Overview
สวัสดีครับ ผมเขียนไกด์นี้ขึ้นมา สำหรับคนรัก นักธนูสายพิษอันโหดเหี้ยม (ว่าไปนั่น) นะครับ ไว้เป็นแนวทางของการเล่นสำหรับมือใหม่ ที่สนใจสายนี้อยู่นะครับ ซึ่งไกด์นี้ ผมเขียนเองเล่นเองทั้งหมด ถ้าคิดว่าอ่านแล้วตรงใจก็บริ้วตามได้เลย 😀 ขอความสนุกจงบังเกิดแก่พวกท่านครับ
บทนำ
กราบสวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านในคู่มือของผมฉบับนี้นะครับ อันนี้ไม่น่าจะเรียก ว่าคู่มือโดยตรงสักเท่าไร แต่อันนี้เป็นแนวทางประสบการลองผิดลองถูก บิ้ว แตกแล้วแตกอีก จากที่ผมลองเล่นมานะครับ เผื่อใครจะเอาไปเป็นแนวทางหรือประยุกต์ใช้ก็ไม่ว่ากัน
หลายๆ เกมที่ส่วนใหญ่ผมจับมา ก็คงหนีไม่เป็นอาชีพธนู นั่นเอง ^_^ สายหรอย ยิงไกล เน้นดาเมจที่หนักหน่วง และความเท่ของตัวละครเป็นส่วนประกอบ
แต่ชุด ของ Wugushi ผมไม่ชอบเลย 555+ มันเหมือนชุดเด็กดอยใจดี ไว้รอชุดคอสตูมใหม่ๆ มาดีกว่า และเนื่องจากวันนี้เซิฟปิด ผมจะนั่งเขียนคู่มือนีไปเรื่อยๆ รอเซิฟเปิดนะครับ
อันนี้ตัวเก่า ผมบิ้วแตกไปเรียบร้อย เนื่องจากไปลง Sapper คลาส 3 ไอ้ที่จริงก็ไม่น่าเรียกว่าแตกนะครับ แต่ผมไม่พอใจในดาเมจที่ทำได้ เลยขอเริ่มใหม่ดีกว่า
หน้าที่หลักๆ ของเราคือเน้นเข้าไปปล่อยลูกดอกพิษไห้เป็นดาเมจต่อเนื่องนะครับ จากนั้นในระหว่างรอคูลดาว เราก็คอยวิ่งหนี หรือถ้ามอนไม่สนใจเรา เราก็ใช้ธนูทำดาเมจต่อเนื่องไปเลยก็ได้
ไว้ผมจะเพิ่มข้อมูลเรื่อยๆ ไห้คู่มือนี้เสร็จสมบูรณ์ 100% นะครับ
ข้อดีและข้อเสียของอาชีพสาย Wugushi
ข้อดี
1. เหมาะสำหรับ Solo Player เป็นอย่างมาก เพราะว่า สามารถทำดาเมจ 1-1 ได้สบาย ต่อบอสเควส ซึ่งบอสเควส จะตายภายในสองสกิลทันที
2. ใช้สกิลคอมโบง่ายกับสาย Archer อย่างเช่น ระหว่างเรารอสกิลยิงลูกดอกพิษของเราคูลดาว เราก็จัด สกิล Multishot ของ Archer ต่อได้ทันที
3. สะดวกสบายในการเก็บ World boss เพราะดาเมจพิษเราแรงมาก และต่อเนื่อง ทั้งสามสกิล
4. เพื่อนคู่ใจสาย Linker ^^ อาชีพ Wizard สาย Linker คือคู่หูชั้นยอดของเรา ถ้าเรามี Mate เป็นวิสาจ สาย Linker แล้วละก็ เราจะเก็บมอนแบบกลุ่มได้รวดเร็วมาก จากที่เราทำดาเมจ 1 ตัว ทำได้ 3000 ต่อ 0.1 วิ จะกลายเป็นว่าเราทำดาเมจ มอนเตอร์ 5 ตัว 3000 ต่อ 0.1 วิเลยทีเดียว 😀
5. ผลของสกิล ยาวนานและต่อเนื่อง
ข้อเสีย
1. ช่วงแรก เก็บเลเวล ยากมากๆ กว่าจะผ่านพ้น Archer 3 มาได้ (สำหรับสายที่ผมเล่น) อาจทำไห้หลายๆ คนเลิกเล่นไปก่อน
2. ถ้ามี Wugushi 2 คนขึ้นไปใน หนึ่งปาร์ตี้ จะทำไห้พิษของเราทับกัน ซึ่งจะคำนวน จาก การยิงของคนหลังสุด เป็นดาเมจ ทำไห้ดูไร้ประโยชน์ไปเลย ถ้ามี Wugushi 2 คนขึ้นไป
3. ถ้าเป็นสาย Solo แบบเล่นคนเดียวจริงๆ ต้องเผื่อ Stat พ้อย ไว้ลง CON เพื่อเพิ่มเลือด หรือลง Spr เพื่อเพิ่มมานา ด้วย
4. ใช้การ์ดได้แค่สองแบบ การ์ดที่ว่าคือ การ์ดปูจาก World Boss หรือ จากการ์ด มด บอสดันเลเวล 200 เท่านั้น อนาคตภายภาคหน้า หวังว่าทีมงานคงไห้ใช้การ์ดได้หลากหลายกว่านี้
5. ถ้าไม่ขยันฟาร์มของทำพิษ ทุนต้องหนา อย่างที่บอกครับ ยาพิษสำหรับสายเราแพงมากๆ ราคาจะอยู่ 700 กว่าๆ เลยทีเดียว ซึ่งต้องใช้ ประมาณ 4-5 ขวด ในการเติมเต็ม
6. ชุดผู้ชาย ไม่สวย มันเหมือนชุดชาวเขา -….- ข้อนี้ อาจเป็นความรู้สึกมโนของผมเองก็ได้ 5555+
7. พิษปาลงพื้น ไม่สามารถ ทำดาเมจ ต่อมอนที่บินอยู่ได้ T-T
เอาละครับ ถ้ารับได้ในข้อดีข้อเสียข้างต้นที่ผมกล่าวไป เราก็ไปกันต่อได้ครับ
แนวทางการเก็บเลเวลแต่ละช่วงเวลา
ขั้นตอนการเปลี่ยน Subclass
แนวทางการอัพ STAT และสกิล
สาเหตุที่ผมใช้ Archer 3 เพราะว่าต้องการรีดความสามารถสกิลพื้นฐานของ นักธนูมาช่วยทำดาเมจช่วงแรก และช่วงหลังๆ ได้เต็มที่ครับ การอัพ STAT ของสายนี้ ไม่เน้น DEX นะครับ เพราะความแรงของพิษ ไม่มีผลต่อค่าคริของ DEX อยู่แล้ว ที่เหลือเราก็เอาไปลง ค่า SPR เพื่อเพิ่ม มานา หรืออัพ CON ไว้เพิ่มเลือด เนื่องจากพิษเราแรงมาก พวกบอส จะหันมาเล่นงานเรา ถ้าเราไม่มีเลือดมากพอ รับรอง นอนบ่อยแน่ๆ 555+ หากเราเล่นสาย PVP หรือ หรือ เน้น PVE ไว้ Solo บอส ตัวเราจะได้ถึกๆ เลือดเยอะๆ แทน แต่ส่วนใหญ่นั้นเราเน้นไปทาง STR แน่นอน ข้อเสียของสายนี้นะครับ จะเคลียมอนที่มาเป็นกลุ่มลำบากมาก หาเราผ่านพ้นมาถึง Rank 5 ได้ เราจะสบายมากเนื่องจากมี Throw Gu Pot ไว้เป็นสกิลหมู่ แต่ข้อเสียของสกิลนี้ก็มีอีกนั่นแหละ คือไม่สามารถทำดาเมจกับมอน ที่ลอยอยู่ได้ T-T
เราจะใช้ Multi Shot กับ Oblique Shot ไว้เก็บบอสหรือฆ่ามอนสเตอร์ อย่างรวดเร็วนะครับไห้อัพเต็มโควต้าเลย ช่วงแรกไห้เราลง DEX สลับ STR ไปเรื่อยๆ ก่อนเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำในการเก็บมอนเตอร์ตัวเล็กๆ ระวังเรื่องการใช้ มานาด้วยนะ Skil ของ Archer ใช้มานาค่อนข้างเยอะ แนะนำถ้ามีตังไห้ซื้อยาปั้มมานาขวดเล็กนะครับ ไม่ต้องเหนียว เดี๋ยวมีตังเรื่อยๆ เองไม่ต้องห่วงในเรื่องเงิน
เมื่อเราเดินทางมาถึง Rank 2 เราจะใช้เหมือนเดิมครับ Multi Shot อัพเต็มเพื่อเร่งความแรงในการเก็บบอส และอัพ Swift Step เพื่อเพิ่มการหลบหลีกและการยิงสกิลที่เร็วขึ้นระหว่างรอสกิลคูลดาว
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เก็บเลเวลหินที่สุด ควรหาปาตี้หรือคู่หูสักคนเวลพร้อมกันนะครับ แต่ในตอนนี้เราจะมีสกิล
Twin Arrows ซึ่งยิงธนูออกไป สองดอกช่วยเพิ่มดาเมจที่มากขึ้น อัพตามนี้นะครับ หรือถ้าใครมีสกิลในดวงใจ อยากจะสับเปลี่ยนก็ไม่ว่ากัน
เย้ ในที่สุดเราก็มาถึงทางที่เราต้องการ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สนุกที่สุดครับ เนื่องจากเราได้สกิลใหม่ๆ ของ Wugushi มาใช้แล้ว ในส่วนนี้ ผมจะใช้สกิลทำดาเมจสองสกิลนะครับ คือ Needle Blow กับ Wugong Gu ลูกดอกพิษมหาปะลัย (ว่าไปนั่น) สองสกิลนี้เป็นสกิลที่รุนแรงมากและทำดาเมจต่อเนื่องด้วย
โอเย้ หลังจากที่เรามีสกิลเดี่ยวที่รุนแรงมาใช้ทั้งสองสกิลแล้วนะครับ มาถึง Rank 5 เราจะมี Skil หมู่ใช้กันแล้ว เรียกว่าสกิล Throw Gu Pot ปาไหปลาร้าพิษนั่นเอง หึหึ ซึ่งสกิลนี้ ทำความเสียหายหมู่และรุนแรงมากๆ ส่วนอย่างอื่นเหมือนเดิมครับ ในช่วงนี้ลง STR ไปเลยเต็มที่เพื่อรีดความแรงที่มากขึ้น หากสังเกตุเห็นมอนหลายๆ ตัวกำลังติดพิษอยู่ จากสกิล Throw Gu Pot เราก็ใช้สกิล Bewitch ดีดนิ้วไห้มันมึนงง สับสนก็ทำได้ครับ
ลูกดอกพิษสุดโหด มีลูกน้องโหดคือแมลงสาบ 😀 พอเราเดินทางมาถึงมาถึง Rank 6 แล้ว เราก็จะมีสกิลใหม่เพิ่มขึ้นมา ชื่อว่าสกิล Jincan Gu เมื่อปายาพิษสกิลนี้เข้าไป จะทำไห้ศัตรูที่ตายไป กลายเป็นแมลงสาบ พวกของเรานั่นเอง ถามว่าสกิลนี้โหดมั้ย ผมก็ว่าเฉยๆ นะ เนื่องจาก แมลงของเรา มีอายุสั้น และกัดเบาไปหน่อย ดอกละ 200-300 แต่ถ้าหลายๆ ตัวก็มีเจ็บอยู่เหมือนกัน มาถึง Rank 6 นี้ เราจะอัพสกิล Wugong Gu และ Needle Blow ได้ 15 ครับ ซึ่ง Needle Blow จะมีคูลดาวที่เร็วกว่า Wugong Gu เล็กน้อย เวลาผม คอมโบ ผมจะใช้สกิล Jincan Gu > Throw Gu Pot > Bewitch แล้วใช้ธนูทำดาเมจต่อ หรือถ้าเจอมอนเลือดเยอะ ผมก็จะใช้ Needle Blow เก็บต่อไห้ตายทันที 😀
เอาละ จบกันไปสำหรับแนวทางการ Build นะครับ ส่วน Rank 7 นั้นผมกำลังจะเปลี่ยน Cannoneer เพื่อมาทำ Combo AOE ของ Wugushi ต่อไว้เปลี่ยนเสร็จแล้วจะมาทดสอบไห้ดูนะครับ
ขอบคุณภาพประกอบจาก tosbase.com ด้วยครับสำหรับเวบจำลองการอัพสกิล หรือใครอยากลองก็เชิญที่นี่เลย [link]