตามจำนวนประชากรที่มากขึ้น


-เมืองรองหรือเมืองลูก หน้าที่จะเหมือนเมืองหลักที่คอยผลิตทรัพยากรให้เราแต่จะต่างตรงที่เมืองลูกไม่สามารถขยายเมืองได้ทำได้แค่อัปเกรดไปเรื่อยๆยิ่งอัปเกรดสูงเท่าไหร่เราจะต้องจ่ายเงินให้เมืองลูกเยอะขึ้น หากเราทำการยึดเมืองหลักและเมืองลูกในจังหวัดนั้นๆครับเมืองลูกจะมอบโบนัสให้กับเมืองหลัก เช่น เพิ่มรายได้ เพิ่มเสบียงเป็นต้น อีกอย่างหนึ่งในการยึดเมืองลูกสามารถยึดแยกออกจากเมืองหลักได้ซึ่งจะทำให้เราสูญเสียบัพพิเศษประจำจังหวัดนั้นๆไปด้วย


-ด่านจะไม่ต่างจากเมืองรองตรงที่มันอัปเกรดได้อย่างเดียวไม่สามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมได้ ด่านจะมีหน้าที่ป้องกันจุดต่างๆ ไม่ต่างจากเมืองที่โจมตีได้ยากกว่าและต้องใช้เวลาในการตีและสามารถบุกได้ทางเดียว ด่านจะมีทั้งทหารและจำนวนป้อมที่คอยป้องกันด่านและยังมีเสบียงที่เก็บไว้ตอนล้อมเมืองเยอะทำให้การจะตีด่านในแต่ละครั้งต้องใช้ทหารจำนวนมาก

ตัวละคร,คราส,ธาตุ

เมื่อเรานำเมาส์ไปคลิ้กขวาที่ตัวละครจะนำไปสู่หน้าต่างอินเตอร์เฟสของตัวละครนั้้นๆซึ่งจะแสดงทั้งอาวุธ นิสัย ความสามารถของตัวละคร โดยแบ่งเป็นดังนี้
1.อาวุธที่ตัวละครสวมใส่ = ทุกตัวละครจะมีอาวุธที่สวมใส่ได้ไม่เหมือนกันและแต่ละอาวุธก็จะมีบัพที่แตกต่างกันออกไปจึงควรใส่ให้เหมาะกับตัวละครนั้นๆ โดยจะมีความสามารถในการเพิ่มพลังโจมตี พลังชาจ การหลบหลีกให้ตัวละครที่สวมใส่
2.เกราะของตัวละคร = ทุกตัวละครจะมีเกราะที่สวมใส่ไม่เหมือนกันซึ่งจะแตกต่างจากอาุธตรงที่ชุดเกราะระดับตำนานส่วนใหญ่จะเป็นของตัวละครนั้นๆไม่สามารถถอดได้ ซึ่งต่างจากอาวุธระดับตำนานที่สามารถถอดเปลี่ยนได้
3.สัตว์ขี่ = ทุกตัวละครจะมีสัตว์ขี่สวมใส่อยู่โดยแบ่งเป็นสองประเภทคือม้าและช้าง ม้าจะมีบัพของตัวเองไม่ต่างกับเกราะและอาวุธจึงควรใส่ให้เหมาะกับตัวละครนั้นๆ ช้างก็เช่นกันแต่มันจะเพิ่มพลังชีวิตให้ผู้สวมใส่แทนหากขี่ช้างจะไม่สามารถใช้สกิลของตัวละครนั้นๆได้ แต่จะมีสกิลของช้างมาให้แทน
4.ผู้ติดตามหรือผู้ช่วย = ทุกตัวละครจะมีผู้ช่วยสวมใส่อยู่ผู้ติดตามจะให้บัพไม่ต่างกับเกราะและอาวุธ แต่จะมีบัพพิเศษอย่างเช่นการปลดล็อคค่ายกลต่างๆหรือบัพพิเศษเมื่อตัวละครนั่งในสภา จึงต้องใส่ให้เหมาะกับตัวละครนั้นๆ
5.อุปกรณ์เสริม = ทุกตัวละครจะสวมใส่อุปกรณ์เสริมโดยจะมีบัพเป็นของตัวเองไม่ต่างกับสิ่งสวมใส่อันอื่นๆ แต่มันจะมีบัพพิเศษต่างๆ เช่น เพิ่มการฟื้นฟูกองทัพ เพิ่มรายได้เมื่อตัวละครนั่งในสภา ซึ่งอุปกรณ์เสริมจะรวมไปถึงธนูและหน้าไม้ด้วยซึ่งจะแยกมาจากอาวุธ ธนูจะดาเมจกลางๆแต่วิ่งไปยิงไปได้(อยู่บนหลังม้า)หน้าไม้ดาเมจรุนแรงแต่ต้องหยุดยืนยิง
6.สกิลของตัวละคร = จะแบ่งเป็นสองแบบคือสกิลที่พิเศษเฉพาะตัวละครสามสกิลซึ่งจะทำงานแบบ Active หรือ Passtive ในสนามรบก็ได้และสกิลทั่งไปที่จะบัพทั้งกองทำหรือบัพพิเศษที่ต้องนำตัวละครไปปกครองเมืองหรือนั่งในสภาจึงจะทำงาน
7.Status และการจ้างทหารของตัวละคร = ตัวละทุกตัวจะมีคราสและยูนิตเป็นของตัวเอง(10)ซึ่งจะส่งผลต่อ Status ของตัวละครนั้นๆรวมถึงยูนิตที่จ้างได้
8.ความสัมพันธ์ของตัวละคร = ทุกตัวละครจะมีความสัมพันธ์กันอยู่ถ้าความสัมพันธ์ดีตัวละครทั้งสองตัวจะมีบัพพิเศษให้กันและกัน แต่ถ้าตัวละครผิดใจกันไม่ว่าจะนิสัยหรือเหตุใดก็ตามตัวละครสองตัวนั้นจะไม่มีบัพให้กันและกัน นอกจากนี้ความสัมพันธ์พวกนี้จะแสดงถึงตัวละครนอกฝ่ายๆตัวอื่นๆด้วย(ดูได้จากเครื่องหมายติ๊กถูกและผิด)หากตัวละครมีความสัมพันธ์ที่ดีเราจะสามารถจับพวกเขาเข้าฝ่ายง่ายขึ้นหรือทำการทูตง่ายขึ้น หากความสัมพันธ์ไม่ดีไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเราก็แทบจะไม่มีวันจับพวกเขาได้หรือทำการทูตไม่ได้เลย
9.นิสัย = นิสัยของทุกตัวละครจะมีสามอันตั้งแต่เริ่มเกมซึ่งมันจะเป็นบัพและดีบัพให้ตัวละครของเรา เมื่อระยะเวลาในเกมผ่ายไปนิสัยของตัวละครจะเพิ่มขึ่นๆเรื่อย(อย่างในภาพที่อ้วนเสี้ยวของผมมีนิสัยไป 6 อันแล้ว)โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มจากอีเว้นต่างๆให้เราเลือกหรือจากการรบต่างๆ ซึ่งเราสามารถใช้นิสัยในการตัดสินใจเลือกตัวละครเข้าฝ่ายเราอีกด้วยครับถ้าตัวละครนิสัยแย่ เช่น เป็นพวกคอรับชั่น บ้าอำนาจ ให้มองข้ามไปดีกว่าครับ
10.คราสหรือธาตุ = ในภาคนี้จะเพิ่มระบบธาตุเข้ามาซึ่งอย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นว่าธาตุหรือคราสของตัวละครจะเป็นตัวแบ่งหน้าที่และยูนิตของตัวละครตัวนั้นๆ หากใช้ยูนิตตรงกับธาตุจะได้รับบัพพิเศษ เช่น พลหอกสีเขียวกับแม่ทัพสีเขียว เป็นต้น


-สีแดง ธาตุไฟ ตัวละครประเภทบุกทะลวง ทหารประจำสายของพวกเขาคือยูนิตม้าบุกทะลวงและม้าเกราะหนักต่างๆซึ่งมีความสามารถในการชาร์จศัตรูสูงมากทำให้พลดาบที่ไม่มีค่าต้านทหารม้าถูกฆ่าด้วยการชาร์จเพียงไม่กี่ครั้ง จุดเด่นความสามารถของพวกเขาจะเน้นไปที่พลังโจมตีที่รุนแรงและการลดขวัญทหารศัตรูเป็นหลัก จุดอ่อนของพวกเขามีค่าหลบหลีกและพลังชีวิตที่ไม่สูงมากจึงไม่เหมาะถ้านำไปดวลเพราะจะแพ้ธาตุไม้และเหล็กเปล่าๆ


-สีเขียว ธาตุไม้ ตัวละครประเภทท้าดวลหรือแทงค์ ทหารประจำสายของพวกเขาคือทหารหอกพลง้าวและพลหอกโล่ต่างๆซึ่งเป็นยูนิตที่ใช้แก้ทางทหารม้าโดยเฉพาะ จุดเด่นความสามารถของพวกเขาเน้นพลังชีวิตที่มากกว่าตัวละครสายอื่นๆรวมถึงสกิลต่างๆยังใช้ในการดวลได้ดีอีกด้วยหรือจะนำไปสู้กับทหารศัตรูก็ได้ จุดอ่อนของพวกเขาคือค่าหลบหลีกที่ต่ำมากๆถึงแม้จะมีพลังโจมตีและพลังชีวิตที่เยอะแต่พวกเขามักจะถูกขุนพลธาตุเหล็กที่มีค่าหลบหลีกสูงกว่ายืนยื้อจนสู้ไม่ไหว


-สีเทา ธาตุเหล็ก ตัวละครประเภทป้องกันหรือผู้พิทักษิ์ ทหารประจำสายของพวกเขาคือพลดาบต่างๆซึ่งมีพลังโจมตีและค่าหลบหลีกสูงจึงสามารถฆ่าพลหอกได้รวดเร็ว
จุดเด่นของพวกเขาคือความสามารถหลบหลีกที่สูงมากและมีสกิลที่ยิ่งดวลนานเท่าไหร่ค่าหลบหลีกและพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆรวมถึงมีสกิลที่ช่วยลดค่าหลบหลีกของศัตรูอีกด้วยจึงเป็นตัวละครที่ทั้งเก่งบุ๋นและบู๊ จุดอ่อนคือพวกเขามีดาเมจที่ต่ำมากๆถึงแม้ค่าหลบหลีกจะสูงแต่การไม่มีสกิลดาเมจหนักๆอย่างธาตุไม้ทำให้พวกเขาต้องพึ่งพลังโจมตีของตนเองซะส่วนใหญ่ ทำให้ถึงแม้จะหลบเก่งแต่ดาเมจทีทำมันน้อยเกินไปอาจจะถูกสกิลธาตุไม้บางสกิลตบก่อนที่พวกเขาจะได้หลบเสียอีก


-สีฟ้า ธาตุน้ำ ตัวละครประเภทกุนซือ ทหารประจำสายของพวกเขาคือการสร้างยูนิตประเภทยิงไกลต่างๆเช่นหน้าไม้กล,หน้าไม้หรือเครื่องยิงหินและรถพ่นไฟ นอกจากนี้กุนซือยังสามารถเพิ่มกระสุนและดาเมจให้พลยิงไกลได้อีกด้วย จุดเด่นความสามารถกุนซือคือการดีบัพศัตรูต่างๆทั้งลดค่าหลบหลีกเพิ่มคูลดาว์สกิลศัตรูหรือสกิลสายบัพอย่างเปิดแมพในการต่อสู้และบัพทหารและตัวละครอื่นๆ จุดอ่อนของพวกเขาคือไม่มีสกิลหรือ status ในการต่อสู้เลยหากตัวละครธาตุไฟหรือไม้ถึงตัวเมื่อไหร่เตรียมตัวตายได้เลย


-สีทอง ธาตุดิน ตัวละครประเภทบัญชาการรบ ทหารประจำสายของพวกเขาคือการจ้างทหารม้าโล่ที่มีพลังป้องกันสูงและยืนสู้ได้นานต่างจากม้าบุกทะลวงที่ยืนสู้ไม่เก่งนัก จุดเด่นความสามารถคือสกิลบัพทหารต่างๆทำให้ทหารแตกทัพยากขึ้น จุดอ่อนไม่ต่างจากกุนซือพวกเขาไม่มีสกิลเกี่ยวกับการต่อสู้เลยแต่อย่างน้อย status ดูดีกว่ากุนซือทำให้พวกเขาพอสู้ได้บ้าง

นอกจากนี้ยังมีคราสของฝ่ายผ้าเหลือและม่านใต้พวกเขาก็มีคราสเป็นของตังเอง แต่ในช่วงต้นเกมพวกเขาจะอ่อนแอมาก แต่เมื่อ Status ถึงที่กำหนดจนกลายเป็น legendary lord เมื่อไหร่พวกเขาจะเก่งขึ้นมาก

-โจรโพกผ้าเหลือง
-สีแดง+สีเขียว ธาตุไฟผสมไม้ ตัวละครประเภทผู้รักษา ความสามารถเหมือนและทหารเฉพาะเหมือนเดิมทุกอย่างแต่เป็นด้วยการผสมสองธาตุทำให้พวกเขาทั้งสามารถดวลและสู้กับทหารได้ นอกจากนี้พวกเขายังมีสกิลรักษาตัวละครตัวอื่นๆด้วย


-สีฟ้า+สีขียว ธาตุน้ำผสมไม้ ตัวละครประเภทยอดฝีมือ ความสามารถเหมือนและทหารเฉพาะเหมือนเดิมทุกอย่างแต่เป็นด้วยการผสมสองธาตุทำให้พวกเขาทั้งสามารถดีบัพทหารศัตรูและบัพตัวเองได้


-สีทอง+สีเทา ธาตุดินผสมธาตุเหล็ก ตัวละครประเภทผู้ศึกษา ความสามารถเหมือนและทหารเฉพาะเหมือนเดิมทุกอย่างแต่เป็นด้วยการผสมสองธาตุทำให้พวกเขาทั้งสามารถทำให้นอกจากพวกเขาจะบัพทหารเก่งเหมือนธาตุดินแล้วพวกเขายังดวลเก่งเหมือนธาตุเหล็กด้วย

การต่อสู้


เข้าสู้ phase 2 ครับ เมื่อนำตัวละครทั้งสองฝ่ายเข้าหากันจะเข้าสู่หน้าต่างการต่อสู้ดังภาพครับ ผู้เล่นสามารถตัดสินใจได้ครับว่าจะสู้หรือถอย หากถอยสองครั้งและศัตรูยังตามเราได้เราจะหนีไม่ได้ครับ
การต่อสู้พื้นที่ราบ
1.รายละเอียดก่อนเริ่มสู้
1.1. Fight night battle = เมื่อฝ่ายบุกเลือกติ้กโหมดสู้ตอนกลางคืนผู้เล่นและศัตรูจะไม่สามารถเรียกกำลังเสริมมาช่วยได้และลด ขวัญกำลังใจทหารอีกฝ่าย
1.2.Deployed = จำนวนกองทหารทีเข้าสู่การต่อสู้
-Reinfocing = จำนวนกำลังเสริม
-Predicted casualties = ความเสียหายต่อกองทัพเราและศัตรู
1.3. = คอมพิวเตอร์จะคำนวนโอกาศที่เราจะชนะขึ้นมาหากหลอดเส้นสีเขียวอยู่ฝ่ายเราเยอะเราสามารถกดออโต้ได้เลยครับ หากสีแดงอยู่ฝ่ายศัตรูเยอะเราจะมีโอกาศแพ้มากกว่าครับ
1.4.Start battle = เริ่มการต่อสู้
1.5.Delegate = ออโต้การต่อสู้อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นจาก 1.3 ครับ การกดออโต้ ai จะเข้ามาคุมกองทัพเองในบางครั้งการกดออโต้จะสร้างความเสียหายมากว่าปรกติ(บางครั้งก็งงๆเหมือนกันว่ามันออโต้อีท่าไหนให้ตายไป 7/10 พอเราคุมเองเสียไป 3/10 หรือ 5/10 ก็มีครับ-*-) สามารถดูจากหลอดได้เลยครับว่าควรกดออโต้ดีไหม
1.6.Retreat = สั่งให้กองทัพถอยทัพเมื่อสั่งถอยครบสองรอบแล้วกองทัพอีกฝั่งยังตามมาได้เราจะไม่สามารถถอยทัพได้ครับ
1.7.Quick save = เซฟด่วนสำหรับคนที่อยากจะกลับมาแก้ตัวเราสามารถกด quick save ก่อนได้ครับ แต่ถ้าเราแพ้ในเกมเราสามารถกด Rematch เพื่อสู้ใหม่ได้ครับ
1.8.Map view = เราสามารถกด Map view เพื่อเช็คแผนที่เพื่อวางแผนก่อนเรารบได้ครับ


ก่อนจะเข้าสู่การต่อสู้ขอเล่ารายละเอียดของ status ทหารก่อนและการแพ้ทางกันของทหารก่อนนะครับ ทหารทุกตัวจะมี status ต่างกันถ้าเทียบกับภาค Shogun 2 status ทหารของภาคนนี้ระเอียดมากๆครับ
-รายละเอียด Status ทหาร
Morale = ขวัญกำลังใจหากลดจนหมดกองทหารจะเข้าสู่การแตกทัพสังเกตุจากธงที่กระพริบถ้าธงหายกระพริบกองทัพจะยังกลับเข้าสู่สนามรบได้ หากแม่ทัพตายกองทหารทั้งหมดจะลดขวัญกำลังใจอย่างมากยกเว้นตัวละครที่มีสกิลไม่ลดขวัญกำลังใจเมื่อแม่ทัพตายหรือสกิลไม่มีวันแตกทัพ
Hit Points = พลังชีวิตของกองทัพนั้นๆพลังชีวิตของกองทัพนั้นๆจะเปลี่ยนแปลงตามการตั้งค่า Unit size
Melee Charge Bonus = ค่านี้จะเพิ่มพลังโจมตีเมื่อชาร์จใส่ศัตรูค่านี้จะหายไปเมื่อชาร์จเสร็จ
Melee Attack Rate = ความไวในการโจมตียิ่งเยอะกองทัพนั้นๆจะโจมตีไวขึ้นทำดาเมจได้เร็วขึ้น
Melee Damage – Base = ค่าพลังโจมตีปรกติเมื่อนำกองทหารเข้าสู่จะนำค่านี้ไปหักลบกับค่าต่างๆ เช่น โล่ พลังป้องกันหรือหลบหลีก เกราะ
Melee Damage – Amour-Piercing = ค่าเจาะเกราะโจมตีโดยไม่สนพลังป้องกันดาเมจที่ทำจะเข้าพลังชีวิตโดยตรง แต่ค่าโล่สามารถป้องกันค่านี้ได้
Melee Evasion – Base = ค่าหลบหลีกหรือพลังป้องกันค่านี้จะถูกใชงานเมื่อกองทหารเข้าปะทะกันค่านี้จะทำงานแค่ด้านหน้าและด้านซ้ายและขวา ด้านหลังจะไม่ทำงาน
Melee Evasion – Shield = ค่าหลบหลีกเฉพาะตัวละครถือโล่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันหรือค่าหลบหลีกของกองทหารนั้นๆ
Amour – Base = เกราะจะเป็นค่าพลังป้องกันยูนิตยิงไกลต่างๆในเกม เมื่อศัตรูยิงธนูใส่เราจะนำค่านี้ไปหักลบ
Amour – Shield = ค่าพลังป้องกันของโล่โดยจะลดพลังโจมตตีของศัตรูที่โจมตีทางด้านหน้าของเรา
Range Block Chance = ค่าโล่ป้องกันยูนิตระยะไกลจะหักลบกับค่านี้เฉพาะยูนิตถือโล่จึงจะใช้ค่านี้ได้
Range Attack Rate = ความไวในการยิงของยูนิตธนู ค่านี้สูงเท่าไหร่ยูนิตจะยิงเร็วเท่านั้น
Range Damage – Base = พลังโจมตีของยูนิตระยะไกลค่านี้จะถูกนำไปหักลบกับค่าโล่และเกราะ
Range Damage – Armour-Piercing = ค่าพลังโจมตีเจาะเกราะของยูนิตระยะไกลจะทำดาเมจตรงกับพลังชีวิตศัตรู ค่านี้จะถูกนำไปหักลบกับค่าโล่
Range = ระยะในการยิง
Ammunition = กระสุน
Speed = ความเร็วของยูนิต

บัพพิเศษทหารทุกตัวจะมีบัพพิเศษต่างกันออกไปช่วยเพิ่มจุดเด่นและหน้าที่ของทหารตัวนั้นๆโดยสามารถนำเมาส์ไปชี้ไอคอนเพื่อดูความสามารถได้ครับ
-บัพพิเศษของทหาร
= ไม่มีวันแตกทัพ ตามชื่อครับพวกเขาจะสู้จนตัวตายเป็นความสามารถเฉพาะทหารพิเศษและทหารขั้นสูงๆ
= ไม่มีวันเหนื่อยหรือเหนื่อยช้า ส่วนใหญ่จะอยู่ในทหารม้าทำให้พวกเขาสู้ได้นานขึ้น
= ตีกระจายหรือตีหมู่ สร้างความเสียหายให้ยูนิตเป็นวงกว้างอยู่ในทหารราบอย่างพลดาบยาว
= เจราะเกราะโล่ อยู่ในพลขวานทำให้ค่า โล่โดนดีบัพ 50 %
= ต่อต้านทหารม้า ความสามารถส่วนใหญ่ของพลหอก การต่อต้านทหารในภาคนี้จะแตกต่างกับภาคอื่นๆโดยจะต้องให้ทหารอยู่นิ่งๆเป็นระยะเวลหนึ่งค่านี้จึงจะทำงาน เมื่อทหารม้าชาร์จเข้ามาจะโดนสะท้อนดาเมจกลับไป ถ้าผู้เล่นนำพลหอกไปชาร์จใส่ม้าค่านี้จะไม่ทำงานครับ
Scare = สร้างความหวาดกลัว ลดขวัญกำลังใจทหารรอบๆที่อยู่ในระยะ หากยูนิตมีค่าความหวาดกลัวเหมือนกันผลจะไม่ทำงาน
= ต่อต้านความหวาดกลัว
Terror = ทำงานคล้ายค่าความหวาดกลัวแต่จะต่างที่ทหารที่อยู่ในระยะถ้าขวัญกำลังใจต่ำจะแตกทัพทันที
= เมื่อแม่ทัพตายขวัญกำลังใจจะไม่ลด
= ต่อต้านความร้อนวิ่งบนทะเลทรายดีขึ้น
=ต่อต้านการยิงไกลลดความเสียหายจากยูนิตระยะไกล
=วางนอกกรอบได้ ทำให้เราสามารถนำทหารไปซุ้มรอในแนวหลังของศัตรูได้
=ยิงธนูไฟได้ ธนูไฟจะลดขวัญกำลังใจทหารลงและใช้ในการเผาหอรบ น้ำมัน ป่า และยูนิตที่แพ้ไฟจะโดนดาเมจมากขึ้น
=ยิงธนูพิษได้ ธนูพิษจะดีบัพ status ของทหารลงช่วยทำให้แนวหน้าของเราสู้ง่ายขึ้น
=เมื่อยูนิตนี้ิงจากระยะไกลจะซ่อนตัว
=เผาสิ่งก่อสร้างในฉาก ทำให้ตอนยึดเมืองสิ่งก่อสร้างนั้นจะถูกทำลาย
=ต่อต้านการชาร์จ ลดดาเมจจากการชาร์จลง

-รายละเอียดโบนัสชัยภูมิและภูมิอากาศ

-การต่อสู้ตีเมือง

SteamSolo.com