Overview
ไกด์นี้ได้รวบรวมไกด์ banished จาก steam guides อื่น เอามายำรวมและแปลแบบซับนรกไว้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจ แปลผิดบ้าง ไม่ตรงบ้าง ขออภัยในความไม่สะดวก 🙂
อ้างอิง
1. How to survive years 1 – 3
[link]เครดิตผู้สร้าง : CamyWright66
2. Quick Tips for Banished
เครดิตผู้สร้าง : Darkshepherd
3. No More Starvation
เครดิตผู้สร้าง : ZeroCool 7545
4.Smart Play: Exploit Utility Merchant
[link]
เครดิตผู้สร้าง : Fray Tormenta
[link]
1.1 สิ่งที่คุณต้องรู้
อันดับแรกที่คุณรู้เป็นพื้นฐาน
ชาวเมืองของคุณกินอาหารประมาณ 100 หน่วย/ปี เด็กก็กินเท่าผู้ใหญ่
คุณต้องการอาหารแค่ชนิดเดียวเพื่ออยู่รอด แต่ !! ถ้ามีอาหารหลากหลายชนิด จะช่วยเรื่องสุขภาพของชาวเมือง
Firewood(ฟืน) เป็นสิ่งที่ไว้ใช้สร้างความอบอุ่นขั้นต้น
Clothes(เสื้อ) ก็สำคัญ Hide coats (ทำมาจากหนังสัตว์) เป็นชนิดที่พื้นฐานที่สุด ส่วน Wool Coats (ขนแกะ) ก็ดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย และ Warm Coats ยอดเยี่ยมกระเทียมดองที่สุด
1.2 Steps และ How To
Step แรก : ออกแบบเมืองของคุณไว้ก่อน มันยากที่คุณจะต้องจัดการวางเหมืองกับสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆให้ลงตัวได้ เมื่อคุณเริ่มเกมไปแล้ว (สิ่งก่อสร้างสามารถกดหยุดได้ วางๆไว้ก่อน ค่อยมากดสร้างทีหลัง)
Step 2 : วางตลาดไว้ตรงที่ตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็นเมือง โดยวางไว้ตรงกลาง (ยังไม่ต้องใส่คนงานก็ได้)
Step 3 : เรื่องอาหาร อย่าเริ่มด้วยการสร้างฟาร์ม ให้เริ่มด้วย hunter (กระท่อมล่าสัตว์) และ gatherer (แคมป์คนเก็บของป่า) สร้างไว้ที่เดียวกัน ส่วนตกปลา ก็ดี เพราะมันสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ได้จำนวนน้อยกว่าสิ่งปลูกสร้างอื่น คุณจะสร้างมันก็ได้ถ้าคุณว่างงานพอและไม่มีอะไรจะทำ
Step 4 : อย่าสร้างสิ่งปลูกสร้างอะไรก็ตามที่คุณยังไม่ใช้ในตอนนี้ กดสร้างแล้วก็กดหยุดไว้ซะ จนกว่าคุณจะต้องการใช้งานมัน
Step 5 : ช่างก่อสร้างมีสักกี่คนดี (ส่วนมาก 2-3 คนก็เพียงพอ) ส่วนที่เหลือ ก็ปล่อยให้พวกเขา เคลียร์พื้นที่ เก็บทรัพยากร แล้วก็ใช้งานตามแผนต่อไปของคุณ
2.1ออกแบบเมืองของคุณตั้งแต่เนิ่น
เหมืองกับเหมืองหินเป็นอะไรที่ยากมากที่จะจัดวางไว้บนแผนที่ ถ้าคุณปล่อยมันไป ไว้ทีหลัง คุณจะพบกับปัญหาที่สร้างความรำคาญและปวดเฮด !! ในการจัดการให้มันลงตัว กับเมืองที่คุณมีอยู่
ดังนั้น แผนที่ดีที่สุด คือค้นหาสุดยอดตำแหน่งเหมืองของคุณ ก่อนที่จะเริ่มสิ่งอื่น จำไว้นะ : คุณสามารถกด หยุด สร้างสิ่งก่อสร้างของคุณได้ทันที แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจมันนานเท่าไหร่ก็ได้ จนกว่าคุณจะต้องการ ตัวเกมจะจดจำตำแหน่งสิ่งก่อสร้างของคุณ คุณสามารถเริ่มก่อสร้างมันในปีนี้หรือในอนาคตก็ได้ มันไม่ต้องเสียทรัพยากรในตำแหน่งสิ่งก่อสร้างในอนาคตของคุณหรอก ถ้าคุณกดหยุดทันทีวางมัน
ถ้าคุณเล่นแผนที่ขนาดกลาง คุณต้องการ อย่างละ 2 เหมือง (หิน 2 แร่ 2) ถ้าคุณเล่นแผนที่ขนาดใหญ่ คุณจะต้องการอย่างละ 3-5 เหมือง ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ
หากคุณไม่มีพื้นที่ที่พอใจสำหรับไอ้ตัวปัญหาสองตัวนี้…. เริ่มเกมใหม่ซะ !! มันจะได้เปรียบมาก คุณสามารถลองวางมันไว้ในตำแหน่งต่างๆ ได้ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตใหม่ มันเป็นอะไรที่ง่ายกว่า ในการยกเลิกการสิ่งก่อสร้าง ถ้าคุณตัดสินว่ามันไม่ใช่ในภายหลัง มันไม่มีอันตราย ไม่มีข้อเสียเปรียบ พยายามทำมันเป็นอย่างแรกตั้งแต่เริ่มเกม[/b]
สำคัญมาก : เหมืองแร่และเหมืองหิน ไม่มีการเติมให้เต็ม ตอนมันหมดแล้ว หมดแล้วหมดเลย พวกต้นไม้ ฟาร์ม มันยังโต วัว มันยังออกลูกได้ แต่เหมือง มันทำได้ครั้งเดียวแล้วก็จบไป ตลอดกาล ทำให้แน่ใจว่า คุณมีสถานที่ดีๆ ไว้สำหรับสิ่งก่อสร้างเจ้าปัญหา
2.2 เริ่มต้นโดยไม่มีภัยธรรมชาติ (ปรับ disasters เป็น off )
หัวข้อนี้ อาจจะต้องโต้เถียงกันหน่อย แต่ผมไม่แคร์ คำแนะนำของผมเมื่อเริ่มเกม (ถ้าคุณเป็นมือใหม่ หรือ noob นั่นเอง) ให้เริ่มโดยปิดโหมดภัยธรรมชาติ (ปรับ disasters เป็น off )
มันมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ความสนุกอีกมากมาย และมี gameplay อีกเยอะที่อยู่ในโหมดสร้างเมืองแบบปกติ(รวมถึงพวก achievements ด้วย)
เก็บโหมดภัยพิบัติไว้ก่อน หลังจากที่คุณคุ้นเคยกับเกมแล้วและเมื่อคุณรู้ดีในสร้างสร้างสิ่งต่างๆและทุกๆเรื่องของเกมแล้ว ถึงตอนนั้นคุณก็ค่อยปรับใส่โหมดภัยพิบัติเพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มระดับความยากและเพิ่มระยะเวลาในการเล่นเกม
ข้อร้องเรียนส่วนใหญ่ของเกมนี้ เกี่ยวกับการที่พวกเขาอยากให้เพิ่มโหมดภัยพิบัติเข้ามาเมื่อพวกเขาพร้อม(ประมาณว่า เพิ่มโดยไม่ต้องเริ่มเล่นใหม่มั้ง)
คุณจะเจริญเติบโตไปพร้อมๆกับเมืองของคุณ คุณจะรักเมืองของคุณ คุณคงไม่อยากให้เมืองของคุณถูกเผาไหม้ไปต่อหน้าต่อตาในตาแรกที่คุณสร้างเมืองสำเร็จ
เริ่มต้นโดยปราศจากภัยพิบัติแล้วเอ็นจอยไปกับเกม มันจะเป็นเกมที่ดี ที่เมืองคุณเริ่มโตขึ้นๆ ในโหมดปกติ
เก็บ achievements แล้วก็เอ็นจอยไปกับเกมซะ แล้วก็เพิ่มโหมดภัยพิบัติ ถ้าคุณไม่สนใจแล้วว่าเมืองคุณจะเป็นไงต่อไป
2.3 อย่าแลกเปลี่ยน เหล็ก หรือ หิน
เหล็กกับหิน 2 อย่างเนี้ย มันไม่งอกใหม่เติมเต็มขึ้นมาในเมืองของคุณ
เหล็กจะไหลไปกับสายน้ำจากเมืองของคุณไปหาพ่อค้า
หินก็จะไหลไปกับสายน้ำจากเมืองของคุณไปหาพ่อค้าเช่นกัน
ส่วนเสริมของกฎนี้ คือ เครื่องมือก็ควรจะนอนนิ่งอยู่ในเมืองคุณเช่นกัน อย่าแลกเปลี่ยน เครื่องมือ !! (เพราะมันทำจากเหล็ก)
ฟืน เป็นทรัพยากรแลกเปลี่ยนที่เจ๋งที่สุด เพราะมันแลกได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ ต้นไม้ตัดไปมันก็โตต่อไปได้ แต่หินกับเหล็ก มันไม่อย่างงั้น
ทำให้แน่ใจว่า เหล็กกับหินจะวิ่ง เข้ามา ในเมืองของคุณ และมันไม่เคย ออก จากเมืองของคุณไปเลย
2.4 Foresters โครตรสำคัญสำหรับเกม
Foresters สำคัญมากตอนเริ่มแรกและก็สำคัญตอนท้ายเกมด้วยเช่นกัน
ต้นเกม คุณต้องการคนตัดไม้เพื่อรักษาความหนาแน่นของป่า(เพื่อการล่าสัต์และเก็บของป่า) และเพื่อเก็บสะสมไม้สำหรับสิ่งก่อสร้างต่างๆ แล้วก็ใช้ทำฟืนด้วย
ช่วงหลัง คุณจะต้องการพวกเขาสำหรับการปลูกป่า
อย่างไรก็ตาม มันไม่จำเป็นต้องมีต้นไม้ล้อมรอบ Foresters ทั้งหมด คุณสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างรอบๆได้ โดยเหลือพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 25 % ท่อนไม้เป็นทรัพยากรที่มีประโยชน์ที่สุดของเกม
ตรงกันข้าม ไกด์ส่วนมาก จะแนะนำให้คุณจิ้มที่ปุ่มเปิดใช้ “planting” and “harvesting” กับทุก หอคอย Foresters ในเมืองของคุณตลอดเวลา ในทุกขั้นตอนของเกม แนะนำให้เปิดทั้งสองโหมดตลอดเวลา
2.5 ตกปลา
ตกปลามันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์
แต่ ก็ไม่แน่เสมอไป
อย่าทำผิดพลาดด้วยการตกปลาตอนเล่นแรกเริ่ม การตกปลาเนี่ยมันให้อาหารเป็นผลตอบแทนต่อหน่วยน้อย อย่างไรก็ดี จำไว้ว่า น้ำมันก็ไม่มีประโยชน์อื่นๆในเกม มันเป็นแค่แผ่นน้ำโง่ๆที่ไม่มีอะไรให้คุณอีกแล้ว(นอกจากปลา) ดังนั้นก็รวมถึงปลาคุณด้วยล่ะ(ที่ไร้ประโยชน์)
แต่ ! เดี๋ยวก่อน รออีกสักพักจนกระทั่งคุณไม่มีอะไรที่จะทำแล้ว คุณก็ยังต้องการพวกปลาอยู่ เพื่อปลดล็อก
achievements บางอัน ดังนั้นแล้วก็ไปตกปลากันเถอะ มันยังไม่สายเกินไปในตอนนี้ และอย่าเอาเมืองคุณไปเสี่ยงเพื่อตกปลา
บางที (เก็บของป่า>>ล่าสัตว์>>ทำฟาร์ม>>ทำสวน>>ปศุสัตว์>>ตกปลา) หน้าจะเป็นต้นแบบที่ดีที่สุด
แต่ : ตกปลาเป็นอะไรที่ง่ายดาย คุณสามารถจะลัดขั้นตอนใส่มันลงไปในแผนต้นแบบได้ตลอดเวลาที่คุณไม่มีอะไรที่ดีกว่าแล้วที่คิดจะทำ ให้แน่ใจว่า !! คุณไม่มีอะไรที่ดีกว่าแล้วจริงๆ
2.6 สร้างบ้านหินซะ !!
ตอนทุกอย่างเริ่มต้น คุณคงอยากจะสร้างบ้านไม้เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรและมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี บ้านไม้เป็นที่อยู่ของพวกเขา
แต่ ทันทีที่คุณคิดจะสร้างบ้านหิน คุณก็จะเริ่มคิด ว่าทำไมคุณไม่ลงมือสร้างบ้านหินมาตั้งแต่เริ่มต้น
การอัพเกรดจากบ้านไม้ไปเป็นบ้านหิน มันสร้างความเจ็บปวดในใจ และสิ้นเปลืองวัสดุ ถ้าคุณแค่ต้องการจะอัพเกรดบ้านไม้หนึ่งหลัง คุณก็แค่สร้างมันก่อนหน้านี้แค่นั้นเอง
บ้านหินมีประโยชน์กว่าบ้านไม้ หลักๆ 3 ข้อ
1.ใช้ฟืนทำความร้อนน้อยกว่า
2. บ้านคุณจะไม่เกิดไฟไหม้ง่ายๆ (ถ้าคุณเปิดโหมดภัยพิบัติ)
3. เป็นอะไรที่ดีที่สุด สำหรับการเพิ่มประชากร
แต่พูดอย่างตรงไปตรงมา ถัดจากหลังที่ 10 เป็นต้นไป ถ้าคุณสร้างบ้านไม้ เมืองของคุณจะโตขึ้นไวโครตรๆ
2.7 บ้านในเกมนี้ ไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับคุณ
ในเกมอื่น ผู้คนทำงานให้คุณ แต่ ในเกมนี้มันไม่ใช่อย่างงั้น
ในเกมอื่น : คุณสร้างบ้านแล้วก็เร่งจำนวนประชากรของคุณ ต่อจากนั้น ก็สร้างกองทัพ หรือ อะไรที่เหนือกว่านั้น เพื่อชนะเกม
เกมนี้ : คุณสร้างบ้านแล้วก็รอวันตาย
โอเค, ซีเรียส : ในเกมนี้คุณสร้างโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่างที่คุณต้องการ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพร้อมจะทำ และคุณจะสร้างบ้านเพื่อเพิ่มจำนวนประชากร
ผมไม่เคยลืมว่า เกมนี้ไม่เหมือนเกมอื่นๆ คุณควรเพิ่มจำนวนประชากร เมื่อคุณสามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้
บ้านถ้าสร้างรองรับไว้เยอะ จะทำให้คนเพิ่มจำนวนเร็วเกินไป ถ้าเราไม่มีอาหาร สิ่งของ เตรียมไว้ให้พอ ก็ได้แต่รอวันตาย แล้วก็ คนในเกมนี้เนี่ย มันไม่ได้ทำงานให้เรานะ เราดิ ทำให้มัน เพราะมันต้องกินต้องใช้ ทุกคน ตลอดเวลา ไม่ได้เหมือนเกมอื่น ใช้ทรัพยากรสร้างครั้งเดียวแล้วจบกัน
2.8 พวกคนเร่ร่อน(Nomads) แม่งห่วย !!
ในเกมนี้ พวกคนเร่ร่อนแม่งห่วยมาก พวกมันไม่ได้เรียนหนังสือและเพิ่มประชากรคุณอย่างรวดเร็ว
ปล่อยพวกไร้ประโยชน์นี่ไป คุณจะได้รับบทเรียนที่ดีแน่ถ้าต้อนรับพวกเขา
[มันมี achievement ที่ต้องรับพวกเร่ร่อน 200 คน นั่นล่ะเป็นบทเรียนที่ดีที่คุณจะลองรับพวกมัน ปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นเพื่อไปเจออะไรที่แม่ง..แต่ก็สนุกดี ที่ต้องเล่นสวมบทบาท กับไอ้ achievement เจ้าปัญหานี่ แต่มันก็ทำให้เกมสนุกขึ้น ]
2.9 เติมท่าแลกเปลี่ยนสินค้า (traders) ไว้ครึ่งนึง
มันเป็นอะไรที่เยี่ยม แต่ถ้าคุณลืมเติมมันด้วยสิ่งของที่คุณจะแลกเปลี่ยนออกไปจากเมืองของคุณ คุณก็จะไม่มีที่ว่างไว้สำหรับสินค้าที่คุณต้องรับเข้ามา
ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็เกิดขึ้นกับผมในบางครั้ง
ดังนั้น แผนที่ดีที่สุดคือ เติมมันให้เต็มด้วย ฟืน สัก 50 – 70 % ถึงตอนนั้น คุณก็จะสามารถแลกเปลี่ยนทุกอย่างได้ตามที่คุณค้องการ โดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง
2.10 ขนาดของฟาร์ม
ฟาร์มค่อนข้างที่จะเก็บเกี่ยวแบบสุ่ม แต่ นี่คือกฎเหล็กที่ไว้จัดการกับเรื่องนี้
ชาวนา 1 คน ต่อ ฟาร์มขนาด 8×8 1คน สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 500 ยูนิตต่อปี ตัวเลขนี้จะเป็นกฎเหล็กของเรา
ถ้าคุณมีฟาร์มขนาดใหญ่ ให้เพิ่มชาวนา แต่อย่าเพิ่มมากเกินไป
มันไร้ประโยชน์ที่จะให้ฟาร์มหนึ่งๆ มีชาวนามากกว่า 4 คน ผมมั่นใจว่าคุณจะเก็บเกี่ยวได้น้อยกว่า 500 ยูนิตต่อชาวนา 1 คน หรือว่าคุณอยากบั่นทอนกำลังของชาวบ้านตัวเอง ? มันจะเป็นทางที่ดีกว่า ถ้าคุณลดจำนวนคนงานลง
มันเป็นอะไรที่ดีมาก ถ้าเราจะทำแบบพอดีๆ คุณสามารถเพิ่มคนงานที่หลังได้ เมือเมืองคุณใหญ่ขึ้น คนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในเกมนี้ ที่ดินก็สำคัญ แต่มันก็ยังไม่สำคัญเท่าคน ดังนั้น อย่าใช้กำลังคนอย่างฟุ่มเฟือยในที่ดินของคุณ
2.11 เหล้า ในปริมาณที่พอเหมาะ
เหล้าเนี่ยมันยอดเยี่ยม ในปริมาณที่พอดีนะ
จำได้ไหม เหล้านี่ทำมาจากเมล็ดพืช ผลต่างๆ ในคลังอาหารของคุณนะ ผมเคยทำผิดพลาด จากการที่ผมผลิตเหล้าเก็บไว้มากเกินไป และ ชาวเมืองของผมกำลังจะหิวตาย ปัญหานี้หมดไปในทันที เมื่อผมกด หยุด ผลิตมันในร้านเหล้าของผม
เหล้าทำให้ชาวเมือง มีความสุข ในปริมาณน้อย ๆ พวกเขาไม่ต้องการมันมากขนาดนั้นหรอก
2.12 ข้าวสาลี ! ดีที่สุด !
ข้าวสาลีเป็นพืชที่สุดยอดที่สุด เพราะว่า มันสามารถทำให้ชาวเมืองอิ่มท้อง แถมมันยังเอาไปใช่ทำเหล้าได้อีกด้วย
พืชชนิดอื่น ไม่มีคุณสมบัติที่จะเอามาทำเหล้าได้
สวนผลไม้ สามารถผลิตผลไม้เพื่อเอามาทำเหล้าได้ แต่ไอ้พวกที่อยู่บนทุ่งเนี่ย มีแต่ข้าวสาลีเท่านั้นที่ทำได้ (มันก็คือเบียร์นั่นแหละ แม้ว่าในเกมจะไม่ได้เรียกมันว่าเบียร์)
2.13 หลุมฝังศพ
หลุมฝังศพ ช่วยรักษาระดับความสุขของชาวเมือง จากประสบการณ์ของผม มันช่วยค่อนข้างมาก
หลุมศพของแต่ละคน ดูเหมือนจะหายไปหลังจากนั้น 20 ปี ถ้าไม่อย่างงั้น มันก็จะไม่หายไปเอง เพราะว่าพวกมันสามารถกลับมาได้อีกครั้ง โดยตัวของมันเอง ทำให้แน่ใจว่าคุณมีที่ว่างเพียงพอ ที่เหลือก็ปล่อยพวกมันดูแลกันเอง
กลับมาคอยเช็คพวกมันเป็นระยะ เพื่อให้มันใจว่า มันยังไม่เต็ม
2.14 สร้างศาลากลาง(town hall)
ทาวฮอลโครตรมีประโยชน์ หลังจากผ่านไปสัก 20 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นมันดูมีราคาแพงเกินไปที่จะสร้าง
แต่ ในเมืองที่โตเต็มที่ คุณต้องการจะเช็คเรตจำนวนการผลิตและเพื่อให้มั่นใจว่ามันมีมากพอสำหรับที่ต้องบริโภค ทาวฮอลมีประโยชน์มากในช่วงกลางเกม
มันจะมีประโยชน์ ถ้าคุณไม่สร้างมันเร็วเกินไป
แล้วก็ คุณคงไม่ต้องการจะสร้างมันตรงใจกลางของเมือง สร้างมันได้ตามสบาย เอาให้ไกลจากพื้นที่ใช้ประโยชน์ของคุณ “ไอ้พวกนักการเมืองตลกๆ นั่นน่ะ เอามันไปไว้ในที่ของมัน โน่น เตะมันไปอยู่ในทุ่งเลี้ยงสัตว์”
เอามันไปซุกไว้ไกลๆจากเมืองของคุณเท่าที่คุณจะทำได้ ปรับมุมกล้องถ้าคุณอยากจะหาที่ตั้งมันไวๆ แล้วก็อย่าใช้มันรับพวกเร่ร่อนเข้ามา พวกเร่ร่อน(Nomads)แม่งไร้ประโยชน์
Tip : คุณสามารถใช้ทาวฮอลในการเปรียบเทียบจำนวนครอบครัวกับจำนวนบ้าน อันนี้แม่งโคตรเจ๋ง แล้วกันก็จะเป็นทางที่ง่ายดายที่คุณจะกำหนดจำนวนพวกมัน ถ้าคุณอยากให้เมืองคุณโต จำนวนประชากรของคุณจะเพิ่มขึ้นเมื่อ คุณมีครอบครัวที่จะย้ายไปอยู่อาศัยในบ้านมากขึ้น แล้วพวกเขาก็จะผลิตเด็กๆออกมา บ้านที่ว่างเปล่ามันไม่มีอะไรจะให้คุณในตอนนี้ และครอบครัวที่ไม่มีบ้านก็จะไม่จ้ำโบ๊ะจ้ำโบ๊ะกัน ดีงนั้น จับตาดูตัวเลขสองตัวนี้ไว้ให้ดี พยายามทำให้มันไล่เลี่ยกันจะดีที่สุด
2.15 มาสร้างถนนกันเถอะ !
ถนนเป็นสิ่งจำเป็น แต่คุณต้องระมัดระวัง นี่ไม่ใช่ซิมซิติี้ พวกเราไม่ได้กำลังพยายามสร้างเมืองที่สวยสดน่าดู แต่พวกเรากำลังพยายามเอาชีวิตรอดในไอ้ป่าบ้าๆนี่
ผูกมิตรกับต้นไม้นั่นซะ แล้วก็รวบรวมพวกมันเข้ากับเมืองของคุณ พวกคนตัดไม้สามารถทำงานของเขาได้ แม้ในตอนที่เมืองของคุณเฟื่องฟูสุดๆ แค่คุณจัดการจำนวนแรงงานให้พอเพียงแล้วส่งไปทำงานซะ
ถนนช่วยให้ชาวเมืองเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น และนี่ล่ะที่จำเป็นสำหรับเรา ชาวนาสามารถกลับไปทุ่งอย่างเร่งรีบ เพื่อที่จะปลูกพืชแล้วก็เก็บมันเมื่อถึงเวลา
ใช่ ! ถนนมันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตเรา แต่ ก็ต้องใช้ให้ถูกต้องและตรงจุดประสงค์
เดี๋ยวผมจะแนะนำวิธีการให้คุณทำตาม
1.เริ่มต้นวางที่สิ่งก่อสร้างของคุณ วางหอคอยคนตัดไม้ไว้ตรงกลาง แล้วก็สร้างอารายธรรมของคุณให้อยู่เป็นกลุ่มก้อน ให้มันมีความเชื่อมโยงกัน แล้วก็ใช้พวกมันให้เป็นประโยชน์ ให้พวกมันเก็บ แล้วก็ตัดต้นไม้รอบๆสิ่งก่อสร้างนั้นออกซะ อย่าไปออกคำสั่ง (clearcut) ถางป่า เด็ดขาด
2.สร้างถนนเชื่อมต่อพื้นที่หลักๆ ถนนควรจะสร้างเป็นเส้นตรง หลีกเลี่ยงการสร้างแบบทะแยงมุม มันจะทำให้ยุ่งยาก
3. อย่ากลัวที่จะลบถนนออกและปล่อยให้ต้นไม้เจริญเติบโต ถ้าคุณสังเกตุเห็นว่าไม่ค่อยมีคนใช้เส้นทางนั้น
4.อัพเกรดเป็นถนนหินทีหลัง หินมีประโยชน์ในการใช้สร้างบ้านหินมากกว่าถนน ชาวเมืองของคุณจะเพิ่มขึ้นได้ดีถ้าคุณใช้บ้านหิน…ถนนหินเสือกใช้หินสร้างเหมือนกัน(แน่สิก็ถนนหิน)และมันก็เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตอีกเพียงเล็กน้อย
5.เป้าหมายชัยนะของเกมนี้ คือ อยู่รอด และเจริญเติบโต ถ้าคุณใช้ถนนเพื่อตกแต่งบ้านและทุกๆสิ่งก่อสร้างของคุณ นั่นคือคุณกำลังลอกผืนป่าอันล้ำค่าของคุณออก แต่ก็นะมันอาจจะช่วยให้คุณอยู่รอดแบบครึ่งๆกลางๆก็ได้
นั่นเป็นความเห็นของผม ที่ผ่านกานต่อสู้มาอย่างโชกโชน : พวกเขาเลือกที่จะทำงานร่วมกับป่า แทนที่จะไปอยู่ในป่า อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ ถ้าเมืองคุณดูสวยงามแต่ชาวเมืองกำลังหนาวสั่นและหิวโหย?
2.16 โรงเรียนของเราน่าอยู่
คุณควรจะสร้างโรงเรียนแห่งแรกเสียเนิ่นๆตั้งแต่ต้นเกม
โรงเรียนรองรับการสอนได้ที่ 20 คน คนงานที่มีการศึกษามีดีกว่าคนงานที่ไม่มีการศึกษา โรงเรียนยังให้คุณได้เห็นความก้าวหน้า จาก เด็ก–นักเรียน–ผู้ใหญ่ที่มีการศึกษา คุณควรจะตัดสินใจให้ดี มันจะทำให้เกิดประโยชน์กับพวกแรงงาน แน่นอนว่าคุณจะต้องการทำให้พวกเขา 100 % อ่านออกเขียนได้
นี่เป็นบทเรียนเริ่มต้น ว่าทำไมพวกคนเร่ร่อนถึงห่วย และคุณควรไล่ไปให้พ้นๆ เพราะพวกมันไม่มีการศึกษา
คุณเริ่มเกมมากับพวกเด็กๆ คุณต้องการจะใช้เวลา 50 ปีข้างหน้ากับพวกผู้ใหญ่ไร้การศึกษาจริงๆเหรอ ไม่ ! คุณไม่ต้องการมันหรอก คุณจะไม่เสียใจถ้าคุณเลือกสร้างโรงเรียนตั้งแต่ช่วงแรกๆ สร้างโรงเรียนซะไอ้หนุ่ม !!
เมื่อคุณมีนักเรียนถึง 15 คน คุณต้องพิจารณาที่จะสร้างโรงเรียนแห่งที่สอง และก็จะมีแห่งที่สามตามมาแน่นอน ครู 3 – 4 เป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับเมืองขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ เป็นอะไรที่คุ้มที่จะลงทุน จำไว้ : ไอ้คน 3 – 4 คนเนี่ยแหละที่จะทำให้ผลิตผลคุณเพิ่มขึ้นเกือบจะเท่าตัว มันเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ
2.17 ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์
ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ดีสำหรับเกมในระยะยาวๆ
กฎในการเลือกเลี้ยงสัตว์
วัว>>แกะ>>ไก่
วัวให้ทั้งอาหารแล้วก็หนังด้วย แม่งมีประโยชน์มาก ใช้ได้ทั้งกินและทำเสื้อหนัง
แกะให้อาหารแล้วก็ขนด้วย มีประโยชน์เหมือนกัน กินก็ได้ทำเสื้อก็ดี
ไก่ให้แต่ไข่ กินได้อย่างเดียว
ทุกตัวมีประโยชน์ แต่ วัวนี่เดอะเบสที่สุด ให้เพิ่มแกะเข้ามาเมือเมืองคุณใหญ่ขึ้น เพิ่มไก่เข้ามาก็ได้ถ้าคุณรู้สึกเบื่อๆกับไอ้สองตัวนั้นแล้ว
3.1 (tip) จะไม่มีใครอดตายแน่นอน !!
How to…
สร้างโซนอาหารขนาดย่อม
ในโซนอาหารของเรา ให้สร้างยุ้งข้าว( Storage Barn) ไว้เสมอ สำคัญมาก
สร้างโซนอาหารของเรา ด้วย forester,gatherer, hunter และ a herbalist ในบางจุด
…..แต่อย่าลืมว่าทุกๆโซนอาหารที่สร้าง ต้องสร้าง สร้างยุ้งข้าว( Storage Barn) ไว้เสมอ
เคร ทีนี้เราก็จะใช้ตลาด ถ้าคุณมียุ้งข้าว( Storage Barn)เอาไว้ในทุกโซน ชาวเมืองของคุณคงไม่อยากเดินไกลๆออกจากเมือง เพื่อเอาอาหารกลับไปที่เมืองหรอก แทนที่จะทำงั้น เราก็ย้ายอาหารไปไว้ใกล้ยุ้งฉาง มันเป็นวิธีที่จะรวบรวมอาหารได้รวดเร็วที่สุด แล้วเราก็ใช้ คนขายของ Vendors (Market’s workers) ให้เขาแบกอาหารจากยุ้งฉาง มาเก็บไว้ที่ตลาด
ดั้งนั้น ทำให้แน่ใจว่าคุณมีพวกเขามากพอสำหรับขนอาหารมาที่ตลาด ถ้าอาหารอยู่ในตลาดแล้ว มันจะจัดสรรกระจายของมันเองอย่างดีที่สุดอย่าง ทุกบ้านจะได้เท่าๆกัน และคุณคงไม่อยากให้บ้านหลังนึงมี หัวมันฝรั่งกองอยู่ 500 หัว แต่หลังอื่นๆว่างเปล่าเป็นแน่แท้
ขอให้สนุกกับการเล่น
4.1 เทคนิคการกอบโกยจากพ่อค้า (ต้นเกม)
เริ่มต้นด้วยคอมโบ gatherer, forester, hunting lodge และ โรงเรียนในช่วงในช่วงต้นฤดูหนาวในปีที่ 2 บ้านไม้สัก 3-5 หลังจับกันเป็นกลุ่มๆ นานเท่าที่คุณต้องการ แล้วก็จัดการอัพเกรคพวกมัน สักปีที่ 3-4 ก็ได้
กุญแจสำคัญในช่วงต้นเกม มันเป็นอะไรที่จัดการบริหารยาก คุณคงจะต้องการ 2-4 gathering, 1-2 hunting, 1 forester, 1 getting herbs (หน่วยน่าจะเป็นหลัง) อืม เท่านี่ก็น่าจะเพียงพอ จนกระทั่ง จำนวนประชากรคุณใกล้แตะ 50 คน
โครตรสำคัญ : สร้างยุ่งฉางให้อยู่ในขอบเขตของ forester และอย่าสร้างตลาดจนกว่าคุณจะมีบ้านหินสัก 40 หลัง
4.2 เทคนิคการกอบโกยจากพ่อค้า (กลางเกม)
กลางเกมเป็นแก่นสำคัญของเรื่องนี้ “trade play” จัดการจำนวนประชากรของคุณให้อยู่ในช่วง 40 – 60 คน อย่ามากไปกว่านี้ เครื่องมือเหล็กกับเสื้อ จัดไว้อย่างละ 20 อย่าให้ขาด การศึกษาจัดให้เต็ม ถ้าคุณกำลังขาดแคลนไม้ จัดการสั่งตัดสัก 25% ในรัศมีของ forester แล้วก็สร้างเพิ่มอีกสักอัน แต่ถ้าช่วงนี้คุณไม่ต้องการอาหารจากพวก gatherer กับ hunter แล้ว ตัดแม่ง 75% ไปเลย แล้วก็สร้างแต่บ้านหิน แล้วก็เก็บหินจากพื้นที่ดินรอบๆ อย่าทำเหมือง วาง 8×8 stockpiles(พื่นที่วางเก็บของ) ไว้สัก 5 – 15 อัน รอบเมืองของคุณ โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ ท่าเรือ (trading posts)
คุณต้องมีโรงผ่าฟืนสองโรงที่ทำงานตลอดเวลา เพิ่มท่าตกปลา ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อะไรที่ดีก็เถอะ มันก็พอจะช่วยคุณได้ จนคุณได้เมล็ดพืชชนิดแรก (น่าจะ พูดถึงโหมดยาก ไม่มีเมล็ดพืชและสัตว์มาให้) ตลอดเวลา คุณต้องจัดการเก็บฟืนไว้ให้ได้สัก 1500 ท่อน สร้างท่าเรือ แล้วก็เก็บสต็อกไว้สัก 1000 ท่อน(อาจจะเนื้อกวางด้วยสักหน่อย) นอกนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วสำหรับช่วงนี้ ทุกเวลาที่พวกพ่อค้าแวะเข้ามา ศึกษามันอย่างระมัดระวัง พวกเขาจะขนสินค้ามาแลกเปลี่ยน 4 ชนิด และพวกเขาก็จะสุ่มมาไม่เหมือนกันในแต่ละฤดู
ทำตามนี้
1. พวกพ่อค้าเมล็ดพืช : order ข้าวสาลี มันเป็นเมล็ดพืชอย่างแลกที่ควรซื้อ
2. พวกพ่อค้าสัตว์ : ไม่ต้องซื้ออะไรทั้งนั้น จนกว่าคุณจะได้หินสัก 500-1000 ก้อน จากการค้า
3. พ่อค้าพืชผล : เหมือนข้อ [2]
4. พ่อค้าสิ่งของ : อ่าฮะ นี่แหละที่จะทำให้เกมง่ายขึ้น เช็คที่ order tab เลื่อนลงจนคุณเจอ ” หิน ” ในลิสสินค้า แล้วก็ คลิกที่มันซะ แล้วก็เซ็ทมัน ทีนี้ล่ะ ทุกครั้งที่มันแวะมา มันก็จะขนหินมาแลกกับคุณ
ตั้งค่าให้มันรับ หิน เหล็ก เครื่องมือ เมื่อพวกเขามีมาขาย ตั้งไว้สัก 5000
พ่อค้าไม่ได้ขนทุกอย่างที่คุณต้องการมาทุกรอบที่เขาแวะมา ดังนั้นเลือกไว้แค่ 1 อย่าง(หรือ 2 อย่าง) เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะเอาสิ่งที่คุณต้องการมาทุกๆรอบ รู้ไว้ เนี่ยแหละจะทำไห้คุณมีหินเยอะสุดๆในช่วงต้นๆเกม ทำตามนี้ซะ ทำเกมให้มันง่ายแล้วก็มานั่งกินเค้กกัน
สร้างสัก 2-4 ท่าเรือ แล้วก็ปรับแต่งให้เหมาะสม เมื่อคุณมีหินมากพอที่จะใช้ จนไม่ต้องสร้างเหมือง เพราะคลังของคุณเต็มไปด้วยหิน ตอนนี้ล่ะ เริ่มซื้ออย่างอื่น ซื้อวัว ซื้อเครื่องมือ แล้วก็ผลไม้ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ชาวมืองคุณมีสุขภาพดี
4.3เทคนิคการกอบโกยจากพ่อค้า(ท้ายเกม)
ต่อจากกลางเกม คุณไม่ควรมีคนเกิน 60 – 70 คน ไม่งั้นเมืองคุณจะใหญ่เกินไป แล้วก็ตอนนี้ เราก็สามรถลดพื่นที่ป่า forester ไว้เหลือสัก 1 อันได้แล้ว (น่าจะเพราะ เรามีทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ไม่ต้องแลกเปลี่ยนอะไรอีก)
สร้างทุ่งสัก 4 ที่ ขนาด 12×12 หรือใหญ่กว่านี้ถ้าคุณต้องการ 2 ที่สำหรับวัว และ 2 ที่สำหรับแกะ แล้วก็ช่างตัดเสื้อสักคน สำหรับตัดเสื้อ ถ้ามันเกินความต้องการแล้ว ก็ยัดมันลง ท่าเรือสัก 100 ตัว พวกพ่อค้าต้องการมันตลอดนั่นล่ะ ผู้เล่นหลายคนมาถึงจุดนี้ของเกม มันน่าตกใจที่พวกเขาพยายามเพิ่มจำนวนประชากรให้เยอะๆ แล้วก็ทำให้พวกเขามีความสุข สร้างเมืองให้ใหญ่ๆ เพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติ สภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งในขณะนั้น คุณควรจะมีประชากรเพียง 50 – 60 คุณ แต่พวกเขาก็ยังจะสร้างผลผลิตไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดตลอดเวลา พร้อมกับเพิ่มจำนวนประชากรให้ใหญ่ยิ่งขึ้นด้วย การหาประโยชน์จากกลุ่มพ่อค้า
และ….ตอนนี้คุณควรจะจบเกม ปิดไฟนอน ได้แล้ว ฝันดี ราตรีสวัสด์