Overview
Sid Meier’s Civilization V เป็นเกมแนวสร้างประเทศหรือารยธรรม คุณจะต้องเลือกว่าคุณจะเล่นเป็นประเทศใดหรืออาณาจักรโบราณไหนและนำพาไปสู่ชัยชนะ…หลักการชนะมีอยู่ 5 รูปแบบ คือ1.สันติภาพ (เงื่อนไขคือ คุณต้องมีเสียงในสภาโลกมากกว่า 34 เสียงขึ้นไป พร้อมกับการคุมสหประชาชาติ.) 2.วัฒนธรรม (เงื่อนไข คือ คุณต้องให้ค่าวัฒนธรรมของเรากลืนกินวัฒนธรรมของชาติอื่นๆให้หมด.) 3.สู่อวกาศ (เงื่อนไข คือ คุณต้องสร้างยานอวกาศและปล่อยไปสู่นอกโลก.) 4.มหาอำนาจโลก (เงื่อนไข คือ คุณต้องยึดเมืองหลวงของประเทศอื่นๆให้ได้ทั้งหมด.)5.การชนะด้วยคะแนน (โดยรวมจากความเจริญ เทคโนโลยี ทรัพยากร สิ่งมหัศจรรย์และอื่นๆ)การบริหาร:เริ่มแรกประเทศของคุณจะเจริญได้ คุณต้องรู้จักการบริหารนโบายของรัฐและการวิจัยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมีหลักนโยบายให้คุณเริ่มแรกคือ 1.พัฒนาเมืองหลวง 2.ขยายอาณาจักร 3.การทหาร 4.การศาสนา เมื่อคุณมีค่าอัพนโยบายแลัว คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกว่าคุณจะดำเนินนโยบาย แบบไหนในช่วงแรกหรือคุณจะดำเนินควบคู่ไปเลยก็ได้ แต่การเลือนโยบายก็มีผลในการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้เช่นกัน เช่น คุณเลือกนโยบายขยายอาณาจักร คุณจะสามารถสร้างพีระมิดได้ ในขณะเดียวกันถ้าคุณเลือกนโยบายการทหาร คุณจะสามารถสร้างวิหารเทพเจ้าซุสได้ เป็นต้น นโยบายนั้นในยุคหลังๆก็จะมีมาเรื่อยๆตามสมัยหลังเข้าสู่ยุคเรเนอซองส์หรือสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา นโยบายที่จะมานั้นได้แก่ 1.การเจริญสัมพันธ์ไมตรีทางการทูต( เหมาะสำหรับ พวกที่อยากจบสันติภาพ เพราะจะทำให้เป็นมิตรกับรัฐอิสระได้ง่าย )2.ศิลปกรรมศาสตร์ ( เน้นการสรรค์สร้างงานศิลปะและบทกวี ดนตรีต่างๆ เหมาะสมหรับการจบแบบวัฒนธรรม )3.การค้าและเศรษฐกิจ ( เน้นการค้าขายเพิ่มกำไรให้กับประเทศที่เราค้าขายด้วย )4.การขยายอาณานิคม ( เน้นการขยายอาณานิคมเชิงติดทะเลมากกว่าบนบก )5.วิทยาศาสตร์ ( เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์สามารถทำให้เราพัฒนาเทคโนโลยีได้เร็วยิ่งขึ้น.) เป็นต้นเมื่อจบนโยบายแลัวก็มาพูดถึงระบอบการปกครองที่จะเป็นตัวชี้การชนะของคุณ มีอยู่ 3 ระบอบคือ 1.เผด็จการทหาร 2.ประชาธิปไตย 3.คอมมิวนิสต์1.ระบอบเผด็จการทหาร (การจบมี 3 แบบคือ ยึดโลก วัฒนธรรมและชนะเสียงในสภาของสหประชาติ คือได้เป็นผู้นำ UN ระบอบการปกครองนี้เน้นเรื่องการสร้างทหารและการรบซะส่วนใหญ่.)2.ระบอบประชาธิปไตย (การจบมี 3 แบบคือ ส่งยานอวกาศไปสู่วงโคจร วัฒนธรรมและชนะเสียงในสภาของสหประชาติ คือได้เป็นผู้นำ UN ระบอบนี้เน้นการรักษาสันติภาพ จึงทำให้ประชาชนเรามีความสุขมากกว่าระบอบอื่นๆและส่งเสริมวัฒนธรรม ไม่เน้นการทหารมากนัก.)3.ระบอบคอมมิวนิสต์ (การจบมี 3. แบบคือ ส่งยานอวกาศไปสู่วงโคจร วัฒนธรรมและยึดโลก ระบอบนี้เน้นเรื่องส่งเสริมวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของประชาชนและการพัฒนาประเทศ จึงทำให้ระบอบการปกครองนี้ทำให้ประชาชนมีความสุขพอๆกับระบอบประชาธิปไตย.)แต่ยังไงซะคุณเลือกระบอบการปกครองแบบไหนก็ตาม (คุณก็มีสิทธิที่จะจบได้ในทุกรูปแบบ อะน่ะ) ถ้าผิดพลาดประการใดของอภัย
เริ่มต้นสร้างอาณาจักรของเรากันเถอะ
เริ่มต้นสร้างอาณาจักรของเรากันเถอะ
เมื่อเริ่มเกมส์เราจะได้รับ unit มา 2 ตัว คือ Settler หรือ ผู้ตั้งรกราก กับ Warrior หรือ นักรบ โดยเราจำเป็นต้องใช้ Settler เพื่อสร้างเมือง Settler จะมี icon ตามรูปด้านล่างนะครับ
ก่อนที่เราจะสร้างเมืองให้เลือกทำเลที่จะสร้างเมืองก่อน เพราะแต่ละตำแหน่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป วิธีการดูนะครับ เมื่อเราเลื่อนเม้าส์ไปในที่ดินแต่ละบล๊อก จะมีข้อมูลของตำแหน่งนั้นๆบอกอยู่ด้านล่างขวา ตัวอย่างในรูปด้านล่าง
Resource หรือ ทรัพยากร หลักของเกมส์นี้มี 3 อย่าง คือ
Food หรือ อาหาร – อาหารใช้เลี้ยงประชากรในเมือง ถ้ามีเยอะ ประชากรเพิ่มเร็ว เมืองโตเร็วแน่นอน.
Product หรือ ผลผลิต – ใช้สำหรับการสร้าง unit และ สิ่งก่อสร้าง ถ้ามีเยอะสร้างเสร็จเร็วแน่นอน.
Gold หรือ ทอง – จะเรียกว่าเงินก็ได้ครับ ถ้ามีเยอะ ก็รวย ซื้ออะไรได้หลายอย่างแน่นอน.
ปกติเมื่อเราสร้างเมือง จะได้ Food 2, Product 3, Gold 3 บวกกับ Product และ Gold จากที่ดินที่เมืองตั้งอยู่่ พร้อมประชากร 1 คน อยากให้ประชากรเพิ่มเร็วเลือกที่มี food เยอะๆ ถ้าอยากสร้างเร็วๆ เลือกที่มี product เยอะๆ อยากรวยก็เลือกที่มี gold เยอะๆ ครับ เมื่อเลือกทำเลได้แล้วก็กดปุ่ม Found City เลยครับ
เสร็จแล้วครับ เมืองของเรา ตัวเลข 15 ด้านบน คือความแข็งแกร่งของเมือง ยิ่งเยอะยิ่งดีเพราะจะโดนตีแตกยาก และโจมตีแรง (เมืองสามารถโจมตีศัตรูที่มาบุกรุกได้) ตัวเลข 1 ด้านซ้ายคือ จำนวนประชากร ส่วนเลข 5 ถัดมาคือ อีก 5 เทิร์นประชากรจะเพิ่มขึ้นอีก 1 คน แล้วจำนวนประชากรมีไว้ทำไมครับ มีไว้ทำงานครับ จำเป็นมากๆเลย ลองคลิ๊กไปที่เมืองครับ
ดูด้านบนซ้ายครับจะเป็นรายละเอียดของเมืองครับ
Food +3 คือ เรามีอาหารเกินอยู่ 3 ก็คือทั้งเมืองหาอาหาร ได้ 5 แต่ประชากร 1 คน กินไป 2 เลยเหลือ +3 ถ้า Food = 0 ประชากรจะไม่เพิ่ม ถ้า food ติดลบ ประชากรจะค่อยๆตายลงหรืออพยพไปอยู่ที่อื่นๆ ถ้า food + มากๆ ประชากรเพิ่มเร็ว
Production +5 คือ ถ้าเราจะสร้าง unit ที่ใช้ 50 products ก็จะใช้เวลาสร้าง 10 เทิร์น เป็นต้น
Science +4 คือการวิจัย ลักษณะเดียวกับ production แต่ใช้กับการ Research อันนี้ได้จากจำนวนประชากร
Faith อันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่ได้สร้างเทวสถาน เดี๋ยวจะอธิบายอีกทีครับ
Tourism การท่องเทียว ยังไม่มีเหมือนกัน เดี๋ยวจะอธิบายอีกทีครับ
Culture +1 อธิบายประโยชน์อันแรกของค่านี้ก่อน คือมันช่วยให้เขตแดนของเมืองขยายครับ ด้านล่างบอกว่าอีก 15 เทิร์น เมืองเราจะได้ที่ดินเพิ่มอีก 1 บล๊อก
แล้วเราจะเพิ่มค่าพวกนี้ได้อย่างไรบ้าง ไปที่ด้านบนขวา คลิ๊กที่ +Citizen Management
เราสามารถสั่งให้ประชากรเน้นทำงานด้านใดด้านหนึ่งได้ แต่ตอนนี้เรายังทำอะไรกับมันไม่ค่อยได้เพราะเรามีประชากรแค่ 1 คน ครับ คราวนี้ไปดูที่ตัวเมืองครับ
ตอนนี้มีแค่ 2 บล๊อกที่มีประชากรทำงานอยู่ คือในตัวเมืองตรงกลาง และ ด้านขวาที่มีรูปหน้าคนสีเขียว เพราะฉะนั้นทรัพยากรของเมืองนี้ที่เราได้รับจริงมาจากบล๊อกที่มีคนทำงานเท่านั้น ถ้าเรามีประชากร 3 คน เราจะได้ food จาก 2 บล๊อกด้านซ้ายด้วย เราสามารถย้ายคนทำงานด้านขวาไปทำงานที่บล๊อกอื่นได้ตามต้องการครับ แต่ในกรณีนี้ไม่ควรย้ายเพราะ บล๊อกด้านขวาได้ทรัพยากรเยอะสุด ส่วนตรงกลางย้ายไม่ได้นะครับ อยู่ถาวร ด้านบนขอบสีม่วงๆ คือที่ดินที่เราจะได้ในอีก 15 เทิร์น ครับ ส่วนนอกเขตสีแดงยังไม่ใช่ที่ดินของเราครับ
จบพื้นฐานเรื่องสร้างเมืองก่อนครับ ไว้ต่อตอนหน้าครับ สวัสดีครับ
นำความศรัทธามาสู่โลก มาตั้งศาสนากันเถอะ
การตั้งศาสนา (Religion)
ในโลกของ Civilization ทุกชนชาติ สามารถตั้งศาสนาของตัวเองและทำการเผยแผ่ไปยังชนชาติอื่น ซึ่งจะได้รับประโยชน์หลายอย่าง ซึ่งทำให้การจบเกมส์ง่ายขึ้น จำนวนศาสนาที่สามารถมีได้ ถูกจำกัดตามขนาดของ Map เช่น Map small สามารถมีศาสนาได้เพียง 4 ศาสนา เพราะฉะนั้นเราต้องวางแผนกันตั้งแต่เริ่มเกมส์เลยครับ เดี๋ยวไม่ทันชนชาติอื่น การก่อตั้งศาสนาจำเป็นต้องใช้ค่า Faith หรือ ค่าความศรัทธา โดยสิ่งแรกที่เราต้องทำคือ การวิจัย Pottery หรือ การทำเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งจะทำให้เราสร้าง Shrine หรือ เทวสถาน (+1 Faith) จากนั้นเมื่อสะสมได้ 10 Faith เราจะสามารถสร้าง Pantheon (โบสถ์หรือวิหาร) ซึ่งเราจะสามารถเลือก Bonus ได้ 1 อย่างจาก list เหล่านี้
(แนะนำซื้อ ส่วนเสริมหรือ dlc ของเกมนี้ให้ครบ คือ Gods and Kings เพราะบ้างศานาหรือความสามารถจำเป็นต้องมีส่วนเสริม )
1.Ancestor Worship : +1 Culture จาก Shrine
2.Dance of the Aurora : +1 Faith จากที่ดินที่เป็น Tundra
3.Desert Folklore : +1 Faith จากที่ดินที่เป็น Desert
4.Faith Healers : +30 Hp heal ถ้าอยู่ติดกับเมืองที่เป็นเพื่อนกัน
5.Fertility Rites : ประชากรเพิ่มเร็วขึ้น 10%
6.God of Craftmen : +1 Production ในเมืองที่มีประชาการ 3 คนขึ้นไป
7.God of the Open Sky : +1 Culture จาก Pastures
8.God of the Sea : +1 Production จาก Fishing Boats
9.God of War : ได้รับ Faith เมื่อฆ่า unit ภายในระยะ 4 ช่องจากเมือง
10.Goddess of Festivals : +1 Culture +1 Faith จาก Wine และ Incense
11.Goddess of Love : +1 Happiness จากเมืองที่มีประชากร 6 คนขึ้นไป
12.Goddess of Protection : การโจมตีของเมืองแรงขึ้น 30%
13.Goddess of the Hunt : +1 Food จาก Camps
14.Messenger of the Gods : +2 Science จากเมืองที่เชื่อมต่อกับเมืองหลวง
15.Monument to the Gods : +15% Production เมื่อสร้าง Wonders ในยุค Ancient และ Classical
16.One with Nature : +4 Faith จาก Natural Wonders
17.Oral Tradition : +1 Culture จาก Plantations
18.Religious Idols : +1 Culture +1 Faith จาก Gold และ Silver
19.Religious Settlements : เขตแดนขยายเร็วขึ้น 15%
20.Sacred Path : +1 Culture จากที่เดินที่เป็น Jungle
21.Sacred Waters : +1 Happiness จากเมืองที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำ
22.Stone Circles : +2 Faith จาก Quarries
23.Tears of the Gods : +2 Faith จาก Gens และ Pearls
จากนั้นเมื่อเราสะสม Faith ได้ 200 เราจะได้ Great Prophet ( ผู้ก่อตั้งศาสนา )
มีศาสนาให้เลือกทั้งหมด 13 ศาสนา
ได้แก่ 1.ศาสนาพุทธ 2.ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 3.ศาสนาเชน 4.ศาสนาฮินดู 5.ศาสนาอิสลาม 6.ศาสนายูดาห์ 7.ศาสนาคริสต์นิกายอิสเติร์นออร์โธดอกซ์ 8.ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ 9.ลัทธิชินโต 10.ศาสนาซิกข์ 11.ลัทธิเต๋า 12.เทนกริสิม 13.โซโรอัสเตอร์
จริงๆนะ ชาติใดที่ตั้งศาสนาก่อนจะมีตัวเลือกอัพเกรดได้มากกว่า ตั้งทีหลังก็โดนแย่งไป เราสามารถเปลี่ยนชื่อศาสนาเป็นชื่อลัทธิอะไรก็ได้ การเผยแพร่ศาสนามีผลต่อการทูตในชาติอื่นด้วย บางชาตินี่แค่ไปเผยแพร่ศาสนาหน่อยเดียวก็ถือเป็นการคุกคามขั้นรุนแรง และประกาศสงครามใส่เรา เราสามารถเปลี่ยนศาสนาของชาติเพื่อนบ้านได้โดยส่ง missionary หรือ ผู้เผยแพร่ศานา ไปประกาศศาสนาใส่เมืองบ่อยๆ บางครั้งพลิกเกมได้ก็มี เพราะออปชั่นศาสนาจะเปลี่ยนไปเป็นของศาสนาที่มีอิทธิพลในเวลานั้นมากที่สุด (มีตราศาสนาขึ้นนั่นเอง) โดยส่วนมากบอทมักเลือกศาสนาตามชาติ เช่นอินเดียเลือกฮินดู พุทธ เกาหลีเลือกขงจื้อ เยอรมนีเลือกคริสต์ อาหรับ ตุรกีเลือกอิสลาม เป็นต้น (ศาสนาตั้งซ้ำกันไม่ได้) แต่บ้างทีก็เล่นตลก เช่น ชนเผ่าแอซเท็ก เลือก ศานาพุทธ เป็นต้น
จงระวัง:เหล่าชนชาติมายา เคลติก สเปน ไอโรคัวส์ อียิปต์ อินเดียและอเมริกาไว้ พวกนี้ชอบมากเรื่องเปลี่ยนศาสนาชาวบ้านชาวช่องเขาเนี่ย แต่ยังก็ตามต้องระวังพวกชนชาติเราที่มีศาสนาต่างหากเพราะ หากศาสนาของเรามีอิทธิพลมากกว่าศาสนาของชนชาตินั้นๆ เขาก็จะส่งผู้ก่อตั้งศาสนาหรือผู้เผยแพร่มาเผยแพร่ศาสนาของเขาใส่ชนชาติเขาเราอยู่ดี ชนชาติที่ได้ศาสนาเร็วมากมักเป็นเอธิโอเปีย และเคลท์ เพราะความสามารถและสิ่งก่อสร้างประจำชาติเอื้ออำนวย
ศาสนากับเส้นทางสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์
อย่างที่เคยกล่าวไปข้างต้นในโลกของ Civilization ใช่ว่าคุณจะสามารถเผยแพร่ศาสนาหรือลัทธิของคุณไปให้กับทุกชนชาติได้ตลอด เพราะหากพวกเขาสามารถตั้งศาสนาหรือมีศาสนาเป็นของตัวเอง (ยกเว้นพวกชนชาติที่ไม่มีศานาเป็นของตัวเอง อันนี้เราสามารถไปเผยแพร่ได้) เพราะสำหรับเราและพวกเขาแลัวการที่เรานำเอาศาสนาของเราไปเผยแพร่ใส่ชาติอื่นๆที่มีศานาแลัว เขาก็จะถามเรากลับมาว่า ผู้เผยแพร่ศาสนาของท่านได้ทำการเผยแพร่ศาสนาของท่านในเมืองของเรา ข้าเกรงว่าอาจทำให้ศาสนาของข้าและของท่านเกิดคัดแย้งกัน ท่านช่วยบอกผู้เผยแพร่ศาสนาของท่านให้หยุดการเผยแพร่ศาสนาได้ไหม อันนี้เราสามารถเลือกตอบได้ 2 แบบ คือ ศาสนานั้นขึ้นอยู่กับความศรัทธาของประชาชนของท่านกับข้า เพื่อโลกที่สวยงาม เราควรเรียนรู้ซึ่งกันและกัน กับ เราจะนำผู้เผยแพร่ศาสนาของเราออกไป (อันนี้เหมือนกับบอกทางอ้อมว่า ประเทศของท่านนั้นไร้อารยะ ท่านนั้นปิดกั้นศาสนาของเรา) พวกเขาหรือเราสามารถใช้ข้ออ้างนี้ในการคว่ำบาตรหรือประกาศสงครามได้ง่ายๆเลยทีเดียว ตามจริงหลักธรรมคำสอนของแต่ละศาสนาสอนให้เรารู้จักทำความดีละอยู่ร่วมกันได้ไม่ใช่เหรอ อีกอย่างหนึ่งการค้าขายทางบกและทางทะเลของเราไปยังเมืองของชนชาติอื่นๆที่มีศาสนาที่ไม่ใช่ของเรา เราก็จะได้รับวัฒนธรรมศาสนามาด้วย แต่วิธีนี้ไม่คอยมีปัญหาสักเท่าไร
จบเรื่องของศาสนาโปรดติดตามตอนต่อไป
สุขกันเถอะเรา เพื่อความสุขของประชาชน
ค่า Happiness หรือ ค่าความสุขของประชาชน คือพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ประชาชน Happy ชัยชนะอยู่ไม่ไกล เชื่อว่าทุกคนที่ได้เล่นเกมส์นี้มาสักพักนึงแล้ว มักจะเจอปัญหา Happiness (ค่าความสุข) ติดลบ ซึ่งก็คือ Unhappiness (ค่าความไม่พอใจ)ซึ่งจะทำให้ประชากรไม่เพิ่มหรือเพิ่มช้ามาก ส่งผลให้เมืองไม่โต เมื่อเมืองไม่โต Gold (เงิน) และ Product (ผลผลิต)ก็ไม่เพิ่ม เพราะไม่มีคนไปทำงาน มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ Happy หรือความสุข ลดลง
1.จำนวนเมือง 1 เมือง = 3 Unhappiness เพราะฉะนั้นยิ่งมีเมืองเยอะค่า Happy ยิ่งลด
2.จำนวนประชากร 1 คน = 1 Unhappiness ค่านี้สามารถใช้สิ่งก่อสร้าง หรือ Policies ช่วยลดได้ครับ
3.เมืองที่ยึดมา 1 เมือง = 5 Unhappiness ค่านี้จะหายไปเมื่อสร้างศาล ( Courthouse )
4.จำนวนประชากรในเมืองที่ยึดมาถ้ามีคนเยอะ ก็ลบเยอะ ค่านี้จะหายไปเมื่อสร้าง Courthouse หรือ ศาล เหมือนกัน
5.จำนวน Specialist คือพวกคนที่ทำงานใน ธนาคาร,ตลาด หรือ ห้องสมุด หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ยิ่งเยอะ Unhappiness ก็ยิ่งเยอะครับ
ครับทั้ง 5 ข้อด้านบนเอามารวมกันจะเป็นค่า Unhappiness ทั้งหมด ที่นี้มาดูว่าค่า Happiness ได้มาจากอะไรบ้าง
Luxury หรือ สินค้าฟุ่มเฟื่อย ซึ่งมีทั้งหมด 26 อย่าง กระจายอยู่ทั่วแผนที่ซึ่งบ้างเราจะได้สิ่งเหล่านี้มาจากรัฐอิสระเท่านั้นไม่มีในแผนที่
ได้แก่ 1.ไข่มุก 2.เพชร 3.ขนสัตว์ 4.ทองคำ 5.หินอ่อน 6.สีย้อม 7.เครื่องเงิน 8.งาช้าง 9.ผ้าไหม 10.น้ำตาล
11.ทองแดง 12.ฝ้าย 13.เกลือ 14.ไวน์ 15.ปู 16.ส้ม 17.ปลาวาฬ 18.หมูพันธุ์ Truffles ที่จริงชื่อของมันคือ truffle hog 19.เครื่องลายคราม 20.เครื่องเทศ 21.เครื่องหอม 22.เครื่องประดับ 23.ลูกจันทน์เทศ 24.กานพลู 25.พริกไทย 26.โกโก้
Luxury หรือ ทรัพยากรฟุ่มเฟือย 1 อย่างได้ค่า Happiness + 4 ถ้าเราสามารถครอบได้ทั้งหมด เราได้ Happiness 60 เลยครับ เพราะฉะนั้นให้สำรวจในอาณาเขตของเราและใกล้เคียงก่อนครับ ว่ามีพวกนี้ไหม ถ้ามีก็รีบปรับปรุงที่ดินในบล๊อกหรือพื้นที่นั้นเพื่อจะได้รับ Luxury โดยแต่ละแบบจะต้องการการปรับปรุงที่แตกต่างกันเช่น Gold และ Gems ต้องสร้าง Mine (เหมือง )แต่ Silk และ Sugar ต้องสร้าง Plantation (ฟาร์มเพาะปลูก) ซึ่งมันจะมีบอกเมื่อเอาเมาส์ชี้ไปที่บล๊อกนั้นๆ
เราสามารถมี Luxury แต่ละแบบได้มากกว่า 1 เช่น มี Gold 3 แต่เราจะได้ค่า Happiness แค่ 4 ไม่ใช่ 12 นะครับ เพราะมันนับแค่อันแรก ซึ่งส่วนเกินที่เรามีนี้เราสามารถนำไป Trade กับชนชาติอื่น โดยแลกกับ Luxury ที่เรายังไม่มี หรือ resource อื่นๆ หรือเงินก็ได้ อันนี้ก็ต้องตกลงกันเอาเองนะครับ เราสามารถตรวจดูว่าเรานำเข้าหรือส่งออกสินค้าฟุ่มเฟื่อยอะไรไปบ้าง โดยการนำเมาส์ไปชี้ที่คำว่า Luxury นะครับ ถ้า Luxury อยู่ในเขตแดนของรัฐอิสระให้รีบพยายามเป็นพันธมิตรให้ได้ครับ เพราะเราจะได้ Luxury พวกนี้มาเป็นของเราด้วย คลิ๊กที่รัฐอิสระจะมีบอกว่ามี Luxury หรือสินค้าฟุ่มเฟื่อย อะไรบ้าง แต่บางทีรัฐอิสระยังไม่ได้ปรับปรุงที่ดินก็จะยังไม่ขึ้นโชว์นะครับ ต้องรอหรือถ้าอยากได้เร็วก็ต้อง ให้ Gift เป็น 200 Gold – Improve a Resource (การปรับปรุงทรัพยากร) แต่ต้องมี Luxury อยู่ในเขตแดนของรัฐอิสระนะครับ
Natural Wonders สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
มันคือพวกสิ่งมหัสจรรย์ทางธรรมชาติ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ และ อื่นๆ โดยแค่เราไปเจอเราก็ได้ค่า Happiness แล้วครับ ซึ่งแต่ละอันได้ค่า Happy ไม่เท่ากัน และถ้าพวกนี้อยู่ในดินแดนของเราก็จะได้ Happiness เพิ่มอีก ที่ผมเคยเจออันเดียวได้ 10 Happiness ครับ เยอะมาก แต่ทั้งโลกมันจะมีอยู่ไม่กี่แห่งเองครับ
Social Policies หรือนโยบายมีหลาย Policies เลยครับที่ช่วยเพิ่ม Happiness
1.Tradition -> Aristocracy : +1 Happiness ทุกๆประชากร 10 คน
2.Tradition -> Monarchy : -1 Unhappiness ทุกๆประชากร 2 คน ในเมืองหลวงเท่านั้น ถ้าเมืองหลวงมีประชากร 20 = 20 Unhappiness อัพ Policies นี้ Unhappiness เหลือแค่ 10 ลดเยอะเลยนะครับ
3.Liberty -> Meritocracy : +1 Happiness ทุกๆเมืองที่เชื่อมต่อกับเมืองหลวง ทั้งทางถนนและทางเรือ
4.Honor -> Military Castle : +1 Happiness ทุกๆเมืองที่มีทหารประจำในเมือง
5.Patronage -> Cultural Diplomacy : Luxury ที่ได้จาก City State ได้ค่า Happiness เพิ่ม 50%
6.Exploration -> Naval Tradition : +1 Happiness จากสิ่งก่อสร้าง Harbor, Seaports และ Light House
7.Commerce -> Protectionism : +2 Happiness ของทุกๆ Luxury ซึ่งหมายความว่า Luxury แต่ละอันจะได้ Happiness 6 ยอดเยี่ยม
Building – สิ่งก่อสร้างที่เพิ่ม Happiness มีเยอะเลยครับ แต่พวกนี้ต้องเสียค่า Maintenance (ดูแลรักษา) ด้วยนะครับ
Circus : +2 Happiness (ต้องมีม้า หรือ ช้าง อยู่ในเมืองถึงสร้างได้)
Stone Works : +1 Happiness (ต้องมี Stone หรือ Marble อยู่ในเมืองถึงสร้างได้)
Colosseum : +2 Happiness
Zoo : +2 Happiness (ต้องสร้าง Colosseum ก่อน)
Stadium : +2 Happiness (ต้องสร้าง Zoo ก่อน)
Wonders สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สามารถสร้างได้
Chichen Itza : +4 Happiness
Neushwanstein : +2 Happiness
Notre Dome : +10 Happiness
Prora : +2 Happiness
Taj Mahol : +4 Happiness
Circus Maximus : +5 Happiness
ยังมีส่วนของศาสนา และ Ideological Tenets อีกที่ช่วยเพิ่ม Happiness ได้ แต่ 2 อย่างนี้ไว้จะเขียนอธิบายในตอนอื่นครับ หลังจบตอนนี้ คิดว่าผู้อ่านทุกท่านคงเข้าใจเรื่องค่า Happiness และน่าจะจัดการได้อย่างไม่ยากนะครับ สำหรับผมเองเวลาเล่น ผมจะพยายามทำให้ค่า Happiness มากกว่า 10 อยู่เสมอ ถ้าต่ำกว่า 10 แนะนำว่าเราไม่ควรจะสร้างเมืองใหม่ หรือ ประกาศสงครามยึดเมืองจากชนชาติอื่น โดยเฉพาะยึดเมืองมาได้จะได้รับค่า Unhappiness ทันทีเยอะมากนะครับ ยิ่งเมืองใหญ่ยิ่งติดลบเยอะ ยกตัวอย่าง หากคุณบุกไปยึดเมืองได้มา 1 เมือง จากนั้นเขาก็ขอสงบศึกแล้วยกเมืองให้อีก 3 เมือง จากที่ Happy อยู่ กลายเป็น Unhappiness -40 จากนั้นอีกไม่กี่เทิร์นเลยก็ได้ และจงระวังเรื่องของการก่อกบฎในภายประเทศ แล้วก็จะเกิดเหตุการณ์แบ่งแยกดินแดนไปขึ้นกับประเทศอื่น สรุป ค่า Happy สำคัญมากๆ ครับ จบครับ
รู้จักกับ icon และ ตัวเลข ต่างๆ บนหน้าจอ กัน
มาเรียนรู้พื้นฐานกันก่อนครับ แถวบนสุดเลยประกอบไปด้วย
Science หรือ ค่าวิทยาศาสตร์ ยิ่งบวกเยอะยิ่งดี ทำให้การวิจัยเทคโนโลยี่ใหม่ๆของเราเสร็จเร็วขึ้น
Gold – เงินที่มีอยู่ ส่วนในวงเล็บคือเงินที่จะได้ในแต่ละ turn เงินสำคัญมากนะครับ ใช้ซื้อได้หลายอย่าง อย่าให้ติดลบ เพราะจะล้มละลายครับ
Trade routes – เส้นทางค้าขายกับเมืองอื่น ช่วยเพิ่ม gold, science ได้ เริ่มเกมส์จะยังไม่มีครับ เดี๋ยวจะอธิบายละเอียดอีกทีครับ
Happy – ค่าความสุขของประชาชน สำคัญมากครับ ถ้าติดลบ เมืองจะหยุดการเติบโต ถ้าติดลบมากๆ จะเกิดการจราจล
Culture หรือ ค่านโยบาย – อธิบายง่ายๆ คือ ต้องการค่า culture 5200 เพื่อไปเปิด policies แต่ตอนนี้เรามีอยู่ 1970 โดยแต่ละ turn เราจะได้มา 234 ส่วน policies คืออะไรเดี๋ยวจะ อธิบายอีกที ครับ
Tourism หรือ การท่องเที่ยว – ค่านี้ใช้สำหรับการชนะแบบ Culteral หรือ ชนะแบบท่องเที่ยว ครับ เดี๋ยวจะอธิบายอีกทีครับ
Faith หรือ ค่าศรัทธา – ค่านี้ใช้สำหรับการซื้อ unit ที่เกี่ยวกับศาสนา ครับ
ครับ จริงๆ ยังไม่หมดนะครับ แต่เอาแค่พื้นฐานก่อน จะได้ไม่งง เดี๋ยวตอนหน้าเริ่มเล่นกันเลย แล้วค่อยอธิบายเพิ่มส่วนที่เหลือครับ
ค่าวัฒนธรรม Culture และ ระบอบการปกครอง Social Policies
ค่าวัฒนธรรม Culture หรือค่านโยบาย และ ระบอบการปกครอง Social Policies นั้นเมื่อเราสะสมค่า Culture หรือค่าวัฒนธรรม ถึงตามที่กำหนด เราสามารถปลดล๊อค ระบอบการปกครอง Social Policies ตอนนี้มาแนะนำระบอบการปกครองที่เราจะได้เลือกแบบแรกๆกันดีกว่ามาดูกันว่าเบื้องต้นนั้นมีอะไรบ้าง
ขอเรียก 4 ตัวนี้ว่า Policies Type หรือชนิดของระบอบการปกครองนะครับ โดยแต่ละชนิดจะมี Policies 5 อัน ให้เราเลือก แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปเลือกได้ เราต้องปลดล๊อค ก่อน โดยคลิ๊กที่ Adopt ของ Policies Type ที่เราต้องการปลดล๊อค
จากนั้นเราจะสามารถเข้าไปปลดล๊อค Policies ภายในทั้ง 5 อันได้ แต่เราต้องสะสม Culture ก่อน เพราะ Culture ที่เรามีอยู่ 25 ได้ใช้ในการปลดล๊อค Policies Type ไปหมดแล้ว
ดูด้านล่างจะมีบอก จำนวน Culture ทีต้องใช้ในการปลดล๊อคครั้งต่อไป คือ 30 ครับ เราได้รับค่า Culture เทิร์นละ 6 ใช้เวลาอีก 6 turn จะได้ ปลดล๊อค Policies ต่อไปครับ อยากได้เร็วขึ้นก็ต้องสร้างสิ่งก่อสร้างที่เพิ่มค่า Culture เยอะๆครับ
มาดูรายละเอียดของแต่ละ Policies กันครับ
1.Tradition หรือ การจัดระเบียบสังคม,พัฒนาในเมืองหลวง (ปลดล๊อค Policies Type นี้จะได้รับ +3 Culture ในเมืองหลวง, เขตแดนขยายเร็วขึ้นและ สามารถสร้าง Hanging Garden ได้)
-Aristocracy +15% Product เมื่อสร้าง wonder, +1 Happy ทุกๆประชากร 10 คน
-Legalism ฟรีสิ่งก่อสร้างทางด้าน Culture ใน 4 เมืองแรก
-Oligarchy ยูนิตทหารที่อยู่ในเมืองไม่เสียค่า Maintenance และ การโจมตีของเมืองแรงขึ้น 50%
-Landed Elite (ต้องปลดล๊อค Legalism ก่อน) +2 Food ในเมืองหลวง และ การเพิ่มของประชากร +10%
-Monarchy (ต้องปลดล๊อค Legalism ก่อน) +1 Gold, -1 Unhappiness ของทุกๆประชากร 2 คน ในเมืองหลวง
ปลดล๊อคครบทั้ง 5 Policies อัตราการเกิดเร็วขึ้น 15% , จะได้รับ Aqueduct หรือระบบระบายน้ำ ฟรี ใน 4 เมืองแรก และสามารถซื้อ Great Engineer ด้วย Faith หรือ ค่าศรัทธา ได้ โดยซื้อได้ตั้งแต่ ยุค Industrial Era (ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม)เป็นต้นไป
2.Liberty หรือ เมืองแห่งความเสมอภาค,การขยายเมือง (ปลดล็อค Policies Type นี้จะได้รับ +1 Culture ในทุกเมือง และ สามารถสร้าง Pyramids ได้)
-Republic +1 Product ทุกเมือง และ +15% Product เมื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง
-Citizenship การพัฒนาที่ดินเร็วขึ้น 15% และได้รับ Worker ฟรี 1 ตัว
-Collective Rule (ต้องปลดล๊อค Republic ก่อน) สร้าง Settler เร็วขึ้น 50% ในเมืองหลวงและได้รับ Settler ฟรี 1 ตัว
-Representation (ต้องปลดล๊อค Citizenship ก่อน) ทุกเมืองที่เราสร้างจะลดค่า Culture ที่ต้องใช้ปลดล๊อค -Policies ลง 33% และ เริ่ม Golden age
-Meritocracy (ต้องปลดล๊อค Citizenship ก่อน) +1 Happiness ทุกเมืองที่มีการเชื่อมต่อกับเมืองหลวง, -5% Unhappiness จากประชากรทุกเมืองของเรา
ปลดล๊อคครบทั้ง 5 Polices จะได้รับ Great Person (สามารถเลือกชนิดได้) ฟรี 1 ตัว
3.Honor หรือ เกียรติยศแห่งนักรบ,การทหารต่อสู้ (ปลดล๊อค Policies Type นี้จะได้รับ การโจมตีแรงขึ้น 33% เมื่อสู้กับ Barbarian, ได้รับ Culture +1 ทุกๆ Barbarian ที่ฆ่า และ สามารถสร้าง Statue of Zeus ได้)
-Warrior Code +15% Product เมื่อสร้าง unit ทางทหารแบบประชิด, ได้รับ”Great General”หรือ”จอมทัพ” ฟรี 1 ตัว และ อัตราการเกิด Great General เร็วขึ้น 25%
-Discipline ยูนิตทางทหารแบบประชิด แข็งแกร่งขึ้น 15% ถ้าอยู่ติดกับยูนิตทางทหารอื่นๆ
-Military Tradition (ต้องปลดล๊อค Warrior Code ก่อน) ยูนิตทางทหารได้รับ exp มากขึ้น 50%
-Military Castle (ต้องปลดล๊อค Discipline ก่อน) ทุกเมืองที่มียูนิตทหารตั้งอยู่ในเมืองได้รับ Happy +1 และ Culture +2
-Professional Army (ต้องปลดล๊อค Military Castle ก่อน) อัพเกรดยูนิตทางทหาร ใช้ Gold ลดลง 33%, สร้าง Barracks, Armories และ Military Academies เร็วขึ้น 50%
ปลดล๊อคครบทั้ง 5 Policies จะได้รับ Gold ทุกๆ ยูนิตที่เราฆ่าได้ และสามารถใช้ Faith ซื้อ Great Generals ได้ โดยซื้อได้ตั้งแต่ ยุค Industrial Era (ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม) เป็นต้นไป
4.Piety หรือ ศาสนา (ปลดล๊อค Policies Type นี้จะสร้าง Shrines และ Temples ใช้เวลาแค่ครึ่งเดียว และ สามารถสร้าง Great Mosque of Djenne)
-Organized religion +1 Faith ทุกๆ Shrines และ Temples
-Mandate of Heaven ซื้อ สิ่งก่อสร้าง และ ยูนิต ด้วย Faith ถูกลง 50%
-Theocracy (ต้องปลดล๊อค Organized Religion ก่อน) +10% Gold ทุกๆ Shrines, Gold+3 ทุกๆ Holy Sites
-Religious Tolerance (ต้องปลดล๊อค Organized Religion ก่อน) เมืองที่เป็นศาสนาหลัก ได้รับ Phantheon Belief Bonus จาก ศาสนา รอง ด้วย
-Reformation (ต้องปลดล๊อค Mandate of Heaven และ Religious Tolerance ก่อน) ถ้าเรามีศาสนาของตัวเอง ได้รับ Belief เพิ่ม
ปลดล๊อคครบทั้ง 5 Polices จะได้รับ Great Prophet หรือ ผู้ก่อตั้งศาสนา มาฟรี 1 ตัว และ +3 Culture จาก Holy Sites หรือเมืองที่เราทำการก่อตั้งศาสนานั้นเอง
จบแล้วครับ สำหรับ 4 Policies Type แรก เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ
คนเถื่อนและการต่อสู้เบื้องต้น
Barbarian หรือพวกคนเถื่อน จะมีอยู่ทั่วไปในแผนที่ บริเวณที่่ยังไม่มีประเทศไหนครอบครอง จะเป็นแคมป์เล็กๆ ตามรูปครับ
โดยจะมี 1 Unit เฝ้าอยู่ที่ Camp ตลอดเวลา และ มี unit เกิดขึ้นด้านนอก เรื่อยๆ หากอยู่ใกล้เมืองเรามันจะเข้ามาโจมตีเรื่อยๆ ถ้ามันโจมตี worker ของเรา worker จะโดนจับเป็นตัวประกัน และกลายเป็นพวกมันแทน ถ้าอยากได้คืนก็ต้องไปโจมตีกลับ เพราะฉะนั้นให้รีบทำลาย แคมป์ Barbarian ที่อยู่ใกล้ๆเมืองเราให้เร็วที่สุดถ้าไม่อยากปวดหัวตอนหลัง อีกอย่างถ้าปล่อยไว้นานพวกนี้สามารถ upgrade unit ได้ด้วยครับ มันจะเก่งขึ้น ถ้า unit เรายังไม่อัพเกรดนี้ลำบากครับ
การโจมตีมี 2 แบบ คือ
การโจมตีแบบประชิด – คลิกที่ icon นี้แล้วคลิกที่ unit ที่ต้องการโจมตี (unit ต้องอยู่ติดกัน) หรือ อีกวิธีคือคลิ๊กขวาที่ unit ที่จะโจมตีเลยก็ได้โดยไม่ต้องคลิ๊ก icon นี้
การโจมตีแบบระยะไกล – คลิกที่ icon นี้แล้วคลิ๊กที่ unit ที่ต้องการโจมตี ซึ่งต้องอยู่ระยะยิงเท่านั้นถ้าไกลกว่าระยะยิงจะยิงไม่ได้
ก่อนโจมตีดูก่อนสักนิด
Minor Victory คือ ประมาณว่าเราจะได้รับชัยชนะ แบบ เหนือกว่าเล็กน้อย แถบเขียวด้านซ้ายเป็นของเรา ด้านขวาเป็นของศัตรู Approx DMG Inflicted 45 คือ การโจมตีของเราจะทำความเสียหายให้ศัตรูประมาณ 45 (unit ทุกตัวมีค่า hp 100) ส่วน unit เราก็จะได้รับความเสียหายจากการประทะ ประมาณ 19 ครับ Your Strength 17.93 คือค่าความแข็งแกร่งของเราครับ ส่วนของศัตรูคือ 10 ครับ Bonus VS Barbarians +63% คือ Ability ชนิดนึงครับ ซึ่งทำให้ Strength เราเพิ่มเป็น 17.93 เมื่อเราต่อสู้กับ Barbarian จริงๆ strength เรามีแค่ 11 ครับ ส่วนของศัตรูมี ability เกี่ยวกับการสู้ในป่า Strength เพิ่ม 25%
สำหรับการโจตีระยะไกล เราจะไม่เสียพลังครับ เป็นการโจมตีฝ่ายเดียว
Fortify Until Healed – ให้ unit พักเพื่อฟื้นฟูพลัง hp ถ้าอยู่นอกเมือง hp จะขึ้นเทิร์นละ 10 แต่ถ้าอยู่ในเมือง จะขึ้นทีละ 20 ครับ
Do nothing – ให้ unit ไม่ต้องทำอะไรในเทิร์นนี้
Alert – ให้ unit ไม่ต้องทำอะไร จนกว่าจะมีศัตรูเข้ามาใกล้ unit (ได้ค่า defense เพิ่ม)
Fortify – สั่งให้ unit ไม่ต้องทำอะไรจนกว่าเราจะสั่ง (ได้ค่า defense เพิ่ม)
Explorer – สั่งให้ unit สำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจ สั่งครั้งเดียว unit จะเดินเองทุก turn
Delete Unit – ทำลาย unit ทิ้งครับ ทุก unit มีค่า maintenance นะครับ ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งต้องจ่ายเงินเยอะครับ
Unit Promotion ก็คือการอัพเลเวลของ unit นั่นเองครับ เมื่ออัพ level เราจะสามารถเลือก ability ต่างๆได้ ซึ่งมีอยู่มากมาย เอาไว้จะเขียนแบบละเอียดต่อไปครับ
วันนี้จบแค่นี้ก่อนครับ จบตอนนี้เราก็รู้พื้นฐานเกี่ยวกับ unit และการต่อสู้แล้ว อย่าลืมจัดการพวก Barbarian ให้สิ้นซากนะครับ สวัสดีครับ
ทำให้รัฐอิสระเป็นพวกเรา ดีกว่าเป็นศัตรู
City State คือ เมืองอิสระ ที่่ไม่ขึ้นกับชนชาติใด (ยกเว้นโดนโจมตีและยึด) สังเกตุง่ายๆ ในแผนที่จะเป็นสีดำ และที่ชื่อเมืองจะมีสัญลักษ์ คล้ายๆ รูป เจดีย์ ที่ต่อจากเลข 12 ตามรูปด้านบน ปกติ City State จะรักสงบ คือจะไม่ค่อยโจมตีใคร ยกเว้น ยกเว้นไปช่วยพันธมิตรต่อสู้กับศัตรู การเป็นพันธมิตรกับ City State ได้ประโยชน์หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับประเภทของ City State ด้วย มี 4 แบบ
Militaristic – จะส่งยูนิต ทหาร มาให้เราเรื่อยๆ ตราบที่เราเป็นพันธมิตรหรือขึ้นสถานะ friendly
Maritime – จะส่ง Food ให้เมืองเราทุกเทิร์น ตราบที่เราเป็นพันธมิตรหรือขึ้นสถานะ friendly
Cultured – บวกค่า Culture หรือค่านโยบาย ให้เราทุกเทิร์น ตราบที่เราเป็นพันธมิตรหรือขึ้นสถานะ friendly
Religious – บวกค่า Faith หรือค่าศรัทธาให้เราทุกเทิร์นตราบที่เราเป็นพันธมิตรหรือขึ้นสถานะ friendly
นอกจากนี้เรายังจะได้ ทรัพยากร ต่างๆ ของ City State ที่เป็นพันธมิตรกับเราด้วยนะครับ ดูตัวอย่าง
คือได้รับ Horses 2 และ Gems 1 ไปตลอดจนกว่าจะเลิกเป็นพันธมิตรกันครับ นอกจากนี้ City States ยังมีประโยชน์ เมื่อ World Congress (จะพัฒนาเป็น UN -สหประชาชาติ ในตอนหลัง) ก่อตั้งขึ้น โดยแต่ละ City States จะได้รับคะแนนสียง เพื่อใช้ในการ Vote มติต่างๆ ของ UN ซึ่งถ้าเป็นพันธมิตรกับเราเราจะได้รับคะแนนเสียงของ City States นั้นมาใช้ vote ได้เลย ซึ่งรายละเอียดของ World Congress หรือ UN จะอธิบายในตอนอื่น ครับ
แล้วทำอย่างไรจึงจะทำให้ City State เป็นพันธมิตรกับเราล่ะ ไม่ยากครับ ดูที่แถบด้านบน ที่อยู่ใต้ Status: Allies ครับ ลองเลื่อนเม้าส์ไปตรงนั้น จะเห็นค่า Influence (ค่าที่บอกว่าเรามีอิทธิพลกับ City States มากแค่ไหน) โดยค่าเริ่มต้นคือ 0 ถ้ามากกว่า 30 Status จะเป็น Friend(เพื่อน) และ ถ้ามากกว่า 60 ก็จะเป็น Allies (พันธมิตร) วิธีที่จะเพิ่มค่า Influence มีดังนี้
1. Give a Gift – วิธีนี้ง่ายสุดแต่ต้องมีเงินเยอะๆหน่อย จะมีให้เลือกให้เงิน 250, 500, 1000 ถ้าจ่ายเยอะก็ได้ค่า Influence เยอะหน่อย หรือ เลือกให้ Unit ก็ได้แต่จะได้ค่า Influence น้อยกว่าเงิน และใช้เวลา 3 Turn ถึงจะได้รับค่า Influence แต่ถ้าให้เป็นเงินจะได้ค่า Influence ทันทีครับ
2. Quest – City State จะมีการร้องขอความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ เป็นระยะๆ ซึ่งก็คือ Quest นั่นเอง ตัวอย่าง ต้องการให้กำจัด Barbarian ที่อยู่ใกล้เมือง ซึ่งถ้าชนชาติไหนไปกำจัด Barbarian นั้นให้ ชนชาตินั้นก็จะได้รับค่า Influence ทันทีครับ ส่วนใหญ่จะได้เยอะพอสมควรครับ Quest พวกนี้จะมีระยะเวลาด้วยนะครับ ถ้าหมดเวลา ก็จะหายไปครับ
3.ปลดปล่อย City State จากการเป็นเมืองขึ้น – ถ้าเราไปตี City States ที่เป็นเมืองขึ้นของชนชาติอื่น แล้วตีได้สำเร็จ จะมีคำสั่ง Liberate คือปลดปล่อยให้กลับเป็นเมืองอิสระ City States ก็จะเป็นพันธมิตรของเราทันทีครับ
หลังจากที่ City States เป็นพันธมิตรกับเราแล้ว อย่านิ่งนอนใจนะครับ เพราะแต่ละเทิร์นค่า Influence จะลดลงเรื่อยๆ แล้วยังมีชนชาติอื่นที่คอยเข้ามาตีท้ายครัว แย่ง City States ไปจากเราด้วยครับ โดยวัดกันที่ค่า Influence ใครมากกว่า ก็จะได้ City States ไป City State สามารถมี พันธมิตรได้แค่ 1 ชนชาติครับ
อีกอย่างครับ การที่จะติดต่อกับ City States ได้เราต้องค้นพบก่อนนะครับ เพราะฉะนั้นช่วงแรกเราต้องส่ง unit ไปสำรวจโลก เพื่อค้นหา City State ให้ได้เร็วๆ ชนชาติที่ค้นพบ City State จะได้รับ Gold เป็นของขวัญจาก City States ด้วยนะครับ หลังจากค้นพบ City State สามารถเข้าถึงได้จาก รูปลูกโลกมุมบนขวา (Diplomacy) ได้เลยครับ จะขึ้นโชว์ City States ทั้งหมดที่เราค้นพบแล้ว
จบเรื่องราวของ City States เพียงเท่านี้ครับ เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ
สร้างถนนเชื่อมต่อทุกเมืองเพื่อความมั่งคั่ง
Road หรือ ถนน คือการปรับปรุงพื้นผิวดินอย่างหนึ่งครับ โดยใช้ Worker เดินไปตรงที่เราต้องการสร้าง จากนั้น
กดที่ icon นี้ซึ่งคิดว่าทุกคนน่าจะทราบอยู่แล้วนะครับ
ประโยชน์หลักๆของถนนมีอยู่ 2 อย่าง คือ
1. Unit เดินได้ไกลขึ้นเมื่อเดินผ่านถนน
2. ใช้เชื่อมต่อระหว่างเมืองหลวงกับเมืองอื่นๆ เพื่อเพิ่ม Gold
ข้อ 1 คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาดูข้อ 2 ว่าทำยังไง ก่อนอื่นเราต้องมีเมือง 2 เมืองขึ้นไปก่อน จากนั้นสร้าง worker มาหลายๆตัวครับ ทำการสร้าง Road จากเมืองหลวง (เมืองที่มีรูปดาวอยู่หน้าชื่อเมือง) ไปต่อกับเมืองอื่นๆ พยายามเลือกสร้างถนนให้สั้นที่สุดนะครับ เพราะถนนมีค่า maintenance นะครับ 1 Gold /เทิร์น/บล๊อก เพราะฉะนั้นถนนยิ่งไกลค่าใช้จ่ายเราก็ยิ่งเยอะครับ แต่ไม่ต้องกลัวครับในระยะยาว Gold ที่เราได้เพิ่มมามันมากกว่าค่าใช้จ่ายตรงนี้เยอะ สำหรับเมืองที่อยู่ไกลเมืองหลวงมากๆเราไม่ต้องสรางถนนกลับมาที่เมืองหลวงก็ได้ แต่ให้สร้างถนนไปที่เมืองใกล้ๆ ที่เชื่อมกับเมืองหลวงอยู่ก่อนแล้วก็ได้ผลเหมือนกัน ถ้าไม่เข้าใจก็ดูรูปด้านล่างครับ จุดสีแดงคือเมืองหลวง
เมื่อเมืองเชื่อมต่อกับเมืองหลวงแล้วจะมี icon นี้ตรงชื่อเมือง และเราจะได้ Gold เพิ่ม โดยดูได้ที่สัญลักษณ์ Gold มุมบนซ้ายของหน้าจอ เอาเม้าส์ไปจ่อก็เห็นแล้วครับตามรูปด้านล่าง
อันที่สองครับ +16 from City connection between your Cities and your Capital
ได้เพิ่มมา 16 Gold ต่อเทิร์นครับ อันนี้ผมเชื่อมต่อ 2 เมือง เองครับ ส่วนด้านล่าง 6 spent on Tile Improvement Maintenance หมายถึงเราเสียเงินค่าบำรุงถนน 6 Gold ต่อเทิร์น แบบนี้คือเราได้กำไรครับ
ในช่วงแรกที่เมืองยังเล็กอยู่เราจะได้ Gold จากตรงนี้น้อยครับ เพราะฉะนั้นช่วงแรกอาจขาดทุนครับแต่เมื่อเมืองเราเติบโตขึ้น Gold ตรงส่วนนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนได้กำไรครับ ตัวอย่างเมื่อเมืองโตขึ้น
จำนวนเมืองเท่าเดิมครับแต่คนเยอะขึ้นรายได้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ
กรณีที่เมืองอยู่ทวีปอื่นเราไม่สามารถใช้การสร้างถนนมาที่เมืองหลวงได้นะครับ ต้องใช้ทางเรือแทนโดยเมืองหลวงและเมืองที่จะเชื่อมกันต้องอยู่ติดทะเล และสร้าง Harbor ทั้งสองเมืองครับ แค่นี้ก็เสร็จ เพราะฉะนั้นตอนเริ่มเกมส์ ถ้าเป็นไปได้ให้สร้างเมืองหลวงติดทะเล เผื่อเราจะเชื่อมกับเมืองในทวีปอื่นครับ
ขอจบเรื่องการสร้างถนน แค่นี้ครับ เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ
การพัฒนาที่ดินด้วยคนงาน หรือ Worker
Worker คือ Unit ที่ทำหน้าที่ปรับปรุงคุณภาพของพิ้นดิน โดยการสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อเพิ่มทรัพยากรที่ได้รับจากที่ดินผืนนั้นให้มากขึ้น วิธีการก็คืออยากปรับปรุงที่ดินตรงไหนก็ให้ Worker เดินไปตรงนั้นจากนั้นคลิ๊กที่ icon ก่อสร้างต่างๆ เสร็จก็รอ โดยการสร้างแต่ละแบบจะมีระยะเวลาในการสร้างแตกต่างกันออกไปและแต่ละชนชาติจะมีสิ่งก่อสร้างพิเศษที่คนงานสามารถสร้างได้แตกต่างกันไป ลองมาดูว่าพื้นฐานมีอะไรกันบ้าง
Farm หรือ การทำฟาร์ม -ซึ่งการทำ ฟาร์มสามารถสร้างได้แทบทุกพื้นที่ ได้ food + 1 ในบ้างครั้งในพื้นที่แบบขั้วโลกหรือทุนดราจะสร้างไม่ได้หรือสร้างได้แต่ได้ค่า food น้อย
Mine หรือ การทำเหมืองแร่ (ต้องวิจัย Mining ก่อนนะครับ) – เหมืองจะสร้างได้เฉพาะ Hill (เนินเขา) ได้ product +1 หรือเอาทรัพยากรพิเศษ
Market หรือ ตลาด (ต้องวิจัย Guilds ก่อนนะครับ) – สร้างได้แทบทุกพื้นที่จะได้ gold +1 แต่ถ้าเปิดนโยบายการค้าหรือวิทยาศาสตร์จะได้เงินเพิ่มและค่าวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น
Chop Down a Forest หรือ การตัดต้นไม้ (ต้องวิจัย Bronze Working ก่อนนะครับ) – สำหรับพื้นที่ที่เป็นพวกป่า(Forest ป่า,Jungle ป่าทึบ) เราต้องทำการตัดไม้ก่อน ถึงจะสามารถสร้าง ฟาร์ม หรือ ตลาด ได้ นะครับ แต่มันจะ auto ตัดให้เองถ้าเราวิจัยได้ การตัดไม้แล้ว
Road หรือ ถนน – สร้างถนนได้ทุกพื้นที่ครับ สามารถสร้างทับ ฟาร์ม หรือ สิ่งก่อสร้างอื่นๆได้เลย โดยไม่มีผลกับของเดิม ถนนทำให้ unit เดินได้ไกลขึ้นและไว้เชื่อมต่อระหว่างเมืองเพื่อเพิ่ม Gold ได้
Railroad หรือ ทางรถไฟ – (ต้องทำการวิจัย Railroad ก่อนนะครับ )สร้างทับถนนได้ทุกพื้นที่และสามารถสร้างทับ ฟาร์ม หรือ สิ่งก่อสร้างอื่นๆได้เลย โดยไม่มีผลกับของเดิม ถนนทำให้ unit เดินได้ไกลขึ้นอีกและไว้เชื่อมต่อระหว่างเมือง แต่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา
Camp หรือ การตั้งแคป์ (ต้องวิจัย Trapping ก่อน) – สร้างได้เฉพาะพื้นที่ที่มี Deer กวาง, Ivory ช้าง, Fur หมาจิ้งจอก, Truffles หมูป่า และ Bison ควายไบซัน เมื่อสร้างแล้วจะได้ทรัพยากรเหล่านั้น และ Gold +1
Pasture หรือ การทำปุศสัตว์(ต้องวิจัย Animal Husbandry ก่อน) สร้างได้เฉพาะพื้นที่ที่มี Cows วัว, Sheeps แกะ และ Horse ม้า เมื่อสร้างแล้วจะได้ทรัพยากรเหล่านั้น และ Product +1
ส่วนรูปที่เห็นอยู่ด้านบนคือ สิ่งที่เหลือที่คนงานของเราสามารถทำได้ครับ อันที่ชี้อยู่คือ การซ่อมแซม หรือ Repair ไว้สำหรับหากมีคนเถื่อนหรือศัตรูมาทำลายพื้นที่ของเราไม่ว่าจะเป็นฟาร์ม,ตลาด,เหมืองแร่,ถนนหนทาง หรืออื่นๆ เราสามารถกดที่ icon นี้ เพื่อทำการซ่อมแซมได้ครับ ต่อมาที่เป็นรูปถนนต่อกัน คือ การสร้างถนนแบบเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ หากขี้เกลียดคุมคนงานมาสร้างถนน ให้เรากดที่ icon นี้แลัวไปกดกับเมืองที่เราต้องการสร้างถนน (แนะนำเอาคนงานไปไว้ในเมืองนั้นหรืออยู่บนถนนก่อนแลัวค่อยกดนะครับ ไม่งั้นได้สร้างมั่วแน่) คนงานของเราก็จะทำการสร้างถนนโดยอัตโนมัติเองเลยครับ ส่วน icon ที่เป็นเหมือนรูปเสาปราสาทนั้นคือ ป้อมปราการ เอาสำหรับหากอยากป้องกันเมืองหรือชายแดนให้นำคนงานของเราไปไว้ต้องจุดที่ต้องการสร้างป้อมปราการแลัวกดที่ icon นี้จะทำให้ยูนิตของเราที่มาอยู่ในป้อมได้รับโบนัสการป้องกันเพิ่มขึ้นครับ
การสร้าง Units และ Buildings
การสร้าง Units ,Buildings, Wonders ใช้คำสั่งเดียวกันครับ คลิ๊กที่ icon ด้านล่างครับ
จากนั้นเลือกสิ่งที่จะสร้างซึ่งจะมี 3 กลุ่ม ดังนี้
1. Units – คือพวกที่สามารถเคลื่อนไหวได้ เช่น นักรบ, นักธนู, Settler, รถถัง และ อื่นๆ
2. Buildings – คือพวกสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม food , product , gold และ อื่นๆ
3. Wonders – เป็นสิ่งก่อสร้างเหมือนกันครับ แต่ต้องผ่านเงื่อนไขบางอย่างก่อนถึงสร้างได้ และบางอย่างมีได้แค่ 1 เดียวในโลก หมายความว่าถ้าเราสร้างแล้ว ชนชาติอื่นไม่สามารถสร้างได้อีกซึ่งจะทำให้เราได้เปรียบขากโบนัสที่ได้จากสิ่งมหัศจรรย์อย่างมาก
การสร้างแต่ละอย่างจะใช้ค่า Product อย่างเช่น Worker ต้องการ product 70 เรามี 4 product ต่อเทิร์น เอา 70 หาร 4 ได้ 17.5 ปัดขึ้นเป็น 18 เพราะฉะนั้นใช้เวลาสร้าง 18 เทิร์น
มาดูว่าตอนนี้เราสร้างอะไรได้บ้าง
– Worker [70 Product] คนงานใช้สำหรับปรับปรุงคุณภาพของดินให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มทรัพยากรให้มากขึ้น
– Scout [25 Product] ใช้สำหรับสำรวจโลก แต่เราสามารถใช้ Warrior หรือ Units อื่นแทนได้ครับ
– Warrior [40 Product] นักรบแบบประชิดตัว
– Monument [40 Product] สิ่งก่อสร้างที่เพิ่ม Culture +2 ให้เมือง ทำให้เขตแดนของเมืองขยายเร็วขึ้น และ unlock Policies ได้เร็วขึ้น แต่สิ่งก่อสร้างนี้จะมีค่าใช้จ่าย 1 Gold ต่อเทิร์น ครับ เพราะฉะนั้นก่อนสร้างสิ่งก่อสร้างให้ดูด้วยว่ามีค่า Maintenance เทิร์นละเท่าไร เรามี Gold พอไหม เดี๋ยวเงินติดลบขึ้นมาจะล้มละลายเอานะครับ
ถ้าเราไม่อยากรอนานเราสามารถใช้เงินซื้อ Units หรือ Buildings ได้เลยครับ โดยคลิ๊กที่ icon
โดยใช้ Gold (ทอง) หรือ Faith (ค่าศรัทธา)ซื้อครับ ลองดูราคาครับ
Worker หรือ คนงาน= 310 Gold
Scout หรือ ผู้บุกเบิก = 140 Gold
Warrior นักรบ= 200 Gold
Monument หรือ อนุสรณ์สถาน = 280 Gold เป็นต้น
ถ้ามีเงินพอสามารถซื้อได้เลยครับ ไม่ต้องรอสร้าง ส่วน Faith หรือ ค่าศรัทธา นั้นเดี๋ยวจะอธิบายอีกทีในตอนอื่นนะครับ สำหรับพื้นฐานการสร้าง Units และ Buildings ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ
การวิจัยเทคโนโลยีพื้นฐาน 4 อันแรก
การวิจัยจะทำให้เราได้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้สิ่งก่อสร้าง หรือ unit ที่เก่งขึ้น ถ้าเทคโนโลยี่เราก้าวหน้ากว่า ชนชาติอื่น เราก็จะได้เปรียบในทุกๆด้าน โดยการวิจัยจะต้องใช้ค่า Science ซึ่งได้มาจากสิ่งก่อสร้าง และ จำนวนประชากรทั้งหมดของเราครับ เริ่มต้นการวิจัยโดยคลิ๊กที่ icon
มาดูเทคโนโลยีต่างๆที่เราสามารถวิจัยได้ ในช่วงแรกครับ
Pottery การทำเครื่องปั่นดินเผา [37 Science] – วิจัยเทคโนโลยี่นี้แล้วเราสามารถสร้าง Granary หรือ ยุ้งฉาง (เพิ่ม food 2) และ Shrine หรือ เทวสถาน (เพิ่ม Faith 1)
Animal Husbandry การทำปศุสัตว์ [37 Science] – วิจัยเทคโนโลยี่นี้แล้วเราสามารถสร้าง Caravan หรือ พ่อค้า (ใช้ค้าขายกับชนชาติอื่นที่อยู่ในทวีปเดียวกัน), ทำให้เรามองเห็น ม้า ที่อยู่ในแผนที่, สร้าง Pasture หรือฟาร์มสัตว์ บนที่ดินที่มี cows วัว กับ sheep แกะ Bison ควายไบซัน เพื่อเพิ่ม Product ค่าการผลิต, และเพิ่ม Trade route + 1 หรือ เส้นทางการค้าขายมา 1 สาย
Archery หรือ การใช้ธนู [37 Science] – วิจัยเทคโนโลยี่นี้แล้วเราสามารถสร้าง Archer (นักธนู) ได้ และ สร้าง Temple of Artemis (Cultural+1 ค่าวัฒนธรรม, Great Engineer Point +1 ค่าถือกำเนิดบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ด้านอุตสาหกรรม, ประชากรโตเร็วขึ้น 10% ทุกเมือง, เพิ่ม product ค่าการผลิต 15% เมื่อสร้าง range unit พวกนักธนู หรือ พวกสายโจมตีระยะไกล)
Mining [37 Science] – วิจัยเทคโนโลยี่นี้แล้วเราสามารถสร้าง Mine(เหมือง) บนที่ดินที่เป็น hill(เนินเขา) เพื่อเพิ่ม Product ค่าการผลิตและสามารถตัดไม้ในป่าได้ ครับ
เทคโนโลยี่ทั้ง 4 อันนี้ ต้องการค่า Science 37 ค่าวิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่ากัน ตัวอย่างถ้าค่า Science ค่าวิจัยของเราคือ +4 เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาวิจัย 10 เทิร์น ครับ ถ้าเรามี Science +8 เราจะใช้เวลาแค่ 5 เทิร์น ครับ ทั้ง 4 อัน สำคัญหมดในช่วงแรกครับ แต่ Archer อาจยังไม่จำเป็นเท่าไรเพราะช่วงแรก ชนชาติอื่นมักจะไม่โจมตีเราแต่ก็จะมีพวก Barbarian ชอบมาโจมตีเมือง แต่เมืองเราเปรียบเหมือน archer หรือ นักธนู 1 ตัวครับ ยิงไกลได้ + warrior นักรบ ที่เรามีก็พอป้องกันเมืองได้สบายครับถ้าไม่เล่นโหมดยาก Mining การทำเหมืองก็สำคัญครับ ทำให้เราสร้าง mine เหมือง เพิ่มค่าการผลืต product ทำให้เราสร้างสิ่งก่อสร้าง หรือพวก unit เร็วขึ้น, Pottery การปั้นเครื่องปั้นดินเผา จำเป็นถ้าเราต้องการตั้งศาสนาเพราะต้องรีบสะสมค่าศรัทธา หรือ Faith ก่อนชนชาติอื่น, Animal Husbandry การเลี้ยงสัตว์ทำให้มี Trade route เส้นทางกาค้าสายแรก แต่ช่วงแรกมักจะได้เงินน้อย ยังไม่ต้องรีบสร้างก็ได้ครับ
จบ สำหรับพื้นฐานการวิจัย 4 เทคโนโลยี่ แรก ครับ ยังมีอีกเยอะครับ เดี๋ยวค่อยเขียนต่อในตอนอื่นๆ ครับ
สถานะและความสัมพันธ์ประเทศแบบไหนถึงจะดี
ใน Sid Meier’s Civilization การคงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างจะมีระดับ เป็นกลาง,ศัตรู ไปจนถึงสงครามจนคุณไม่อยากจะเชื่อใจใครทั้งนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวชี้วัดต่างๆ ด้านการทำสงคราม,ด้านการค้าแลกเปลี่ยนและในสภาโลก เป็นต้น หากคุณไม่ใช่พวกที่ชอบเอาทหารไปตีประเทศเพื่อนบ้านหรือจะจบแบบยึดโลกก็ไม่ต้องสนใจก็ได้ครับ
1.Neutral หรือ เป็นกลาง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่เจอกันครั้งแรกและอาจมีไปจนถึงจบเกม ความสัมพันธ์ในระดับนี้จะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับต่างชนชาติได้ง่ายไปจนถึงปานกลางและความสัมพันธ์นี้สามารถพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์แบบอื่นๆได้
2.Guarded หรือ หวาดระแวง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่พัฒนาจากความเป็นกลางไปสู่ความหวาดระวังเรา โดยมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น ชายแดนเลื่อมล้ำหรือทับซ้อนใกล้กัน,เรามีกองทัพหรืออาวุธที่เหนือกว่า เช่น เรามีอาวุธนิวเคลียร์เป็นต้น เราทำการประกาศคว่ำบาตรหรือทำสงครามกับชนชาตินั้นๆแลัวขอสงบศึกในภายหลังและอีกเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย ในความสัมพันธ์ระดับนี้เราจะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับต่างชนชาติได้ปานกลางจนถึงยากและความสัมพันธ์นี้สามารถพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์แบบอื่นๆได้เช่นกัน
3.Denounce หรือ ประณาม,คว่ำบาตร,ปิดประเทศ,ไม่คุยด้วย คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่พัฒนาจากความเป็นกลางหรือหวาดระแวงไปสู่การประณามหรือคว่ำบาตร โดยมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น ชายแดนเลื่อมล้ำหรือทับซ้อนกัน,เรามีศาสนาต่างกันหรือไปทำการเผยแพร่ศาสนาใส่ชนชาตินั้น,เรามีกองทัพหรืออาวุธที่เหนือกว่า เช่น เรามีอาวุธนิวเคลียร์เป็นต้น เราทำการประกาศคว่ำบาตรหรือทำสงครามกับชนชาตินั้นๆแลัวขอสงบศึกในกันภายหลัง (ชนชาติที่ทำสงครามกับชนชาติอื่นบ่อยๆมักจะถูกมองจากนานาชาติว่าเป็นพวกบ้าสงครามและอาจทำการประณามหรือคว่ำบาตรได้เช่นกัน)และอีกเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย ในความสัมพันธ์ระดับนี้เราจะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับต่างชนชาติได้ยาก เช่น ปกติเราแลกเปลี่ยนทรัพยากรทางการค้าเราจะได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายหรือเป็นเราที่ได้ผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จะเปลี่ยนเป็นเราจะถูกเอารัดเอาเปรียบและเสียผลประโชน์อย่างมากแทนและความสัมพันธ์นี้สามารถพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์แบบอื่นๆได้เช่นกัน ขอแนะนำจงจำไว้หากเขามีพันธมิตรหรือมีอำนาจอยู่เหนือกว่าชนชาติอื่นๆ ชนชาติเหล่านั้นอาจรวมหัวกันมาประกาศคว่ำบาตรเราได้และเราจะมีปัญหาตามมาอีกมาก เช่น เราอาจจะได้รับการโหวตห้ามค้าขายกับชนชาติอื่นๆในสภาโลก เป็นต้น (จะมาอธิบายอย่างละเอียดในหัวข้อสภาโลกและสหประชาชาตินะครับ)
4.Hostile หรือ เป็นศัตรู คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่พัฒนาจากการประณามหรือคว่ำบาตรไปสู่การเป็นศัตรูซึ่งกันและกัน โดยมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น เขาหรือเราทำการการประณามหรือคว่ำบาตรและจากการทำสงคราม ในความสัมพันธ์ระดับนี้เราจะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับต่างชนชาติได้ยาก แนะนำถ้าขึ้นสถานะนี้อย่าไปคุยด้วยเลยจะดีกว่าครับ
5.Friendly หรือ เป็นมิตร,พันธมิตร คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่พัฒนาจากการความเป็นกลางหรือหวาดระแวงไปสู่สถานะเป็นมิตรกันได้ โดยมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น เราทำการประณาม,คว่ำบาตร หรือ ประกาศสงครามใส่ชนชาติศัตรูของเขา,ร่วมกันทำสงครามกับชนชาติอื่น,เขาหรือเรานับถือศาสนาเดียวกัน,เราช่วยเหลือประเทศของเขา เช่น ปลดปล่อยเมืองหรือคนของเขาจากชนชาติศัตรูรวมถึงจากเผ่าคนเถื่อน,เราเป็นมิตรกับชนชาติเดียวกับที่เขาเป็นมิตรด้วย,ชายแดนไม่เลื่อมล้ำหรือติดกัน เป็นต้น ในความสัมพันธ์ระดับนี้เราจะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับต่างชนชาติได้ง่ายขึ้นอย่างมาก เช่น เราอาจได้เปรียบจากการค้าขายแลกเปลี่ยนทรัพยากร,ได้รับการช่วยเหลือในเรื่องของการโหวตในสภาโลก,สหประชาชาติหรือช่วยกันทำสงคราม เป็นต้น แต่การเป็นพันธมิตรในบ้างครั้งเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เช่น เขาอาจะมาขอทรัพยากรจากเราฟรีๆ แต่ในทางกลับกันเขาอาจช่วยเราด้วยการให้ทรัพยากรของเขามาให้เราแบบฟรีๆ เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันระหว่างมิตรประเทศ
6.Afraid หรือ เกรงกลัว,ยำเกรง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่พัฒนาจากการมิตรไปสู่ความหวาดกลัวยำเกรงเรา ซึ่งการจะขึ้นสถานะนี้ได้นั้นเราจะต้องมีแสนยานุภาพหรือกองทัพที่เหนือกว่าทุกชนชาติที่เป็นมิตรกับเรา เช่น เรามีอาวุธนิวเคลียร์และชาติที่ไม่ได้เป็นมิตรกับเราก็จะพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์แบบหวาดระแวงได้เช่นกัน ในความสัมพันธ์ระดับนี้เราจะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับต่างชนชาติได้ง่ายมากขึ้น เช่นเราอาจจะได้รับผลประโยชน์ทางการค้าและการสนับสนุนในสภาโลกเพิ่มมากขึ้น
7.Come back to life หรือ กลับมามีชีวิต,ฟื้นฟู คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรจากการที่เราไปช่วยปลดปล่อยชนชาตินั้นๆจากการที่ถูกชนชาติที่ยึดครองหรือทำลายชนชาตินั้นไปแลัวให้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง ในสถานะนี้สามารถพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์แบบเป็นมิตรได้และเราจะสามารถแลกเปลี่ยนการค้าหรือพูดคุยกับชนชาตินั้นๆได้ง่ายจนถึงปานกลาง แต่อย่าหวังเรื่องการค้าในช่วงแรกๆเพราะจะยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูประเทศ (เขาอาจจะล้าหลังกว่าเราเพราะเขาอาจจะถูกยึดหรือทำลายไปช่วงยุคใดยุคหนึ่ง)
8.War หรือ สงคราม คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรืออาณาจักรที่พัฒนาจากความสัมพันธ์แบบหวาดระแวง,เป็นศัตรู,เป็นกลาง ของเรากับคู่กรณีอยู่ในช่วงย่ำแย่ถึงขีดสุดจนต้องทำสงครามกัน (ในบางครั้งอยู่เฉยๆเป็นกลางไม่ได้มีปัญหาอะไรก็มาตีเราซะดื้อๆเลย) สาเหตุอาจมาจาก ชายแดนเลื่อมล้ำหรือทับซ้อนกัน,เรามีศาสนาต่างกันหรือไปทำการเผยแพร่ศาสนาใส่ชนชาตินั้น,เราทำการการประณามหรือคว่ำบาตรชนชาตินั้น เป็นต้น การทำสงครามนั้นอาจจะถูกมองจากชนชาติอื่นๆได้ว่าเป็นพวกบ้าสงครามและอาจทำการประณามหรือคว่ำบาตรได้เช่นกัน ผลเสียจากการทำสงคราม คือ ศัตรูของเราจะเข้ามาทำลายพื้นที่,ไร่นาหรือชุมชนการค้าของเรา,ยึดเมืองหลักๆของเราและปล้นเส้นทางการค้าของเราและหากเขามีรัฐอิสระเป็นพันธมิตร รัฐอิสระเหล่านั้นก็จะช่วยรบด้วยการส่งกำลังมาป่วนเราตามชายแดน (หากรัฐอิสระนั้นอยู่ติดกับเรา) ร่วมไปถึงการส่งยูนิตทหารให้กับชนชาติศัตรูของเราและปล้นเส้นทางการค้าของเรา การทำสงครามเราอาจได้รับประโยชน์หรือเสียผลประโยชน์ได้เช่นกัน เช่น เราอาจจะได้เงินหรือทรัพยากรมาเป็นของแลกเปลี่ยนกับการสงบศึกเป็นต้น แนะนำอย่าทำสงครามเลยครับมีแต่เสียกับเสียแต่ในบ้างครั้งมันก็สุดจะทนกับชนชาตินั้นจริงๆ ขึ้นอยู่กับตัวของผู้เล่นครับ
เรื่องลับๆของสายลับ
ใน civilization เมื่อทุกยุค”Renaissance”หรือ”ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา”เราจะปลดล็อคการใช้งาน Spy หรือ สายลับ มาใช้ได้ ประเทศของเราต้องวิจัยหรือผ่านยุคกลาง หรือ Medieval มาก่อน แต่ในกรณีหนึ่งถ้าชนชาติไหนนำหน้าด้านเทคโนโลยีไปไกลแลัวละก็พวกเขาก็จะได้สายลับ หรือ Spy มาทันทีแม้จะอยู่ในยุคหินหรือคลาสสิคก็ตาม โดยสายลับนั้นจะมีได้สูงสุด 6 คนครับ โดยต้องวิจัยข้ามเป็นยุคๆไป เช่น ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา,ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม,ยุคทันสมัย,ยุคพลังงานนิวเคลียร์และยุคสุดท้ายหรือยุคแห่งอนาคตและอีกคนจะได้มาจากสิ่งก่อสร้างพิเศษที่เมื่อเราสร้าง”สถานีตำรวจ”หรือ”Police Stations”ให้ครบทุกเมืองและจะต้องมีสิ่งก่อสร้าง”Constabulary”หรือ”ผู้ตรวจการ” ก่อนเราถึงจะปลดล็อคการสร้าง the National Intelligence Agency หรือ หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้เราได้สายลับมาเพิ่งอีกหนึ่งคนและเลเวลสายลับของเราจะเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งทุกตัว ซึ่งการจะสร้าง”สถานีตำรวจ”หรือ”Police Stations”ได้นั้นต้องวิจัยเทคโนโลยีด้าน”วิทยุสื่อสาร”หรือ” Radio Tech”ในช่วงของยุคทันสมัยนะครับ ส่วน”Constabulary”หรือ”ผู้ตรวจการ” ต้องวิจัย”Banking”หรือ”การธนาคาร”ในช่วงยุค”Renaissance”หรือ”ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา”
เบื้องต้นสายลับมีดีอย่างไร
1.สามารถขโมยเทคโนโลยีจากชนชาติอื่นๆได้ ต้องดูด้วยว่าเมืองนั้นมีสิ่งก่อสร้างที่ช่วยกันสายลับหรือไม่
2.สามารถสืบหาข้อมูลว่าเมืองนั้นกำลังทำอะไรและท่าทีของชนชาตินั้นเป็นอย่างไร
3.สั่งให้ประจำการอยู่ในเมืองของเรา เพื่อป้องกันการขโมยเทคโนโลยีจากสายลับของชนชาติอื่น ส่วนมากจะเอาสายลับป้องกันเมืองหลวงหรือเมืองที่มีการเจริญเติบโตสูงๆ
สายลับกับงานด้านการทูต
ใน civilization สายลับของเราอาจทำให้เรามีมิตรหรือศัตรูได้ เช่น หากคุณขโมยเทคโนโลยีจากเขามากเกินไปจนเขาจับได้ สิ่งแรกๆที่ชนชาตินั้นจะทำคือ การตักเตือนว่าอย่าทำแบบนี้อีก,ท่านส่งสายลับมาขโมยเทคโนโลยีของข้าทำไม สิ่งเราอาจเลือกตอบกลับไปได้สองอย่าง 1.โอ…ข้าเสียใจด้วยข้าขอสัญญากับท่านว่าจะไม่ทำอีก (ยอมรับ) กับ 2.สายลับอะไร…เราไม่รู้เรื่องเราไม่เคยส่งสายลับไปประเทศของท่านเลย (ไม่ยอมรับ ) ส่วนมาก AI จะชอบตอบข้อ 2 กลับมาหากเราจับได้และอาจจะมาขอโทษเราเราสามารถเลือกได้ว่า 1.เราให้อภัยท่าน (สามารถคงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ดี) กับ 2.เราไม่ให้อภัยกับการกระทำของท่าน (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศติดลบ) หากเป็นฝ่ายเราที่จับได้ว่าชนชาตินั้นส่งสายลับมาขโมยเทคโนโลยีของเรา เราสามารถเลือกตอบได้ 4 ข้อ ดังรูปด่านล่าง เช่น 1.ประกาศสงครามใส่แม่มเลยสุดจะทน 2.ทำการประณามใส่ชนชาตินั้นๆ 3.เราต้องการให้ท่านเลิกส่งสายลับมาหาเรา กับ 4.เราจะปล่อยไปท่านก่อนครั้งนี้ (หากเราตอบข้อ 3 และข้อ 4 ชนชาตินั้นๆอาจจะมาขอโทษที่ส่งสายลับมาหาเราอย่างที่ผมเคยอธิบายไปแลัวเป็นต้น) อีกหน้าที่หนึ่งของสายลับคือ การเป็น”เอกอัครราชทูต”ให้เราส่งไปยังเมืองหลวงของประเทศนั้นๆ เพื่อค่อยสอดส่องดูพฤติกรรมของชนชาตินั้นๆแม้เขาจะประณามแลัวไม่คุยกับเราก็ตาม ด้วยการไปที่ช่องสายลับและเลือกสายลับคนที่เราต้องการให้เป็นทูตส่งไปที่เมืองหลวงของชนชาตินั้นๆด้วยการกด”Diplomat”สามารถทำกับรัฐอิสระได้เช่นกัน แต่กดส่งไปที่เมืองเท่านั้นโดยไม่ต้องกด”Diplomat”ซึ่งจะทำให้เราสามารถเพิ่มค่ามิตรกับเรากับรัฐอิสระและลดค่ามิตรของชนชาติอื่นๆที่รัฐอิสระเป็นมิตรหรือพันธมิตรได้อีกด้วย หากเราส่งสายลับที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตไปยังเมืองหลวงของชนชาตินั้นๆ เราจะได้เสียงในสภาโลกหรือสหประชาชาติมาเพิ่มอีก 1 เสียง(สามารถทำได้แค่เมืองหลวงของชนชาตินั้นๆไม่นับเมืองย่อยหรือรัฐอิสระเพราะจะถือว่าเป็นการส่งสายลับไปแค่สำรวจเท่านั้น ผิดกับ AI ที่สามารถขโมยเทคโนโลยีจากเราได้ทุกเมืองในบางครั้ง)และช่วยเพิ่มค่าอิทธิพลทางวัฒนธรรมของประเทศเราที่มีต่อชนชาตินั้นๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ผู้เล่นที่ชื่นชอบหรืออยากจบแบบวัฒนธรรมและจบแบบสหประชาชาติสามารถนำไปปรับใช้ได้อีกด้วย
สายลับกับการป้องกันการขโมยเทคโนโลยีและอื่นๆ
อย่างเคยบอกไปทั้งเราและ AI สามารถที่จะใช้สายลับในการทำภารกิจต่างๆ เช่น การส่งสายลับไปเป็นทูต เพื่อเอาคะแนนเสียงจากสภาโลก (ภายหลังจะยกระดับเป็นสหประชาชาติ) เพิ่มค่าอิทธิพลทางวัฒนธรรมของเราที่ต่อชนชาตินั้นๆและเป่าหูรัฐอิสระให้มาเป็นพวกของเราแลัว ยังสามารถที่จะขโมยเทคโนโลยีได้อีกด้วย การป้องกันสายลับของชนชาติอื่นๆที่จะเข้ามาขโมยเทคของเรานั้นจะต้องทำการสร้าง”Constabulary”หรือ”ผู้ตรวจการ”ต่อมาคือ”Police Stations”หรือ”สถานีตำรวจ”สิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะช่วยลดการจารกรรมข้อมูลของสายลับให้สำเร็จน้อยลง 25% ครับและหากเราเป็นฝ่ายจะขโมยเทคของเขาต้องดูด้วยว่าการขโมยเทคโนโลยีนั้นต้องใช้เวลากี่เทิร์นที่จะขโมยได้มีโอกาสสำเร็จมากหรือน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเมืองและสิ่งก่อสร้างป้องกันสายลับที่เขามี บ้างทีก็ต้องรอนานถึงมากกว่า 100 ถึง 500 เทิร์นกันเลยทีเดียวก็มี ถ้าหากขโมยได้เราสามารถเลือกเทคโนโลยีที่ขโมยมาได้จากชนชาตินั้นๆ 1 เทคเท่านั้น (แนะนำให้เลือกอันที่เราต้องการจริงๆหรือใช้เวลาวิจัยนานทีสุด เป็นต้น) จากนั้นก็จะต้องไปนั่งรอจนรากหงอกต่อไป ในยุค”ยุคพลังงานนิวเคลียร์”จะมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่สิ่งหนึ่งที่สามารถป้องกันสายลับได้แบบเต็มๆนั้นก็คือ”Great Firewall”หรือ”ระบบเครือข่ายไฟร์วอลล์”ซึ่งจะช่วยป้องกันการขโมยเทคโนโลยีได้ถึง 99.9% ในเมืองที่มีการสร้างสิ่งมหัศจรรย์นี้และจะช่วยลดการขโมยเทคโนโลยีจากเมืองอื่นๆของเราได้เพิ่มขึ้นอีก 25% ช่วยลดค่าอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากชนชาติอื่นอีก 20% และเพิ่มค่าวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของเรา 5% เมื่อเราวิจัย”อินเตอร์เน็ต”ซึ่งจะอยู่ในยุค”แห่งอนาคต”หรือ”Information Era”
สายลับกับเลเวล
หากเราสั่งให้สายลับป้องกันเมืองหลวงของเรา สายลับมีโอกาสป้องการการขโมยเทคโนโลยีจากสายลับของชนชาติอื่นๆได้ขึ้นอยู่กับสิ่งก่อสร้างป้องกันสายลับซึ่งในช่วงแรกอาจจะมีโอกาสถูกขโมยได้มากแต่จะเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ใน”ยุคหิน”หรือ”ยุคคลาสสิค”แต่ก็มีโอกาสในยุคอื่นๆได้เช่นกันแต่จะน้อยลงไปตามยุคและสิ่งก่อสร้างป้องกันสายลับ ซึ่งถ้ามีโอกาสสายลับของเราสามารถที่จะสังหารสายลับของชนชาติที่ส่งสายลับเข้ามาขโมยเทคโนโลยีได้และเลเวลของสายลับเราจะเพิ่มขึ้น มีอีกทางหนึ่งคือ การสร้าง”หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ”
สายลับกับข่าวกรอง
การส่งสายลับไปเป็นทูตประจำตามเมืองหลวงของแต่ละประเทศ เราสามารถที่จะรู้ถึงความเคลื่อนไหวของชนชาตินั้นๆไม่ว่า เขาจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์หรือการสร้างกองทัพเตรียมตัวทำสงคราม เราสามารถรู้ได้ว่าชนชาตินั้นๆกำลังทำอะไรอยู่ หากเขาเตรียมการที่จะทำสงครามหรือมีปัญหากระทบกระทั่งระหว่างประเทศเราสามารถไปเตือนชนชาติคู่กรณีของเขาได้ซึ่งจะช่วยบวกค่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ซึ่ง AI ก็สามารถทำได้เช่นกัน
จบเรื่องลับๆของสายลับไว้เพียงเท่านี้…