คู่มือแนะนำการเล่นในเบื้องต้นของเกม

Overview

ไกด์นี้เป็นคู่มือแนะนำการเล่นในเบื้องต้นของเกม

ส่องแผนที่แบบใหม่ทั้งห้าตามสายอาชีพ

Stardew Valley ก็ได้ปลดปล่อยออกมาให้ชาวไร่ชาวสวนกลับมาครื้นเครงกันอีกครั้ง โดยเฉพาะเจ้าแผนที่ใหม่ที่ทำให้ผู้เล่นถึงกับเย้วๆยอมสร้างฟาร์มใหม่กันไม่น้อยเพื่อลองของกันเลยทีเดียว

สำหรับครั้งนี้ก็ขอนำแผนที่ทั้ง 5 และวิเคราะห์แบบหมานิมๆ(เป็นความคิดเห็นส่วนตัว – ฮา)มาให้ผู้เล่นแต่ละท่านประกอบการตัดสินใจในตัว เย่ะ

ก่อนอื่นนั้น การจะสร้างฟาร์มแบบใหม่ ผู้เล่นต้องสละฟาร์มเก่าเสียก่อน เนื่องจากการเลือกฟาร์มแน่นอนว่าต้องทำตอนสร้างตัวละครเท่านั้น โดยจะเลือกได้จากทางขวามือที่เป็นปุ่มเล็กๆรูปฟาร์ม 5 ปุ่ม

แผนที่ที่มีให้เลือกทั้ง 5 แบบ

ตัวแผนที่เริ่มต้นในแต่ละรูปแบบก็จะแตกต่างกันไปตามด้านล่างนี้เลย~
*ขอขอบคุณทาง [link] สำหรับรูปภาพแผนที่แต่ละฟาร์มมา ณ ที่นี่เป็นอย่างสูง*

แบบฟาร์มธรรมดาห้าบาท

แบบพื้นฐานสายทำฟาร์ม อันนี้ขออณุญาติข้ามเลยละกัน รู้กันหมดไส้หมดพุงละ เย่ะ

ข้อดี : พื้นที่เหลือเฟือในการตกแต่งและเพาะปลูก เล่นง่ายสบายแฮ
ข้อเสีย : จืดเป็นแกงจืดตากฝน

แบบเกาะกลางน้ำ

แบบเกาะกลางน้ำ เป็นฟาร์มที่เป็นหมู่เกาะเล็กๆ รายล้อมด้วยน้ำ สำหรับสายตกปลา สามารถใช้ตกปลาได้จริงๆ แต่จะเป็นปลาที่ตกได้ในตัวเมือง

ข้อดี : สุดยอดแผนที่สำหรับสายกระชังปูมากกว่าการตกปลา
ข้อเสีย : ถ้าไม่มีการปรับตำแหน่งหรือการได้ปลา จัดว่าเป็นข้อเสียมากกว่า เพราะสายตกปลาจริงๆยังไงก็ต้องวิ่งพล่านไปทั่วอยู่ดี

แบบป่าไม้ร่มรื่น

แบบป่าเขาลำเนาไพร ระดับความสวยของธรรมชาติกินขาดชาวบ้าน สำหรับสายของป่า สามารถหาของป่าและไม้ได้แบบเหลือกินเหลือใช้

ข้อดี : ใครชอบป่าไม้ มันสวยจริงจังมาก ของป่ามีโอกาสเกิดในฟาร์มได้ และมีทั้งตอไม้กับต้นไม้ให้เรื่อยๆ
ข้อเสีย : พื้นหญ้านั้นใช้ทำอะไรไม่ได้เลย การสร้างจริงๆจึงน้อยไม่แพ้กับแผนที่อื่น สำหรับคนมีเงิน ไม้สามารถหาซื้อจากโรบิ้นได้เช่นกัน (ยกเว้นไม้แข็งจ๊ะ)

แบบเขาจะสูงหรือทางจะชัน

แบบภูเขาสูง ให้บรรยากาศเยี่ยงบ้านของโรบิ้น สำหรับสายขุดเหมือง จุดเด่นอยู่ที่ยอดเขาที่สุ่มแร่รายวันและหินหน้าตาเฉพาะทางที่พบได้ที่นี่เท่านั้น

ข้อดี : สามารถหาแร่ได้หลากหลายและรวดเร็วมากขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบทัศนียภาพที่ไม่เป็นพื้นราบอย่างเดียวในการสร้างบ้าน
ข้อเสีย : แม่น้ำนั่นจริงๆก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดียกเว้นดักปู พื้นที่ใช้สอยก็ถูกตัดแบ่งเช่นเดียวกับแบบเกาะกลางน้ำ

แบบคืนนี้มีลุ้น

แบบค่ำคืนหลอน คล้ายแบบป่าผสมฟาร์มดั้งเดิม สำหรับสายบู๊ ยามกลางคีนจะมีศัตรูและโกเล็มเฉพาะถิ่นที่เก่งขึ้นตามระดับการต่อสู้ของผู้เล่นมาเยือน

ข้อดี : มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าอีกสามแบบ มีศัตรูมาคอยแก้เหงายามดึก(?)โดยไม่ต้องลงไปเย้วๆในเหมืองให้เมื่อย
ข้อเสีย : คงไม่พ้นการโดนป่วนตอนดึกๆเวลากลับมาทำฟาร์มส่วนที่เหลือต่อนี่ล่ะ รู้นะว่าหลายคนชอบมาเผาค่า stamina ช่วงนี้ ‘_.’

หลักๆสำหรับคนที่เล่นมาก่อนแล้ว คงอยากลองแผนที่ใหม่ๆเพื่อท้าทายฝีมือตัวเองหรือเพื่อความสวยงามในการจัดฟาร์มมากกว่าจะเอาข้อใช้งานหลักของมันมาใช้จริงๆ
สำหรับผู้เล่นใหม่แล้ว คงเป็นตัวเลือกที่ร้ายกาจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เลือกยากเหมือนกับโปเกม่อ*เริ่มต้นสามชนิดขนาดนั้น ฮา ยังมีตัวเลือกพื้นฐานให้เอนจอยกับชีวิตชาวไร่ธรรมดาอยู่เช่นกัน แน่นอนว่านอกจากตัวแผนที่ฟาร์มจะเปลี่ยนไปแล้ว ภายในบ้านตอนเริ่มต้นก็จะมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในเปลีย่นตามไปด้วยนะเอ้อ

ตามความเห็นส่วนตัวของหมานิมแล้ว แผนที่ใหม่ทั้ง 4 แบบนี้ ที่ดูเร้าใจสุดน่าจะเป็นป่า อ๊ะ ไม่ใช่ว่าหมาชอบบรรยากาศแบบป่าๆหรอกนะ ไม่ใช่!!!
– แบบป่า มีต้นไม้และไม้แข็ง รวมถึงของป่าให้ ซึ่งเป็นของที่หาได้ง่าย แต่เสียเวลาหามากยามที่ต้องการ ส่วนต้นไม้ธรรมดาคงเป็นได้แค่ที่ปั่น level เพิ่มเติมเล็กน้อย ที่ดีไม่ดีจะช้ากว่าไล่ตัดให้สิ้นในฟาร์มปกติ เอาจริงมีดีที่ตอไม้กับความสวยแค่นั้นล่ะ!
– แบบน้ำ ดันตกได้แต่ปลาแบบในเมือง (เท่าที่ลอง) และรูปแบบเป็นเกาะกระจายไปทั่ว ทำให้การบริหารฟาร์มแย่เอาการ อะไรที่สร้างตามริมน้ำ มีสิทธิ์หล่นไปเป็นอาหารปลาได้ง่ายมาก เราเตือนคุณแล้วนะ ; w ;
– แบบภูเขา เป็นที่รู้กันว่าแร่ต้องวิ่งไปทั่วตามเหมือง แน่นอนว่าหินมันมีแค่นั้นจะไปพอได้เยี่ยงไร? ถ้ามีลุ้นหินแร่อิริเดี่ยมก็อาจจะพอน่าสนใจอยู่ แต่คิดว่าน่าจะไม่ต่างจาก Quarry มากนัก อาจจะต้องลุ้นกันอีกที
– แบบกลางคืน มีพื้นที่สวยต่างจากปกติก็จริง แต่นอกจากนั้นแล้วไม่มีอะไรเลย มอนรบกวนให้บรรยากาศทำฟาร์มแบบ RPG ดี แต่ถ้าใครอยากเผา stamina หรือเล่นแบบฟาร์มมิ่งแล้วอาจจะลำบากใจอยู่บ้าง

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับผู้เล่นแต่ละท่านแล้วล่ะ ลองเสียเวลาซักนิดลองเข้าไปดูเองดีกว่าว่าแต่ละแบบถูกใจตัวเองหรือไม่ บ้างก็ชอบฟาร์ม บ้างก็ชอบตกปลา ต่างคนต่างความคิดผู้สร้างเกมจึงได้จัดแผนที่เหล่านี้ขึ้นมาล่ะนะ~

เริ่มเล่น Stardew Valley ยังไงดีมือใหม่ต้องอ่าน!

ไกด์นี้เป็นคู่มือแนะนำการเล่นในเบื้องต้นของเกม Stardew Valley ให้ผู้เล่นใหม่ได้รู้ถึงแนวทางการเล่นในเบื้องต้นนะครับซึ่งอาจจะไม่ต้องตามนี้เป๊ะๆ โดยหวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆเข้าใจระบบและตัวเกมมากขึ้นโดยจะบอกคร่าวๆถึงกิจกรรมที่ทำได้ในแต่ละเดือนซึ่งข้อมูลเชิงลึกในระบบต่างๆสามารถคลิกเพื่ออ่านเพิ่มได้ โดยตัวผมเองหวังว่าเพื่อนๆจะนำไปปรับใช้กับแนวทางการเล่นของตัวเองได้ สำหรับตัวเนื้อหาถ้ามีการผิดพลาดสามารถแจ้งผมมาเพื่อทำการแก้ไขได้ครับ

เดือนแรกเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นเกมโดยจะเน้นไปที่การเตรียมตัวและทำความรู้จักกับตัวเกมเสียส่วนใหญ่ โดยสิ่งต่างๆที่ควรทำในฤดูแรกและคำแนะนำต่างๆมีดังต่อไปนี้ครับ

การทำฟาร์ม : ในช่วงแรกเราควรจะเริ่มต้นจากการปลูก Parsnip ที่ได้มาฟรีก่อนเพราะใช้ส่งเควสได้และในวันแรกๆควรเก็บเงินซื้อเมล็ด Green Bean มาปลูกไว้นิดหน่อย เพื่อทำเควส และเราสามารถเก็บขายได้เรื่อยๆ สำหรับช่วงกลางๆของเดือนและท้ายๆ ผมแนะนำให้ปลูก Potato แทน parsnip เพราะจะได้กำไรที่มากกว่าและมีโอกาสที่จะเก็บทีเดียวได้ผลผลิต 2 ชิ้นด้วย

• การปลูกพิชในเกมนี้เราจะต้องทำการพรวนดินโดยใช้ Hoe ก่อนจากนั้นก็ค่อยโรยเมล็ดลงไป และใช้บัวรดน้ำซึ่งเติมน้ำได้จากบ่อน้ำข้างๆ โดยมีข้อยกเว้นคือพวกไม้ยืนต้นที่เราไม่ต้องรดน้ำเพียงแค่วางลงดินและรอมันโต(ควรไปปลูกไว้ไกลๆ เพราะไม่ต้องรดน้ำ)
• พืชส่วนใหญ่ในเกมจะอยู่ข้ามฤดูไม่ได้หากเปลี่ยนฤดูแล้วส่วนมากจะเฉาตายยกเว้นบางชนิด
• อย่าลืมคราฟหุ่นไล่กามาวางไว้มันจะช่วยป้องกันผลผลิตหายเพราะอีกามากินได้
• พยายามใส่ปุ๋ยให้กับพืชผลของเราเพราะมันจะช่วนให้มีโอกาสได้ผลผลิตคุณภาพดีขึ้น โดยใส่ไปในดินก่อนที่จะหว่านเมล็ด(ปุ๋ยจะอยู่ได้ทั้งฤดู)

การหาของป่า : วิธีนี้เป็นการหาเงินในช่วงเริ่มต้นที่ดีมาก ให้เราพยายามเดินสำรวจให้ทั่วๆ ทั้งบนภูเขาและที่อื่น ถ้ามีเวลาว่างหลังทำกิจกรรมต่างๆเสร็จเพราะการเก็บของขายไม่ใช้พลังงานแต่ใช้เวลาในการเดินหาครับ และในแต่ละที่จะมีของให้เราได้อาทิเช่นพวกดอกไม้หรือพืชป่า โดยเฉพาะ Spring Onion ที่ถึงแม้จะขายไม่ค่อยได้ราคาแต่ก็เป็นแหล่งพลังงานที่ดีมากๆในช่วงแรก เอาไว้กินตอนพลังงานจะหมดได้ดีมาก เพราะมันจะขึ้นเป็นจำนวนมาก (เก็บได้ที่แผนที่ด้านล่างของฟาร์ม แถวๆล่างขวา บางวันอาจจะขึ้นน้อย หรือไม่มี แต่บางวันก็จะขึ้นเยอะมาก)

การเก็บปะการังที่ทะเลขาย : การเก็บปะการังไปขายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งที่ค่อนข้างดีเลยครับ ถึงแม้ว่าบางวันจะมีบ้าง ไม่มีบ้าง โดยเฉพาะ ปะการังที่อยู่อีกฝากนึงของชายหาด โดยในตอนแรกเราจะข้ามไปไม่ได้ต้องซ่อมให้เรียบร้อยโดยการนำไม้ 300 ชิ้นไปซ่อมก่อน

การลงเหมือง : ในวันแรกๆผมไม่แนะนำให้รีบลงไปเท่าไหร่ เราควรจะใช้เวลาเครียร์อะไรในสวนให้เรียบร้อยก่อนพอเรียบร้อยแล้วค่อยไปลง เพราะการลงเหมืองเราต้องใช้พลังงานในการขุดและทุบหินด้วย ดังนั้นผมแนะนำให้เอาพลังงานไปใช้กับการรดน้ำปลูกผักก่อน แล้ววันที่ฝนตกหรือจัดการสิ่งต่างๆ ในฟาร์มเรียบร้อยแล้วค่อยลงไปหาของ ส่วนพวกของที่ดรอปจากมอนสเตอร์ส่วนมากจะราคาไม่ค่อยดีแต่จะนำไปคราฟต่อในอนาคตได้ ควรจะเก็บเอาไว้ก่อน(แนะนำให้ยัดใส่กล่องไว้ต่างหาก)

ของที่แนะนำให้ Craft ในช่วงแรก : ภายในเกมเราสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใช้เองได้ โดยของที่จะสร้างได้นั้นจะค่อยๆปลดล็อกมาตามเลเวล หรือได้รับสูตรมาจากชาวบ้านครับ ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นสิ่งที่จะช่ยวเราได้มากๆเลยคือกล่องเก็บของนั่นเอง และถ้าหากว่าเราคิดว่าฟาร์มเริ่มอยู่ตัวแล้วควรลงเหมืองไปชั้นลึกๆ และเริ่มหาแร่มาทำการ Craft สปริงเก้อ จะทำให้เราทำฟาร์มได้ง่ายขึ้นมากๆครับ โดยเฉพาะในหน้าร้อน หากไม่มีสปริงเก้อล่ะก็ งานของคุณจะหนักพอสมควรเลย

กล่อง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในเกมนี้ นอกจากใช้เก็บสิ่งต่างๆแล้ว เราสามารถวางไว้ที่ไหนก็ได้ อาทิเช่น หน้าบันไดเหมืองเพื่อเก็บเครื่องมือที่ไม่ใช้ หรือวางไว้ตรงจุดที่เราตกปลาบ่อยๆ เพื่อเก็บปลา ก็ได้

Community Center หากอยากทราบว่าคืออะไ่รในเชิงลึกอ่านได้ ที่นี่ ซึ่งคล่าวๆคือเป็นเควสใหญ่ของเกมที่เราจะได้หาของมาใส่ตามที่เกมกำหนดเพื่อรับรางวัลต่างๆ โดยเมื่อเราทำเควสครบแต่ละหมวด สิ่งก่อสร้างในเมืองที่เสียจะถูกซ่อมหรือพัฒนาทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์ได้

การตกปลา ในช่วงแรกประมาณวันที่ 2 จะมีจดหมายจากลุงนักตกปลาให้เราไปหาอย่าลืมไปเอาเบ็ดตกปลาฟรีที่ทะเลโดยเราจะได้เบ็ดตกปลาเก่าๆมาอันนึง โดยจะซื้ออันใหม่ที่ดีกว่าเก่าได้เมื่อเลเวลการตกปลามากขึ้น สำหรับวิธีการตกปลาก็ไม่ยากไม่ง่าย หลังจากโยนเบ็ดไปแล้วปลากินเหยื่อให้เราคลิกเม้าค้างและปล่อยให้เกจสีเขียวๆมันอยู่ตรงปลาพอดีจนกว่าจะจับได้ ในบางครั้งเราอาจจะได้สมบัติเป็นของแถมด้วย

เรื่องน่ารู้อื่นๆ อย่าลืมดูทีวีบ่อยๆเพื่อจำสูตรอาหาร ในบางวันจะมีช่องแนะนำการใช้ชีวิตหรือไม่ก็ช่องรายการทำอาหารให้เราเปิดดูผ่านๆ ไว้ตัวเราจะจำสูตรอาหารได้(เอาไว้ทำในอนาคต) ส่วนรายการแนะนำการใช้ชีวิตจะเป็นทริคการเล่นทั่วๆไปซึ่งมีประโยชน์มากๆ ที่สำคัญคือพยายามอย่าให้วันจบลงไปโดยเปล่าประโยชน์อาจจะหาของป่าขายหรือเคลียร์ฟาร์มถ้าหากพลังงานเหลือ

การทดลองของ Demetrius : เมื่อเลเวลการทำฟาร์มของเราเพิ่มขึ้่นถึงระดับนึง Demetrius จะมาขอใช้ถ้ำของเราในการทดลอง โดยให้เราเลือกระหว่างเห็ดกับผลไม้ ซึ่งอันนี้แล้วแต่เราโดยของที่เราเลือกจะขึ้นอยู่ในถ้ำให้เราเก็บเรื่อยๆ (แนะนำเห็ดเพราะว่าระยะยาวทำยาได้ครับ)

• สำหรับคนที่หาขวานของโรบินไม่เจอมันจะอยู่ในแมพทะเลสาบเดินลงมาจากฟาร์มของเราเยื้องขวาเกือบสุดของด้านล่าง(พอดีผมก็เรียกไม่ค่อยถูกลองหากันในแมพดูนะ)
• เกมนี้จะไม่ถูกเซฟจนกว่าเราจะนอนหมายความว่าถ้าเราเจออะไรไม่ถูกใจสามารถที่จะปิดเกมแล้วเปิดใหม่เพื่อเล่นวันเดิมใหม่ได้
• ดวงมีผลกับการเล่นเกมในระดับนึงเลยอาทิเช่นการหาของในเหมืองซึงหากดวงดีจะมีโอกาสได้ของดีมากขึ้นนั่งเอง เราสามารถเช็คดวงได้ที่ทีวีในรายการ Fortune Teller แต่ส่วนตัวแล้วผมว่าไม่ต้องซีเรียสกับมันมากหรอก

การเตรียมตัวไปฤดูถัดไป : ในหน้าร้อนเป็นช่วงที่เหมาะกับการเพาะปลูกมากดังนั้นอย่าลืมเก็บเงินไว้ซื้อเมล็ดพืชเอาไว้ด้วย และถ้าหากมีเวลาพอให้อัพเกรดบัวรดน้ำเอาไว้ในช่วงปลายๆเดือนเพื่อเตรียมรับมือกับเดือนถัดไปเพราะต้องใช้เยอะมากและจะช่วยทุ่นแรงให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ หากไม่อัพเกรดเอาไว้เลยล่ะก็ผมรับรองว่ามีหมดแรงแน่ๆ หรือไม่เราอาจจะเตรียมสร้างสปริงเก้อจำนวนมากๆเอาไว้ (ขั้นแรกก็พอ) รับรองว่าช่วยเพื่อนๆได้มากแน่นอนครับ

สรุปในช่วง Spring หากต้องการเงินเยอะๆ อาจเน้นไปที่การปลูกผักมากๆ เข้าไว้ แต่ต้องแลกมาด้วยการที่เราจะไม่ค่อยว่างไปทำอย่างอื่นเท่าไหร่ ส่วนตัวแล้วผมเชียร์ให้ไปทำอย่างอื่นบ้างเช่นตกปลาหรือหาของป่า เพื่อทำความคุ้นเคยกับเกม อีกอย่างคือควรปลูกผักแต่พอดี เพราะปลูกมากไปก็แรงเราก็ไม่พออยู่ดี(ถ้าจะพอต้องกินอาหารช่วย) ส่วนการตกปลาหากเรามีเลเวลตกปลาที่เยอะพอในเดือนที่ 2 จะมีปลาหายากที่ตกได้เฉพาะในฤดูนี้เยอะทีเดียว นอกจากขายได้ราคาดีแล้วยังนำไปทำเควส Community Center ได้ด้วย

*ข้อควรทราบของเกมเล็กๆน้อยๆโดยคุณ Poorin Pitakratananukool

1. Clay จะหาได้ง่ายที่สุดจากการใช้จอบขุดดินในเหมือง จะหาง่ายกว่าการขุดบนดินครับ
2. โดยปกติเเล้ว พืชเเทบทุกชนิดจะไม่อยู่ข้ามฤดู ควรวางเเผนให้ดีก่อนที่จะปลูกอะไร ( มีข้อยกเว้นบางพันธุ์ เช่น ข้าวโพด ที่ปลูก Summer อยู่ถึงสิ้น Fall )
3. ถ้าไม่ชอบลงดัน หรือทำฟาร์มในช่วงเเรกๆ สามารถไปหาของป่ามากิน เเละไปตกปลา หวังเจอหีบสมบัติได้ เเต่โอกาสค่อนข้างต่ำ ( เสี่ยงดวงเอา )
4. เเนะนำอย่างยิ่งให้ซ่อมสะพานใกล้ๆ ทะเล ที่ใช้ 300 ไม้ เพราะเราจะข้ามไปเก็บของทะเลที่สุ่มอยู่ตรงพื้นทรายได้ทุกวัน เเละพวกนี้ขายได้ราคาดีพอสมควร ( Coral อย่างต่ำชิ้นละ 100 )

Summer ฤดูร้อนแห่งความคึกคัก

โดยส่วนตัวแล้วผมว่าฤดูนี้เป็นฤดูที่งานยุ่งที่สุด และการหาเงินในหน้านี้ค่อนข้างง่ายมากทั้งของป่าและพืชผลที่ปลูกได้โดยเฉพาะพืชที่เก็บเกี่ยวได้หลายครั้งเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่เราจะได้พบกับความสนุกของเกมอย่างแท้จริงเลยล่ะครับสำหรับแนวทางต่างๆในฤดูนี้มีดังนี้

การทำฟาร์ม : ในฤดูนี้ส่วนใหญ่แล้วพิชผลจะสามารถเก็บผลผลิตได้หลายครั้งโดยผมขอแนะนำให้เน้นไปที่การปลูกข้าวโพดเป็นพิเศษเพราะมันสามารถอยู่ได้ถึง 2 ฤดูถึงแม้ว่าราคาขายจะไม่ดีนักแต่เก็บขายได้เรื่อยๆ โดยพืชผลอื่นๆเราอาจจะปลูกไว้ประปรายเพื่อทำเควส สิ่งที่แนะนำให้ปลูกอีกอย่างคือ Hop ที่เมื่อโตแล้วจะขึ้นไวมากๆ โดยเราสามารถเอาไปทำ Pale Ale ขายได้ในอนาคต หรือ Blueberry ที่มีราคาขายค่อนข้างดีแต่ต้องใช้เวลาปลูกนานสักหน่อย โดยในช่วงแรกที่เรายังไม่มีถังหมัก(Keg)เราอาจจะเก็บมันเอาไว้ในคลังก่อนไม่ต้องรีบแล้วพอมีถังแล้วค่อยเอาไปหมักทีหลัง ซึ่งสุดท้ายแล้วแต่เราจะเลือกว่าจะทำอย่างไรครับเพราะตัวเลือกในหน้านี้เยอะมากจริงๆ

ถึงแม้ว่าสปริงเก้อระดับต่ำจะมีระยะไม่กว้าง แต่เราก็สามารถสร้างจำนวนมากๆได้

๐เราสามารถทำการแปรรูปสิ่งของได้โดยการถือไว้และกดโยนลงเครื่องรายละเอียดการแปรรูปสิ่งต่างๆอ่านได้ ที่นี่ [stardewvalleywiki.com]
๐Hop สามารถใช้ทำเควส และนำไปปมักทำเป็นเบียร์ได้ (ขายได้ราคาดีมาก) ควรเก็บเอาไว้หมักในอนาคต

การทำความสนิทสนมกับชาวเมือง: ในฤดูนี้การทำความรู้จักและเพิ่มความสนิทสนมกับคนอื่นทำได้ง่ายมากเพราะพืชผลเราจะเยอะจนเรียกได้ว่าล้นเลย เราสามารถที่จะเอาไปเดินแจกคนในเมืองได้ โดยเฉพาะช่วงดึกๆจะมีพวกลุงๆมารวมตัวกันอยู่ที่บาร์ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะโอเคกับพืชผลที่เราปลูก

การตกปลา : ในฤดูนี้มีปลาหายากเยอะมากถ้ามีเวลาควรรีบไปจับครับโดยเฉพาะปลาที่เราสามารถส่งเควส Comunity Center ได้มีหลายตัวเลย ให้เราหาเงินไปซื้อเบ็ดใหม่จะช่วยให้เราตกปลาได้ง่ายขึ้นมากส่วนเหยื่อถ้าขี้เกียจคราฟซื้อเอาก็ได้ไม่แพงหรอกครับ สำหรับสายตกปลาในหน้านี้ก็ทำเงินได้เยอะมากเช่นกัน เนื่องจากมีปลาพิเศษที่ขายได้ราคาดีเยอะ โดยเฉพาะในทะเลมีปลาที่ได้ราคาดีหลายตัวเลยล่ะ

การเข้าเหมือง : อันนี้ผมแนะนำให้เข้าไปตอนว่างๆ ไม่ต้องรีบมากไต่ไปทีละ 5 ชั้น 10 ชั้นมันจะมีลิฟท์แล้ววันต่อๆมาค่อยต่อ แต่ถ้าหากคิดว่าจะลงยาวๆ ควรพกของกินมาเพิ่ม Energy ด้วยเดี๋ยวไม่งั้นแรงจะหมดโดยของที่ง่ายๆก็อาจจะเป็นพวกพืชผักที่เราปลูกเอาไว้นั่นแหล่ะโดยส่วนตัวแล้วผมว่าเน้นไปที่หาแร่หาของดีกว่ายังไม่ต้องรีบไปชั้นลึกมากครับ

Note :

• หากเราตายของจะหายและจำนวนชั้นที่ลงโดยใช้ลิฟท์ได้จะลดลงต้องลงใหม่บางส่วน
• เพื่อนๆสามารถดูได้ว่าชั้นต่างๆมีอะไรบ้าง ที่นี่ [stardewvalleywiki.com]

เกี่ยวกับ Artifacts : ไอเทมบางชิ้นในเหมืองที่เราได้มาจะแจ้งว่าต้องนำไปบริจาคก่อนถึงจะทราบว่าทำอะไรได้ พยายามเอามันไปส่งให้ห้องสมุดแล้วเราจะทราบว่ามันทำอะไรได้ในชิ้นต่อๆไป โดยเราจะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทนด้วย

ของป่า :ในฤดูนี้เองก็มีของป่าที่เยอะมากเช่นกัน โดยจะมีพวก องุ่น หรือ เห็ด ด้วย(บางอันต้องเขย่าต้นไม้นิด) สังเกตุได้จากมีสีเป็นจุดๆที่พุ่มไม้ซึ่งพวกนี้เป็นแหล่งรายได้ที่ดีมาก

การเลี้ยงสัตว์ : ถ้าเราคิดว่าเริ่มว่างแล้วจะทำการต่อเติมและสร้างโรงเลี้ยงสัตว์เลยก็ได้แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมว่าไม่ต้องรีบดีกว่า และรอไปเลี้ยงสัตว์ในฤดูถัดไปเพราะในหน้านี้ผมมองว่าแค่การปลูกผักและหาแร่ก็เหนื่อยมากแล้ว

สิ่งของที่ควรคราฟ : เชื่อว่าในหน้านี้ส่วนใหญ่เพื่อนๆน่าจะคราฟ Sprinkler กันได้แล้วโดยเจ้านี่มันจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการรดน้ำไปได้เยอะเลยทีเดียวโดยสปริงเกิ้ลในขั้นแรกอาจจะรดน้ำได้ไม่กว้างเท่าไหร่ เราอาจจะแก้ปัญหาได้โดยการสร้างจำนวนมากๆเอา โดยรายละเอียดของสปริงเก้อแต่ละชนิดสามารถดูได้ ที่นี่ [stardewvalleywiki.com] (เพื่อนๆสามารถดูตัวอย่างการวางได้ที่การทำฟาร์มในด้านบน)

ของที่แนะนำให้ คราฟ (ต่อ) : เมื่อเล่นไปสักพักแล้วผมแนะนำให้รีบคราฟ Bee house ไว้เก็บน้ำผึ้งและ Tapper เอาไว้เก็บผลผลิตจากต้นไม้ต่างๆโดย Bee house หากเรานำไปวางไว้ใกล้ๆดอกไม้ที่ปลูก น้ำผึ้งที่ผลิตจะขายได้ราคาดีขึ้น ส่วน Tapper เราสามารถเอาไปติดต้นไม้ได้โดยต้นไม้ในเกมจะมี 3 ประเภทให้ลองสังเกตุดูจะได้ของต่างกัน แนะนำให้ติดเอาไว้สักชนิดละ 1-2 อัน โดยผลผลิตที่ได้มาจะขายหรือเก็บเอาไว้ก็ได้ ใช้คราฟได้หลายอย่างโดยเฉพาะ Beehouse แนะนำให้สร้างเอาไว้เยอะๆจะช่วยเรื่องเงินเราในเดือนต่อๆไปได้เยอะมาก

ภาพระยะของการทำงานของ Bee House จาก Stardew wiki

การเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป :
1.หากมีเงินเหลือในฤดูนี้ผมแนะนำให้ซื้อพวกต้นไม้ยืนต้นที่โตในฤดูใบไม้ร่วง มาปลูกโดยต้นไม้พวกนี้จะใช้เวลาโตค่อนข้างนานโดยในฤดูใบไม้ร่วงจะมีต้นที่ให้ผลคือ Pomegranate Sapling และ Apple Sapling โดยเจ้าพวกนี้ต้องใช้เวลาโตถึง 28 วัน

2.หากเราอยากที่จะปลีกตัวไปทำอย่างอื่นนอกจากการปลูกผักบ้างแนะนำให้สร้างพวก Sprinkler เอาไว้จะช่วยในการดูแลฟาร์มของเราได้เป็นอย่างดีและมีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิต

เรื่องทั่วๆไป
ในช่วงต้นเดือนหินที่บนภูเขาจะพังแล้วเราจะสามารถเข้าไปยังบ่อน้ำร้อนได้ โดยการเข้าไปจะช่วยฟิ้นฟูพลังงาน(แต่ผมไม่แนะนำเท่าไหร่เพราะมันนาน เสียเวลา หาของกินง่ายกว่า แต่เป็นวิธีที่ประหยัดดีแล้วแต่คนครับ)

สรุป Summer เป็นฤดูที่การหาเงินง่ายมากเพราะมีกิจกรรมที่ทำได้เยอะ ซึ่งหลายๆคนอาจจะโฟกัสไปที่การเพาะปลูกมากไปจนลืมทำอย่างอื่นภายในเกม โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ทำอย่างอื่นด้วยอย่างการจีบสาว/หนุ่ม หรือทำเควสในเมืองเป็นต้น และหามีเวลาว่างควรทีจะทำเควสปลดล็อก Community Center ด้วยสำหรับคนขี้เกียจอาจจะสมัครสมาชิกของ jojamart ก็ได้

Fall ฤดูใบไม้ร่วงแห่งการโปรยปราย

การทำฟาร์ม : ผลผลิตที่ผมแนะนำให้ปลูกในหน้านี้จะเป็น Cranberry เพราะขายได้ราคาดีมากๆ และเอาไปหมักทำไวน์ได้ด้วย(แต่ขายไปเลยคุ้มกว่านะ) แต่พวกฟักทองและอย่างอื่นก็ควรปลูกเอาไว้บ้างตามแต่กำลังเราจะไหวครับ โดยเฉพาะฟักทองสามารถนำมาทำเควสได้ด้วย (จะมีเควสช่วงกลางๆเดือน)

การเก็บของป่า : ของป่าในฤดูนี้จะมีหลายอย่างโดยเฉพาะ Blackberry ผมแนะนำให้เก็บให้คนในเมืองหรือกินเอง เพราะหาง่ายมากแต่ขายได้ราคาถูกสุดๆ ส่วนอย่างอื่นจำพวก Hazelnut , Wild Plum และเห็ดอื่นๆ แนะนำว่าขายได้เลยราคาค่อนข้างดีอยู่แล้ว

การตกปลา : เช่นเดียวกับฤดูร้อนในหน้านี้มีปลาเฉพาะที่หาได้เฉพาะฤดูนี้อยู่ด้วยหากมีเวลาว่างควรหาเวลาไปตกปลาเพื่อส่งเควส Community Center และหากมีเวลาอาจจะสร้าง Crab Pot เอาไว้ดักปลาอีกแรงก็เป็นรายได้เสริมที่ไม่เลวเลย

การเลี้ยงสัตว์ :ในฤดูนี้ผมมองว่าเหมาะแก่การเริ่มเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก (แต่เราควรมีกระเป๋าใหญ่ก่อนนะเพราะของที่ต้องเก็บจะเยอะขึ้น) เราควรสร้างเครื่องแปรรูปต่างๆเตรียมไว้อาทิเช่นเครื่องทำมายองเนสหรือเครื่องทำชีส เพื่อเตรียมตัวกับหน้าหนาวเพราะเราจะปลูกพืชแทบไม่ได้เลย และจะให้ดีควรล้อมรั้วเอาไว้ด้านนอกให้สัตว์ออกมาเดินเล่นและปลูกหญ้าไว้ให้มัน โดยหัวใจของสัตว์จะเพิ่มเร็วกว่าอยู่ในคอกเฉยๆ

• หัวใจที่มากจะมีโอกาสให้ได้รับผลผลิตที่ดีขึ้น
• เวลาเราเปิดประตูคอกไว้สัตว์จะออกมาเดินเล่น เราสามารถปลูกหญ้าให้มันกินได้โดยใช้ Glass Starter
• รั้วสามารถพังได้คอยตรวจดูเสมอๆ ถ้าพังเราต้องสร้างใหม่
• อย่าลืมสร้างประตูเข้าไปมรรั้วด้วยล่ะ (Gate)
• เวลาฝนตกสัตว์จะกลับเข้าไปในคอกเอง
• ไม่ควรลืมปิดเล้าไก่ เพราะไก่เป็นสัตว์ที่ขี้กลัวมากๆ บางวันอาจจะมีอะไรมาทำให้พวกมันกลัวและไม่ออกไข่จากการที่เราลืมปิดคอก

ฤดูนี้ไม่มีอะไรมากให้เราเก็บเลเวลและเตรียมตัวสำหรับหน้าหนาวโดยการเข้าเหมืองไปหาของจะจำเป็นมากเพราะหน้าหนาวจะปลูกผักไม่ได้เว้นแต่เราจะปลดล็อก Green House เรียบร้อยแล้ว ดังนันควรเตรียมรับมือเอาไว้ก่อน อย่าลืมเอาเวลาไปเข้าเหมือง,จีบสาว,จีบหนุ่ม และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งหากเพื่อนๆทำตามคำแนะนำทั้งหมดที่กล่าวมาเชื่อว่าจะมีเวลาพอไปทำอย่างอื่นแน่นอนครับ เพราะการอัพเกรดอุปกรณ์จะทำให้เวลาในการรดน้ำและดูแลพืชของเราไวขึ้นมากๆ

• ในเดือนนี้ Linus จะมาขอให้เราช่วยหาตะกร้าซึ่งเราสามารถหาให้เขาได้ในแมพทางซ้ายของป้ายรถเมล์ซึ่งมันจะเดินทะลุออกมาได้

หน้าหนาว ฤดูแห่งการนิทรา

ในหน้าหนาวนี้สิ่งที่เราทำได้จะลดลงไปหน่อยคือเราจะปลูกผักไม่ได้นั่นเองแต่ก็ใช่ว่าเราจะว่างเพราะยังมีงานต้องทำอีก โดยสิ่งที่ผมแนะนำในหน้านี้คือการตกปลาและเข้าเหมือง ซึ่งรายละเอียดของแต่ละอย่างลองอ่านไล่ดูเป็นข้อๆนะครับ

การหาของป่า : ของบางอย่างมันจะแอบอยู่ใต้ดิน อาทิเช่น Snow Yam หรือ Winter Root เราสามารถได้มาจากการขุดดินตามที่ต่างๆนอกฟาร์มซึ่งมันขายได้ราคาดีมากเลยล่ะครับ

การตกปลา : ในฤดูนี้เป็นฤดูที่หลายๆคนเริ่มที่จะตกปลากันอย่างจริงจังเพราะว่าไม่รู้จะทำอะไร หรืออย่างไรก็ตามแต่ ซึ่งนอกจากการตกปลาแบบปกติแล้ว การใช้ Crab pot มาวางดักปลาอีกแรงก็เป็นวิธีที่ไม่เลวเลยล่ะครับ สำหรับเคล็ดลับเล็กๆในการเหยื่อและเก็บให้ไวคือเอาอาหารปลาไว้บนมือก่อนแล้วกดที่ Crab Pot ตัวเราจะเก็บของที่ดักได้และวางอาหารปลาลงไปเลยทันที

การลงเหมือง ในฤดูนี้เราควรจะไปให้ถึงเหมืองชั้น 100 เพื่อเอา Stardrop โดยมันจะทำให้พลังงานเรามากขึ้นและเป็นโอกาสดีที่เราจะหาแร่มาผลิตของใช้ต่างๆ โดยวิธีการหา Stardrop ทั้งหมด

หาเงินจากของแปรรูป : การแปรรูปของในช่วงหน้าหนาวเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยครับเราอาจจะเอาพวกผักผลไม้ที่เก็บไว้ในช่วงฤดูอื่นมาทำการหมักในหน้านี้ รับรองว่าเป็นอีกทางนึงที่จะได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลย

การปลูกพืช : จริงอยู่ครับว่าผมบอกไปว่า ในฤดูนี้ปลูกพืชไม่ได้ แต่มันก็มีกรณียกเว้นอยู่นั่นก็คือการปลูกโดยใช้ Winter Seed ซึ่งเราจะสุ่มได้พวกของป่าในฤดูหนาวนั่นเองครับ โดยวิธีการได้รับหลักๆแล้วจะมีอยู่ 2 อย่างคือ

1. ได้รับมาจากการเครียร์บัลเดิล
2. นำเอา Winter Root ไ ปใส่ใน เครื่อง Seed Maker ครับ ทีนี้เราก็จะสามารถปลูกพืชในฤดูหนาวได้แล้ว!! อ้อ แล้วก็ข้อดีการปลูกพืชโดยใช้ เมล็ดตามฤดูกาลคือ เมื่อเก็บผลผลิตแล้ว เราจะได้เลเวลของการเดินป่าด้วย

หากมีเงินเหลือล่ะก็เราสามารถที่จะเอาไม้ยืนต้นของฤดูต่างๆ มาปลูกรอไว้ได้เลยเพราะพวกมันโตได้แม้ว่าอากาศจะหนาว โดยในช่วงนี้เพื่อนๆควรจะคิดถึงเรื่องเตรียมตัวแต่งงานไว้ได้แล้วหากใครยังไม่ได้เริ่มจีบสาว/หนุ่ม สามารถดูข้อมูลสาวๆได้ว่าชอบอะไรได้ ที่นี่ [stardewvalleywiki.com]

สรุป – หน้าหนาวส่วนใหญ่กิจกรรมของเราเน้นไปทางการตกปลากับเข้าเหมือง และเวลาอื่นๆนอกจากนั้นจะเตรียมตัวเพื่อไปยังเดือนถัดไป ครับ

สิ่งที่ควรทำในปีที่ 2

ในส่วนนี้ผมจะขอพูดแบบรวบๆ ไปเลยเนื่องมาจากว่าส่วนใหญ่นั้นไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก โดยส่วนมากจะเป็นการปรับปรุงฟาร์มและเก็บสิ่งที่ขาดไปในเกม

1.การหาเงิน : เราสามารถหาเงินได้หลากหลายวิธี โดยวิธีการหมักผักและผลไม้โดยใช้ Keg ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ๋งมากๆ โดยเฉพาะผล Star Fruit ที่เราสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าในทะเลทราย นั้นให้ราคาดีสุดๆไปเลย ยิ่งเอาไปหมักด้วยแล้ว รวยเละแน่นอนครับ นอกเหนือจากการปลูกผักแล้ว พวกสัตว์เองเมื่อเลี้ยงไปนานขึ้น ก็จะให้ผลผลิตที่คุณภาพดีขึ้นตามไปด้วย นั่นหมายความว่าเราจะได้กำไรจากพวกมันมากขึ้นนั่นเอง

2.ความสัมพันธ์กับชาวเมือง : อันนี้ผมแนะนำว่าเราควรเริ่มตีสนิธกับชาวเมืองได้แล้ว เพราะเราจะได้รับของพิเศษต่างๆอย่างเช่น สูตรอาหาร หรือไอเทมแปลกๆ ที่หาจากไหนไม่ได้ ส่วนการแต่งงานนั้นแล้วแต่ว่าเราจะรีบไหม เพราะเกมนี้ไม่มีการโดนคนอื่นคาบไปกินแน่นอนครับ ค่อยๆตัดสินใจกันได้เลย

3.การซ่อมแซมบันเดิ้ล : ในปีที่ 2 นี้หากเราวางแผนดีๆล่ะก็ รับรองว่าสามารถเก็บ Bundle ได้ครบแน่นอนครับ หากยังเก็บไม่ครบล่ะก็ผมแนะนำให้ค่อยๆลองไล่ดูว่าเราขาดอะไรไปบ้าง

4.การลงเหมือง : เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนคงผ่านเหมืองแรกกันเรียบร้อยแล้ว หากต้องการไปยังเหมืองที่ 2 ล่ะก็ต้องทำบันเดิ้ลในห้องที่มีตู้เซฟให้เรียบร้อยก่อนโดยการจ่ายเงินให้ครบครับ โดยการไปนั้นควรเตรียมตัวให้ดีๆ เพราะมอนสเตอร์ในเหมืองโหดมากๆ แต่ก็ให้ของตอบแทนที่คุ้มค่า อย่างแร่ Iridium Ore ครับ (เหมืองที่ 2 จะไม่มีสิ้นสุดสามารถลงได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีลิฟท์ให้เราใช้เช่นกัน)

5.การเตรียมตัวรับการประเมินจากคุณปู่ : ในปีที่ 3 เราจะต้องเจอกับการประเมินของคุณปู่ โดยคะแนนจะคิดจาการกระทำต่างๆ ของเรานั่นเอง

สำหรับในบทความนี้จะเป็นการเล่นในเบื้องต้นนะครับซึ่งในระดับที่สูงขึ้นไปจะเอาไว้อยู่ในส่วนถัดๆไปเพื่อไม่ให้ผู้เล่นใหม่งง

วิธีการหาผล Stardrop

1.สามารถซื้อได้โดยใช้ตั๋ว 2000ใบในงานเทศกาล Stardew Valley Fair โดยจะได้ตั๋วมาจากการเล่นมินิเกมต่างๆหรือซื้อเอาที่เคาท์เตอร์

2.ดันเจี้ยนชั้นที่ 100ในเหมือง

3.ภรรยา/สามีจะให้เราเมื่อมีีหัวใจ 13/12 ดวงเพื่อเป็นการขอบคุณ

4.Krobus จะขายให้เราในราคา 20000g โดยเขาจะอยู่ในท่อ การเข้าไปพบเขาได้ที่ท่อน้ำซึ่งเราจะต้องบริจาค Artifact ให้พิพิธภัณท์ 60 ชิ้นแล้วจะได้กุญแจมา

5.ปลูก Rare Seed เพื่อเอา Sweet Gem Berry ไปใส่ปากของรูปปั้นที่ Secret Wood (ต้องใช้ ขวานเงินขึ้นไปทุบหินที่ขวางอยู่ทางด้านซ้านบนของบ้านพ่อมด)

6.ในจดหมายที่ Willy ส่งให้เมื่อเราตกปลาครบทุกชนิด

7.รางวัลจากการเก็บสะสมของให้ พิพิธภัณท์ ครบทุกชนิด

การวางแผนทำเควสใน Community Center (Pelican Town)

เมื่อเราเข้าไปในเมืองในช่วงการเล่นเกมแรกๆจะเจอเหตุการณ์ที่ ท่านนายกแนะนำเจ้าอาคารหลังนี้ว่ามันถูกทิ้งร้างมานานแล้วแต่มีอะไรมาดลใจให้ยังไม่ขายให้ Joja Cop. ที่ติดต่อมาขอซื้อเป็นโกดัง หลังจางกที่จบเหตุการณ์ให้เราเดินไปสำรวจป้ายทองๆ แต่เราจะอ่านไม่ออก หลังจากจบวันที่เจอเหตุการณ์วันต่อมาจะได้รับจดหมายจากจอมเวทย์ให้ไปหาโดยเมื่อเราไปหาจะได้กินยาที่ทำให้เข้าใจข้อความบนป้าย ซึ่งมันจะให้เราหาของ

มาใส่ตามที่มันต้องการในแต่ละแผ่น โดยเจ้าป้ายนี่มีหลายอันและจะค่อยๆปลดล็อกเรื่อยๆ โดยเหตุการณ์นี้จะเกิดเมื่อเราเข้าไปที่ Joja Mart แล้วปฎิเสธข้อเสนอการสมัครสมาชิก (อันนี้ยังไม่มีการยืนยันนะ)

ก่อนอื่นผมขอชี้แจงเพื่อนๆก่อนนะครับว่าไกด์นี้จะเป็นแนวทางในการวางแผนหาของ ส่วนรายละเอียดของต่างๆเนี่ยดูได้จาก [link] เอาได้เลย โดยในปีแรกห้องที่เราสามารถเครียห์ได้เลยแบบสบายๆจะมี Crafts Room และ Boiler Room ซึ่งสามารถจบได้ในหน้าหนาวปีแรกเลย ส่วนห้องอื่นๆหากมีเวลาควรทยอยมาส่งของเรื่อยๆ โดยเราสามารถตรวจได้เสมอว่าห้องไหนมีอะไรบ้างในหน้าเมนู

รางวัลที่ได้ – Bride Repair ทำให้เราเข้าไปยังเหมืองหินได้
แนวทางในการหาของ : สำหรับป้ายนี้เราสามารรถทำให้ครบได้เลยในปีแรกโดยควรจะเริ่มทำตั้งแต่ตอนเดือนแรกเลย โดยของในป้ายทุกอย่างเราสามารถเก็บเอาได้ทั้งสิ้นขอเพียงให้เดินหาดีๆ ซึ่งในแต่ละกล่องจะเป็นของในแต่ละฤดูส่วนของที่หายากและมีปัญหากันจะเป็นหน้าหนาว คือ Winter Root กับ Snow Yam อันนี้เราจะต้องขุดดินที่นอกฟาร์มโดยโอกาสได้จะเป็นแบบสุ่มแต่ก็หาไม่ยาเท่าไหร่นะ แค่ส่วนมากจะไม่รู้ว่าต้องขุดดินถึงจะเจอ และกล่อง Construction จะมี Hardwood เราจะหาได้จากการสับไม้อันใหญ่ซึ่งต้องอัพขวานก่อนถึงจะสับได้

รางวัลที่ได้ :Green House ทำให้ปลูกผักในเรือนกระจกได้ทุกฤดู
แนวทางการหาของ : ป้ายนี้การจะเก็บให้ครบต้องใช้เวลาหน่อยโดยจะทำให้ครบในปีแรกเลยก็ได้แต่ส่วนตัวผมว่าไม่ต้องรีบใช้เวลาปีนิดๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่แล้วเป็นของที่หาได้ในฤดูต่างๆ
ซึ่งใช้วิธีการปลูกเอา แต่จะมีที่ยากคือ Quality Crops Bundle ที่เราต้องปลูกพืชที่กำหนดให้ได้ระดับดาวครับ ซึ่งเราอาจจะต้องใช้ปุ๋ยเข้าช่วยเพื่อให้ได้ระดับดาวที่ต้องการ ซึ่งปีแรกยังไม่ต้องเร่งทำก็ได้เพราะต้นมันแพงไปทำเอาทีเดียวปีที่ 2
และจุดยากอีกอย่างคือ Artisan Bundle ที่ต้องหาของแปรรูปมาใส่และพวกผลไม้ยืนต้นที่การใช้เวลาปลูกค่อนข้างนานซึ่งผมแนะนำว่าควรเริ่มปลูกตั้งแต่ช่วงหน้าหนาวของปีแรก และปีที่สองก็จะได้เก็บพอดี แต่ Pomegranate กับ Apple อาจจะปลูกตั้งแต่ปีแรกเลยก็ได้ เพราะเราน่าจะมีเงินพอซื้อต้นมันแล้ว

รางวัลที่ได้ : Glittering Boulder Removed
แนวทางการหาของ : สำหรับป้ายนี้ไม่ยากครับแต่ต้องวางแผนดีๆหน่อย เพราะถ้าอยากได้ไวเราต้องเก็บเลวลการตกปลาไว้และรีบเปลี่ยนเบ็ดเพื่อที่จะตกให้ครบโดยเราจะโชคดีที่ใน Spring นั้นไม่มี่ปลาพิเศษเฉพาะเจาะจงที่ตกได้ในหน้านี้อย่างเดียว (ส่วนมากตกในหน้าอื่นได้ด้วย)ทำให้เราเตรียมตัวโดยการเก็บเลเวลและเงินไปซื้ออุปกรณ์ตกปลาก่อนได้แต่จริงๆไม่ต้องรีบมากก็ได้ครับเพราะในกล่องสุดท้ายมีปลาที่เราต้องไปที่ทะเลทรายเพื่อตกด้วยดังนั้นยังไงไวสุดก็ราวๆปรายปีแหล่ะครับ หรืออาจจะปีที่สองช่วงแรกๆถ้าไวหน่อย

รางวัลที่ได้ : สามารถใช้รถรางเพื่อไปในบางที่ได้ทันที โดยที่ๆสามารถไปได้คือ ป้ายรถเมล์,เหมือง,เหมืองหิน(ด้านนอก แต่ต้องซ่อมสะพานก่อน) และในเมือง แถวๆบ้านช่างเหล็ก
แนวทางการหาของ : อันนี้เป็นกล่องที่ผมว่าทำได้ค่อนข้างง่ายซึ่งคนที่เข้าเหมืองบ่อยๆจะทำได้ค่อนข้างเร็วเพราะทุกอย่างดร็อบและหาได้จากเหมืองตรงๆได้เลยของบางอย่างอาจอยู่ชั้่นลึกหน่อยแต่ไม่ต้องรีบไปครับ ถ้าทำสำเร็จจะลดเวลากลับบ้านเราได้พอควรเลยครับเพราะนั่งรถไปลงป้ายรถเมล์แล้วเดินกลับบ้านหรือกดที่ป้ายไปเหมืองเลยก็ได้

รางวัลที่ได้ : ค่ามิตรภาพ
แนวทางการหาของ :โดยส่วนตัวแล้วผมว่าอันนี้ทำยากที่สุด เพราะของค่อนข้างกระจัดกระจายในการหา โดยพวกอาหารต่างๆบางอันเราต้องดูรายการทีวีเอาจึงจะจำได้แต่ไม่ตอ้งกลัวไปว่าจะข้ามเพราะมันฉายซ้ำบ่อยมากกส่วนพืชผลบางอย่างเราต้องรอให้ถึงปีที่สองอย่าง Red Cabbage ที่ปีที่ 2 จะมีขายในร้านค้า

รางวัลที่ได้รับ :ซ่อมรถบัส
แนวทางการหาของ :อันนี้ไม่มีอะไรครับเงินอย่างเดียว

ยังมีอีกวิธีนึงหากเพื่อนๆขี้เกียจไล่มาหาของ เราสามารถทำการสมัครสมาชิกกับ Joja Mart ได้โดยอาคารกลางเมืองของเราจะกลายเป็นที่เก็บสินค้าแทนและเราสามารถจ่ายเงินเพื่ออัพเกรดแทนการหาของได้ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องแต่อย่างใดครับ โดยข้อมูลอย่างละเอียดสามารถอ่านได้

เลือกทางไหนดีระหว่าง Community กับ Joja?

ระหว่างเลือกเล่นทาง Community Center (หลังจากนี้จะเรียกย่อว่า CC นะจ๊ะ) กับเป็นสมาชิกของ Joja mart จะเอาอะไรดี? หมาเชื่อว่าหลายคนคงเคยคิดไม่ตก ปวดเศียรเวียนเกล้ากันมาแล้วกับตัวเลือกนี้

วันนี้ก็เลยจะมาอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของทางเลือกทั้งสองแบบให้ฟัง ทั้งนี้จะไม่ขอกล่าวเจาะลึกในแง่ของรายละเอียดยิบๆแบบที่เคย เพื่อให้เป็นอรรถรสในการเล่นของผู้เล่น โดยเฉพาะตอนที่ทำฝั่งใดฝั่งหนึ่งสำเร็จ ไม่ต้องถามหา ไม่มีสปอลย์ให้นะจ๊ะ แต่ถ้าชอบเก็บสะสม Archievement ก็ขอแนะนำให้เล่น 2 save และเล่นคนละสายจ๊ะ

*คำเตือน : เนื่องจากผู้พัฒนาเกมไม่ได้ป้องกันเอาไว้ ดังนั้นถ้าเลือกสาย Community Center แล้ว ไม่ควรไปเป็นสมาชิกของ Joja mart น่อเพื่อป้องกัน bug ที่อาจจะเกิดขึ้นได้*

อาคาร CC ร้างที่รอการบูรณะ

– มีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องมากกว่า เรียกว่าเป็นทางเลือกหลักของผู้เล่นที่ผู้พัฒนาเกมตั้งใจให้ผู้เล่นเลือกเลยทีเดียว
– ผู้เล่นจะได้เรียนรู้จักกับตัวเกมไปพร้อมกับการฟื้นฟูสภาพของ CC นี้
– ประหยัดเงินที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมสิ่งต่างๆมากกว่าสาย Joja
– มีของรางวัลเล็กๆน้อยๆตอบแทนหลังจากที่ทำ bundle ต่างๆแล้ว

– การแก้ไข bundle ต่างๆต้องใช้เวลามาก ของบางอย่างบังคับปีที่สองก็มี
– ต้องใช้ของหลากหลายชนิดมาก ผู้เล่นใหม่อาจจะมีปัญหาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรหาที่ไหนได้ง่าย
– ตำแหน่งของชาวเมืองในแต่ละวันจะเปลี่ยนไปบ้างเมื่อ CC ทำการบูรณะเสร็จสิ้น
– Joja mart จะปิดตัวลงและร้านของปิแอร์จะขายทุกวันแทนในเวลาเดิม (Joja mart เปิดถึง 5 ทุ่มจ๊ะ ดังนั้นพอจะเรียกเป็นข้อเสียได้)

ถ้ามาทางสาย Joja นั้น CC ร้างก็จะเปลี่ยนเป็นโกดังเก็บของแทน

– ใช้แค่เงินเท่านั้นในการซ่อมแซมสิ่งต่างๆในเมือง มีอิสระมากกว่าในการทำเล่นโดยไม่ถูกบังคับจากของต่างๆที่ต้องใช้ทำ bundle
– ตำแหน่งของชาวเมืองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังซ่อมทุกอย่างเสร็จ
– ไม่มีผลกระทบใดๆต่อตัวเกมหลังซ่อมเสร็จ ผู้เล่นจะสามารถยึดกับข้อมูลเดิมได้เหมือนตอนที่ยังซ่อมไม่เสร็จ

แพงไม่ใช่เล่นเลยล่ะ

– ตัวเกมไม่ได้ทำเนื้อเรื่องรองรับไว้ ทำให้อาจจะขาดอรรถรสไปอย่างมากได้เมื่อเทียบกับสาย CC
– ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซ่อมสิ่งต่างๆ ไม่ได้แยกย่อยเป็นส่วนเล็กๆ ทำให้มีปัญหาการบริหารเงินได้
– ของหลายอย่างใน bundle สามารถทำได้ง่ายกว่าการสะสมเงินก้อนในช่วงต้นเกมมาก
– ไม่ได้รับของแถมเล็กๆน้อยๆจากการซ่อมสิ่งต่างๆสำเร็จเหมือน bundle ของ CC

จะเห็นได้ว่าเนื่องจากตัวเกมไม่ได้ทำมาบังคับและทำเนื้อเรื่องรองรับต่างๆไว้มากเพียงพอ ทำให้ผู้เล่นมีอิสระเต็มที่ในการเลือกไปทางสายไหนก็ได้ ซึ่งหากสรุปแล้วจะต่างกันตรงที่
– สาย CC จะรู้สึกมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่า แต่จะถูกจำกัดให้ต้องวางแผนล่วงหน้าในการเก็บสะสมของต่างๆ
– สาย Joja จะมีอิสระในการเล่นที่มากกว่า แต่จะรู้สึกเหวงๆเหมือนขาดอะไรในเกมไปซักอย่าง

สาย CC จึงเหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่, ผู้เล่นที่ชื่นชอบเนื้อเรื่องเพิ่มเติมและคนที่ชอบเก็บสะสมของต่างๆมากกว่า

ในขณะที่สาย Joja ก็จะเหมาะกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในเกมแล้ว หรือชอบเล่นเพลินๆไม่ถูกอะไรมาผูกมัดพิเศษเช่นของตามฤดูกาล เน้นทางเล่นชิลๆมากกว่า

ซึ่งนอกจากใน event ที่มีแล้ว ความสัมพันธ์ต่างๆของชาวเมืองจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด และไม่มีผลกระทบอะไรพิเศษไม่ว่าจะเลือกฝั่งไหน ต่อให้ผู้เล่นเลือกสาย Joja ก็ไม่ได้ทำให้บ้านปิแอร์เกลียดขี้หน้าเราแต่อย่างใด รวมถึงข่าวลือที่ว่าถ้าเลือกทาง Joja แล้วจะโดนยึดบ้านหลังจากปีที่ 3 ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดนะจ๊ะ (คาดว่าลือกันเพราะแปลผิดจากการที่ Joja ใช้ CC เป็นโกดังเก็บของมากกว่า)
ดังนั้นผู้เล่นเลือกสายการเล่นได้อย่างสบายใจได้เลยจ้า ไม่ต้องกลัวว่าเลือกสาย Joja แล้วจะเป็นคนไม่ดี หรือเล่นสาย CC แล้วจะยากเกินไปไหม

วิธีการจีบสาวแต่ละคนพร้อมรายละเอียด Event

1.เราจะสามารถให้ของขวัญหญิงสาวได้วันละ 1 ชิ้น และสัปดาห์ละ 2 ชิ้น เท่านั้น
2.เราจะเข้าไปในห้องของหญิงสาวได้เมื่อสนิธในระดับนึง (หัวใจ 2 ดวง)
3.เมื่อจีบจนหัวใจ 8 ดวงแล้วต้องขอเป็นแฟนโดยการไปซื้อดอกไม้ที่ร้านค้าไปให้หญิงสาว
4.เพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้
5.การแต่งงาน

Abigail / อาบิเกล

เด็กสาวผมม่วง ที่ได้รับสืบทอดสีผมอันสวยงามมาจากคุณย่า เธอมีนิสัยค่อนข้างจะแก่นแก้วและมักมักจะทำอะไรไม่เหมือนผู้หญิงสักเท่าไหร่ ทำให้พ่อแม่ของพวกเธอปวดหัวอยู่เสมอ เพราะอยากให้ทำตัวให้เหมือนเด็กผู้หญิงมากกว่านี้ สิ่งที่เธอชอบคือการเล่นเกมและการออกผจญภัย เธอมักจะชอบออกพูดถึงการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น อยู่บ่อหากเราเข้าไปพูดคุย ในการเจอเธอนั้นเราจะพบได้ที่ร้านค้าที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของอยู่ นอกจากนี้เธอมักจะแซวจากผู้เล่นต่างๆ ว่าแม่สาวกินแร่ เนื่องมาจากการที่เธอมักจะพูดว่า Hey, how’d you know I was hungry? This looks delicious! (เฮ้! นายรู้ด้วยเหรอว่าฉันกำลังหิว ? มันน่าอร่อยมากเลยล่ะ) ถึงแม้ว่าสิ่งที่ให้เธอไปจะเป็นแร่ก็ตาม

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : Pierre’s General Store

วันเกิด : Fall 13

โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะพบเธอได้ที่ร้านของเธอในช่วงเช้า ทำให้เราสามารถที่จะดักเอาของไปให้ได้ค่อนข้างง่าย โดยของที่เธอชอบส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกแร่ต่างๆ ซึ่งสามารถชดเชยของที่เธอชอบมากได้เพราะเรามักจะได้ของพวกนี้จากการเข้าเหมืองอยู่แล้วอาทิเช่น Quartz,Diamond,Emerald เป็นต้น โดยเฉพาะ Quartz เราสามาราถที่จะหาได้ตั้งแต่ชั้นแรกๆเลยหรือหากเราชอบที่จะเดินหาของป่าขาย เราก็สามารถเก็บดอกไม้ต่างๆมาให้เธอได้เหมือนกัน แต่อย่าเอาของป่าที่ไม่ใช่ดอกไม่ไปให้เธอล่ะเพราะส่วนมากแล้วเธอจะไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : เหตุการณ์จะเกิดเมื่อเราเข้าไปใน Pierre’s shop
๐ เมื่อเข้าไปในร้านค้าเธอจะชวนเราเล่นเกมที่เธอเล่นยังไงก็ไม่ยอมผ่าน “Journey of the Prairie King” ซึ่งหากว่าเราชนะเธอจะดีใจที่ผ่านสักที แต่ถ้าเราเล่นแพ้เธอจะซึมไปหน่อยๆ

หัวใจ 4 ดวง : เหตุการณ์จะเกิดเมื่อเราเดินไปบริเวณหน้าเหมืองในวันที่ฝนตก หลังเที่ยงเป็นต้นไป
๐ขณะที่ฝนกำลังตกอย่างหนักเราก็พบกับ แอ๊บบี้กำลังเล่นดนตรีอยู่คนเดียว เมื่อเราเดินไปหาเธอจึงสอบถามเราว่ามาทำอะไรในวันที่ฝนตกแบบนี้ โดยเราจะตอบอะไรก็ได้ไม่แตกต่างกัเนท่าไหร่ จากนั้นเราจะร่วมเล่นเพลงไปด้วยกันกับเธอ

หัวใจ 6 ดวง : เดินเข้าเมืองในช่วงมืด
๐ขณะที่เราเดินเล่นในช่วงมืด เราก็เจอกับ Abigail กำลังฝึกดาบอยู่ที่สุสาน เราจึงเข้าไปคุยด้วย โดยเธอจะบอกว่าเธอชอบที่จะฝึกดาบเพราะอยากจะออกผจญภัย และจะถามเราว่าเคยใช้ดาบมาก่อนหรือเปล่า เราจะตอบอะไรก็ได้ หลังจากนั้นพ่อ แอบบี้จะมาตาม
ให้ไปช่วยทำกับข้าว Abigail จึงไม่พอใจและชวนเราวิ่งหนีไปด้วยกัน

หัวใจ 8 ดวง : ห้องของ Abigail
๐เราจะได้รับจดหมายจาก Abigail ว่าให้ไปหาเธอช่วงมืดๆ เพราะมีอะไรจะโชว์ให้เราดู เมื่อเราไปหาเธอตามเวลานัดเธอจะเอาเกม spirit board (ประมาณผีถ้วยแก้วบ้านเรา)มาให้เราเล่น แต่เกมเจ้ากรรมมันดันเผยความรู้สึกในใจเธอซะงั้นเธอจึงไล่เราออกจากห้อง และหลังจากนั้นเธอจะมาขอโทษเราในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น

หัวใจ 10 ดวง : ในเหมืองหลัง 5 โมงเย็น
๐ขณะที่เรากำลังเข้าไปในเหมืองเราจะพบกับ Abigail กำลังตกใจกลัวอยู่ เราจึงเข้าไปปลอบเธอซึ่งมีตัวเลือกหลายข้อให้ตอบ(ผลออกมาไม่ต่างกัน) จากนั้นเธอจะสารภาพความในใจออกมาว่าไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน ก่อนที่จะ

Haley / เฮลี่

สาวมั่นและแอบหยิ่งหน่อยๆประจำหมู่บ้าน เนื่องมาจากเธอเป็นที่นิยมของพวกผู้ชายมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้นิสัยของเธอออกจะหยิ่งๆ บวกกับมีความมั่นใจในตัวเองสูงไปสักหน่อย ซึ่งเชื่อว่าผู้เล่นทุกคนที่เอาของไปให้เธอส่วนมากมักจะเจอเธอทำหน้าบึ้งใส่เพราะของที่เธอชอบมาก และชอบนั้นในช่วงแรกค่อนข้างจะหายากและเดาลำบากอยู่สักหน่อย ในด้านของการใช้ชีวิต เธออยู่กับน้องสาว 2 คนเนื่องจากพ่อแม่ของเธอออกเดินทางไปรอบโลกและยังไม่กลับมาเสียที ถึงแม้ว่าดูเผินๆ นิสัยของเธออาจจะไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่ว่าจริงๆแล้วเป็นคนที่โรแมนติกมากทีเดียว

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : บ้านของเธอเอง,Marnie’s Ranch,บ่อน้ำพุที่เมือง

วันเกิด : Spring 14

ส่วนมากแล้วเธอมักจะชอบไปเดินเล่นเพื่อถ่ายรูปอยู่แถวๆ Marinie’s Ranch หรือบ่อน้ำพุที่เมือง แต่วิธีการที่จะหาเธอง่ายที่สุดคือช่วง เช้าก่อนที่เธอจะไปข้างนอกและตอนเย็น เพราะเธอมักจะกลับมาบ้านเพื่อทำกับข้าวอยู่เสมอ (เป็นแม่ศรีเรือนเหมือนกันนะเนี่ย) ส่วนของที่เธอชอบมากในช่วงแรกๆของเกมนั้นหายากมากๆ และพวกพืชผักหรือปลาต่างๆ เธอแทบจะไม่ชอบเลย ส่วนของที่เธอชอบบางอย่างเราสามารถเดินป่าหาเอาได้ โดยส่วนมากจะเป็นพวกดอกไม้ต่างๆ หรือสลัดที่เราเดินไปซื้อได้ที่ Saloon สำหรับการจีบในช่วงหลังๆ ค่อยปลูก Sunflower เก็บไว้มากๆแล้วทยอยให้เธอเอา

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : เดินเข้าไปในบ้านของ Haley ช่วงเช้า
๐เราจะพบ Haley กำลังเถียงอยู่กับ Emily เรื่องการทำความสะอาดโซฟาที่เฮลี่ไม่ยอมทำเนื่องจากว่าเธอได้ทำไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนเอมิลี่ก็บอกว่าเธอเป็นคนหาเงินเข้าบ้านดังนั้นเฮลี่จึงควรจะทำ เราจึงโดนดึงเข้ามาเกี่ยวโดยพวกเธอจะถามความเห็นของเราว่าควรทำยังไง ซึ่งตำตอบส่วนมากจะทำให้ เฮลี่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่และสุดท้ายเอมิลี่ก็ต้องเป็นคนทำอยู่ดี โดยจะมีเพียงข้อ 2 ที่เฮลี่จะยอมขอโทษ

หัวใจ 4 ดวง : เดินเข้าไปในบ้านของ Haley ในช่วงที่อยู่บ้าน
๐เฮลี่จะขอให้เราช่วยเปิดฝาเหยือก โดยเธอจะถามเราว่ามีแรงพอจะเปิดเหยือกนี่ได้ไหม แต่ถึงแม้ว่าเราจะตอบอย่างไรก็ตามเธอก็จะให้เราช่วยเปิดอยู่ดี และบอกว่าเรามีแรงเยอะกว่าที่คิดนะ

หัวใจ 6 ดวง :เดินไปที่ทะเลในช่วงเช้า
๐เราจะพบกับเฮลี่ที่กำลังเครียดเนื่องจากทำกำไลของย่าทวดหาย โดยเราจะเข้าไปปลอบเธอและหลังจากนั้นเราจะต้องช่วยหากำไลที่หายไปของเธอและเก็บมาให้ ซึ่งเฮลี่จะขอบคุณเราเป็นอย่างมากและบอกว่าจะไม่ลืมเรื่องในวันนี้เด็ดขาด

หัวใจ 8 ดวง : Marinnie’s Ranch
๐เราจะเข้าไปเซอร์ไพรต์ขณะที่เฮลี่กำลังถ่ายภาพอยู่ โดยเธอได้บอกกับเราว่าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการเป็นชาวไร่มันเป็นยังไง จนกระทั่งได้มาเจอกับเรา จากนั้นเธอจะขอตั้งเวลาถ่ายภาพเรากับเธอขณะที่กำลังเล่นกับพวกวัว

หัวใจ 10 ดวง : บ้านของ Haley
๐เมื่อเราเข้ามาที่บ้านของเธอ ฮาลี่จะชวนให้เราเข้าไปในห้องมืด(เอาไว้ล้างรูป) จากนั้นเธอจะชวนเราคุยและถามเราว่าคิดอย่างไร ซึ่งไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็ตาม เธอจะถามเราว่าควรจะทำอะไรต่อดี ซึ่งหากตอบพยามจูบเธอล่ะก็ เธอจะดีใจและบอกกับเราว่าเธอรอมานานแล้วที่เราจะทำแบบนี้ หลังจากนั้นเธอจะปิดไฟแล้วเรากับเธอจะจูบกันอย่างดูดดื่ม จากนั้นภาพก็จะตัดออกไป…

Leah / ลีอา

หญิงสาวที่รักศิลปะและใฝ่ฝันที่จะเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว แต่ว่าเธอไม่ค่อยที่จะมีความกล้าที่จะโชว์ผลงานของเธอสักเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะไม่ค่อยเจอเธออยู่บ้านมากนัก เธอมักจะใช้เวลาตระเวนไปตามที่ต่างๆเพื่อหาไอเดียให้กับงานศิลปะของเธอเอง ซึ่งเธอจริงจังกับงานศิลปะของเธอเป็นอย่างมากขนาดที่ว่าเลิกกับคนรักเก่าเนื่องมาจากแนวคิดที่ไปกันไม่ได้และ แฟนเก่าของเธอไม่สนับสนุนให้เธอทำงานที่เธอรัก ดังนั้นเธอจึงหนีมาอยู่ที่เมืองแห่งนี้และมุ่งมั่นทำงานศิลปะของเธอต่อไป

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : บ้านของเธอเอง,Saloon

วันเกิด : Winter 23

ส่วนใหญ่แล้วลีอามักจะไม่ค่อยอยู่บ้านมากนัก โดยจะมีเวลาที่เธออยู่แน่ๆเลยคือช่วงเช้าๆ ตอนประมาณ 10 โมงถึงเที่ยง หลังจากเที่ยงเธอมักจะไปเดินตามที่ต่างๆเพื่อหาไอเดียให้กับงานศิลปะของเธอ โดยของที่เธอชอบนั้นหาไม่ยากเท่าไหร่ เพราะเธอชอบผักและผลไม้ทุกชนิด แต่ว่าเธอมักจะไม่ค่อยชอบของจากทะเลสักเท่าไหร่ส่วนของที่เธอชอบมากอย่างสลัด เราสามารถหาซื้อได้ง่ายๆที่ Saloon ซึ่งเราสามารถซื้อและเอาไปให้เธอได้เลย เนื่องจากตอนกลางคืนเธอมักจะมาอยู่ที่นี่เสมอๆ แต่การเจอเธอที่ง่ายที่สุดคือในบ้านของเธอเอง ดังนั้นควรรีบทำให้หัวใจของเธอขึ้นเป็น 2 ดวงเพื่อที่จะเข้าไปหาเธอได้ในบ้านจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการพบเธอ

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : เดินเข้าไปในบ้านของ Leah ขณะที่เธออยู่บ้าน
๐เมื่อเราเข้าบ้านไปจะพบว่าเธอกำลังทำงานศิลปะอยู่ โดยเธอจะปรึกษากับเราว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ซึ่งจะมีข้อแนะนำให้เธอสองอย่างคือ 1. เอางานไปแสดงโชว์กลางเมือง 2.ขายงานผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งข้อแรกเธอจะบอกว่าเธอกลัวคนจะไม่ชอบแต่จะคิดดูก่อน ส่วนข้อสอง เธอจะบอกเราว่าคอมราคาแพงและจะคิดดูก่อนเช่นกัน

หัวใจ 4 ดวง : เข้าบ้าน Leah ตอนอยู่บ้าน
๐เมื่อเราเข้าไปจะพบกับเธอกำลังทะเลาะกับแฟนเก่าอยู่และบอกว่าไม่อยากพบกันอีกแล้ว ก่อนจะหันมาเจอเราและเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังว่า เมื่อก่อนเธอเคยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ต์กับแฟนเก่าแต่ว่าอีกฝ่ายไม่สนับสนุนให้เธอทำงานศิลปะ และไล่ให้ไปทำอะไรที่มั่นคงกว่านั้น เธอจึงขอแยกตัวออกมาและมาอยู่ในเมืองนี้ จากนั้นเธอจะถามความเห็นของเราซึ่งตอบอะไรก็ได้

หัวใจ 6 ดวง

หากใน Event หัวใจ 2 ดวงเราแนะนำลีอาให้โชว์งานในเมืองเธอจะมาหาเราตอนเช้าและบอกว่างานแสดงจะจัดที่กลางเมืองช่วงบ่ายให้เราไปให้ได้ เมื่อเราไปแล้วเราจะพบกับผลงานต่างๆของลีอามากมายซึ่งเหล่าคนในเมืองก็ชื่นชมในฝีมือของเธอ

หัวใจ 7 ดวง : Marinnie’s Ranch
๐ขณะที่เรากำลังเดินเล่นอยู่จะพบลีอากำลังพยามเก็บผลไม้ เราจึงเดินเข้าไปช่วยยกให้เธอเก็บผลไม้ได้ จากนั้นเธอจะขอบคุณเราและกินผลไม้ด้วยกัน

หัวใจ 8 ดวง : ลานกลางเมือง หรือ ในบ้านของ Leah

หากใน Event หัวใจ 2 ดวงเราแนะนำให้ขายงานในอินเตอร์เน็ต เราจะต้องไปที่บ้านของเธอตอนที่เธออยู่ ซึ่งเธอจะกำลังวุ่นกับการขายงานที่กำลังขายดิบขายดี เพราะมีคนชื่อ K เข้ามาซืองานเธอเป็นจำนวนมาก เราจึงมาร่วมยินดีกับเธอ

หัวใจ 10 ดวง : Marinnie’s Reach
Leah จะชวนเรามาทานข้าวฝีมือเธอเพื่อเป็นการขอบคุณที่เราช่วยแนะนำเธอในอีเว้นท์ก่อนๆ โดยในระหว่างที่เรากำลังทานข้าวกันนั้นแฟนเก่าของเธอก็ได้เข้ามากวน และพยามจะให้เธอกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ว่าลีอาไม่ต้องการดังนั้นเราจึงต้องเข้าไปช่วย ซึ่งจะมีให้เราเลือกว่าจะใช้เหตุผลเข้าพูดคุยหรือต่อย แต่ว่าถึงแม้เราจะเลือกใช้เหตุผล แต่แฟนเก่าเธอก็ยังเกรียนอยู่ดีเธอจึงเข้าไปต่อยเอง จากนั้นเรากับลีอาจะเดินไปหาที่เงียบๆกระหนุงกระหนิงกันต่อ

Maru / มารุ

เด็กสาวที่รักในการเรียนรู้และการประดิษฐ์ สิ่งต่างๆ โดยเธอได้รับพรสวรรค์มาจากพ่อที่เป็นนักวิทยาศาสร์ และแม่ที่เป็นช่างไม้ ดังนั้นในเวลาว่างของเธอเรามักจะเห็นเธอหมกมุ่นอยู่กับงานประดิษฐ์ของเธอภายในห้อง หรือไม่ก็ช่วยงานคุณพ่ออยู่ในแล็บ ส่วนงานที่เธอทำนั้นคือการเป็นพยาบาลอยู่ที่คลีนิกในตัวเมือง

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : บ้านของเธอเอง,Harvey’s Clinic

ในช่วงแรกๆของที่เธอชอบมากๆที่หาได้ง่ายที่สุดคือ Cauliflower ดังนั้นหากคิดที่จะจีบเธอล่ะก็ควรที่จะปลูกเก็บเอาไว้เยอะๆได้เลย และในช่วงแรกๆที่ยังไม่มี เราสามารถที่จะเอาพวกดอกไม้ไปให้เธอแก้ขัดก่อนได้ นอกจากนี้พวกพวกพิชผักต่างๆในสวนที่เราปลูกส่วนมากเธอก็โอเคกับมันเลยล่ะดังนั้นวันแรกๆหายังไม่มี Cauliflower จะปลูก Parsnip ไปให้เธอก่อนก็ได้นะ สำหรับสถานที่ๆเธออยู่นั้นเธอจะทำงานที่คลีนิกในวันอังคารและพฤหัส นอกเหนือจากนั้นเธอมักจะอยู่ที่บ้านเพื่อช่วยงานของพ่อเธอหรือไม่ก็เดินเล่นในตัวเมืองบ้างเป็นบางครั้ง ดังนั้นการหาตัวเธอจึงไม่ค่อยยากเท่าไหร่
ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : ที่บ้านของ Maru
๐เมื่อเราเข้าไปที่บ้านของเธอ เราจะพบเธอกำลังช่วยงานของพ่ออยู่และบอกให้เรามาช่วยด้วย จากนั้นเธอจะไปทำธุระ Demetrius จึงมาคุยกับเราบอกว่า Maru นั้นสำคัญกับเขามาก และไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่มย่ามกับเธอ หลังจากนั้น Maru จะเข้ามาแล้วถามเราว่าตะกี้นี้คุยอะไรกันหรือเปล่า โดยจะมีให้เราเลือกว่าไม่มีอะไรกับพูดความจริง ซึ่งในข้อหลังจะทำให้ Demetrius โกรธเรานิดหน่อย

หัวใจ 4 ดวง : ที่คลีนิกในวันที่เธอทำงาน
๐Maru เธอจะเผลอทำหลอดทดลองของ Harvey แตกเราจึงต้องให้คำแนะนำโดยจะมีให้เลือดังนี้คือ
1.รีบๆทำความสะอาดซะ ฮาวี่ไม่รู้หรอก
2.ให้บอกว่าเป็นความผิดของเรา และสุดท้ายคือบอกความจริงไป
3.บอกความจริง
หากเราตอบข้อ 2 Harvey จะบอกกับ Maru ว่าไม่ควรที่จะโทษคนอื่นและจ๋อยไปและหากตอบข้อ 3 ฮาร์วี่จะดีใจที่ Maru ยอมรับความจริง

หัวใจ 6 ดวง : บ้านของ Maru ในช่วงมืด
๐เราจะพบ Maru กำลังใช้กล้องดูดาวอยู่และเธอจะให้เราดูดาวกับเธอด้วย และจะถามว่าเราคิดยังไงบ้าง

หัวใจ 8 ดวง : บ้านของ Maru
๐Maru กำลังทำงานประดิษฐ์อยู่ในห้องและชวนเราเข้าไปดู แต่ก็เกิดอุบัติเหตุเพราะเราโดนงานของเธอช็อตซะงั้นและเธอจะถามเราว่าเป็นอะไรหรือเปล่าหากเราตอบว่าไม่เป็นไรเธอจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย แต่หากเราตอบว่าเป็นเธอจะช็อคและซึมไปนิดหน่อย

หัวใจ 10 ดวง : บ้านของ Maru
๐Maru จะชวนเราไปดูสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่เธอสร้างในห้องใต้ดิน นั่นก็คือหุ่นยนต์นั่นเอง โดยเธอหวังไว้ว่าจะให้เจ้าหุ่นนี่ช่วยพ่อกับแม่ของเธอทำงาน แต่เจ้าหุ่นที่เปิดการทำงานแล้วกลับบอกว่ามันมีระบบการเรียนรู้ด้วยตัวเองและอยากออกไปสำรวจอวกาศซึ่งพ่อของเธอรู้เข้าจึงบอกกับ Maru ว่าปล่อยมันไปเถอะตัวเขาเองนั้นอยู่ได้ไม่เป็นไร จากนั้นเขาจะปล่อยให้เราอยู่กับ Maru 2 คนและเธอจะถามความเห็นสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาก่อนที่จะหอมแก้มเรา(ยกเว้นการตอบข้อ 2 เธอที่บอกว่าน่าจะสร้างหุ่นมาใช้งาน เธอจะโกรธเราเล็กน้อย)

Penny / เพนนี่

หญิงสาวผู้รักเด็กเป็นชีวิตจิตใจ เธอทำงานเป็นครูสอนหนังสือให้กับเด็กๆในหมู่บ้าน และได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ในบ้านรถหลังเล็กๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอก็มีปัญหากับแม่อยู่บ่อยๆเนื่องมาจากเธอไม่ค่อยอยากให้แม่ไปดื่มเหล้าบ่อยนัก ส่วนความฝันของเธอคือการที่มีครอบครัวที่อบอุ่นและบ้านหลังเล็กๆสักหลัง ทว่าความฝันของเธอคงจะเป็นจริงยากสักหน่อยเพราะเงินของเธอต้องใช้กับภายในครอบครัวซึ่งแม่ของเธอก็ไม่ได้ทำงานอะไร

สถานที่ๆมักจะอยู่ :Trailer,เดินเล่นในเมืองหรืออยู่กับเด็กๆ

เพนนีมักจะเดินไปมาในเมืองอยู่เสมอทำให้เราเดาค่อนข้างยากว่าเธออยู่ที่ไหน การหาเธอที่ง่ายที่สุดคือช่วงเช้าๆที่บ้านของเธอ ซึ่งในระยะแรกๆที่เข้าไปยังห้องเธอไม่ได้เราอาจจะต้องเดินหาเธอในหมู่บ้านสักหน่อย โดยจุดที่เธอมักจะอยู่คือม้านั่งที่อยู่ด้านนอกแถวๆ Saloon หรือนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้แถวสุสาน สำหรับการจีบเธอในช่วงแรกๆนั้นของที่เธอชอบมากจะหายากดังนั้นเราควรหาของที่เธอชอบปกติมาให้ก่อน โดยในช่วงเดือนแรกจะมี Deadelion และ Leek ที่หาเอาได้ตามป่าหรือถ้าง่ายหน่อยก็เดินไปซื้อสลัดที่ Saloon แล้วนำไปให้เธอก็ได้

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด :https://stardewvalleywiki.com/Penny

หัวใจ 2 ดวง : ภายในตัวเมือง
๐ขณะที่เรากำลังเดินเล่นในเมือง เราจะเจอกับเพนนีที่พยามจะช่วยจอร์ท หยิบจดหมายในกล่อง แต่ว่าจอร์ทไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักเราจึงเข้าไปช่วยเหลือ โดยหากเราเห็นว่าที่เธอทำนั้นดีแล้วจอร์ทจะรู้สึกผิดและขอโทษ

หัวใจ 4 ดวง : ใน Trailer ขณะที่เธออยู่บ้าน
๐ในขณะที่แม่ของเธอไปข้างนอกเธอจึงทำความสะอาดบ้านยกใหญ่ ซึ่งเราเข้ามาพอดีเธอจึงขอให้เราช่วย หลังจากนั้น Pam แม่ของเธอจะกลับมาและไม่พอใจที่เพนนีมาทำความสะอาดโดยไม่บอกกล่าว รวมไปถึงให้เราซึ่งเป็นคนนอกมาช่วย

หัวใจ 6 ดวง : ใน Trailer ขณะที่เธออยู่บ้าน
เพนนีจะชวนเราชิมอาหารที่เธอทำ ซึ่งเมื่อเราทานเข้าไปจะพบว่ารสชาติมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จึงต้องเลือกตอบวาจะโกหกเธอหรืบอกความจริง ซึ่งสุดท้ายก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ จากนั้นเธอจะขอบคุณเราและชวนเราไปดูทีวีต่อ

หัวใจ 8 ดวง : เข้าไปใน Cindersap Forest (เดินเข้ามาใน Marinnie’s Reach เฉยๆก็ได้)
เราจะเห็นเพนนีกำลังพาเด็กๆในหมู่บ้านมาปิกนิกกัน จากนั้นเธอจะเห็นเราพอดีจึงชวนมาเป็นวิทยากรพิเศษมาบรรยายเกี่ยวกับชีวิตในฟาร์ม
หลังจากจบเธอจะถามเราคิดยังไงเกี่ยวกับการสร้างครอบครัว

หัวใจ 10 ดวง : บ่อน้ำร้อน
เพนนีจะชวนเราให้ไปหาที่บ่อน้ำร้อนในช่วงมืดเป็นต้นไป เมื่อเราเข้าไปหาเธอแล้วเธอจะสารภาพความรู้สึกที่มีกับเรา ซึ่งถ้าหากเราตอบว่ารู้สึกแบบเดียวกับเธอเรื่องราวจะจบลงแบบ Happy แต่ถ้าหากเราตอบปฎิเสธไปเธอจะร้องให้และวิ่งหนีออกไปจากบ่อน้ำร้อนจากนั้นหัวใจของเธอจะลดลงเป็นอย่างมาก(ถ้าจำไม่ผิดเหลือ 4 ดวง)

Emily / เอมิลี่

หญิงสาวที่ใช้ชีวิตอยู่กับพี่สาวของเธอ Haley ซึ่งเธอต้องทนกับความเอาแต่ใจและแบกรับภาระงานต่างๆของบ้านอยู่เสมอ แต่เธอก็ทนได้เสมอมา สำหรับงานของเธอนั้นเธอจะทำงานในช่วงกลางคืนอยู่ที่ The saloon และเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านมากๆ จากรอยยิ้มและอัธยาศัยที่ดีมากๆ นอกจากนี้เธอยังมีงานอดิเหรกอย่างการตัดเย็บเสื้อและการเต้นด้วย

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : The Saloon, บ้าน ,ร้านค้าของปิแอร์

วันเกิด : Spring 27

เทคนิคในการจีบ : เอมิลี่ค่อนข้างที่จะอยู่เป็นที่มากๆ เราสามารถพบเธอได้ง่ายๆที่ The Saloon ส่วนของที่เธอชอบก็หาไม่ยากนัก โดยเฉพาะพวกอัญมณีต่างๆ เพราะถ้าใครที่ลงเหมืองบ่อยๆล่ะก็ รับรองว่ามีของมาให้เธอได้ตลอดแน่นอนครับ และถ้าหากว่าหัวใจเริ่มเยอะแล้ว และขี้เกียจไปดักรอเธอทตอนกลางคืน แนะนำว่าช่วงเช้าให้เอาของไปให้เธอที่บ้านเลยจะสะดวกกว่ามากๆ เพราะเธอมักจะอยู่ในห้องของเธอจนถึงช่วงสายๆ

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : เข้าไปในห้องของ Emily ในขณะที่เธออยู่

ขณะที่ เอมิลี่กำลังนอนหลับอยู่ คุณก็พบว่าตัวเองเข้าไปอยู่ในฝันของเธอซะแล้ว มันเป็นความฝันที่แปลกประหลาดมากขณะที่เธอกำลังนั่งสมาธิอยู่ คุณก็ปรากฎตัวออกมา ทำให้เธอตกใจว่าคุณมาอยู่ในความฝันของเธอได้อย่างไร ทันใดนั้นสายรุ้งมากมายก็โผล่ขึ้นมา เพื่อเป็นสัญญาณบอกบางอย่างแก่เธอ แล้วคุณก็หายไปทันที และเมื่อเธอตื่นขึ้นและบอกกับตัวเองว่ามีสิ่งพิเศษบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับคุณ บางทีโชคชะตาของคุณและเธอ อาจจะผูกพันกันก็เป็นได้…

หัวใจ 3 ดวง : : เราจะได้สูตร Salad กับ Red Plate มาให้ และเริ่มส่ง Sea Urchin กับ Cloth มาให้

หัวใจ 4 ดวง : ในเมืองวันที่อากาศดี(อีเวนท์จะไม่เกิดในฤดูหนาว)

ตอนที่เอมิลี่ออกจากบ้านจะมีนกแก้ว 3 ตัวบินผ่าน เธอจึงโบกมือทักทายพวกมันราวกับว่าเป็นเพื่อนของเธอ ขณะที่เธอกำลังเดินไปเรื่อยๆก็ต้องหยุดเดินอย่างฉับพลัน เพราะเธอเห็นว่า มีนกแก้วตัวที่ 4 บินไปชนหน้าต่างของบ้านเธอ ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งไปดูนกแก้วที่บาดเจ็บ และสัญญาว่าเธอจะดูแลมันอย่างดีที่สุด

หัวใจ 6 ดวง : เข้าไปในห้องของ Emily ในขณะเธออยู่

เอมิลี่จะบอกคุณว่า เธอตื่นเต้นมาก กับการที่เธอจะแสดงให้คุณดูเกี่ยวกับงานอดิเรกลับๆของเธอ ที่ฝึกฝนมานานพอสมควร และเธอก็เดินไปเปิดวิทยุจากนั้นเธอก็เริ่มเต้นตามจังหวะเพลง หลังจากที่ดนตรีจบ เธอถามว่าคุณมีความรู้สึกอย่างไร เกี่ยวกับการแสดงของเธอ

หัวใจ 8 ดวง : เข้าไปที่บ้านของนายกเทศมนตรี Lewis ในเวลาที่บ้านเปิด

Emily จะส่งจดหมายเชิญคุณให้ไปร่วมงาน Clothing Therapy ของเธอที่บ้านของนายกเทศมนตรี Lewis เมื่อคุณเข้าไปในบ้านของนายกเทศมนตรี เธอก็จะเข้ามาอธิบายจุดประสงค์ของการจัดการประชุมนี้ขึ้นมา ซึ่งก็คือเธอต้องการให้ชาวเมืองแสดงตัวตนของพวกเขาด้วยเสื้อผ้า ผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ Lewis, Robin, Abigail, Clint, Shane โดยหลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เรากับเอมิลี่ก็ได้อยู่กันสองต่อสอง แต่ทว่า Clint มาขัดจังหวะเสียก่อน เขาจึงขอโทษและจากไป พร้อมกับยอมแพ้ในเรื่องเอมิลี่

หัวใจ 10 ดวง : Secret Woods หลัง 10 pm
จะมีจดหมายให้คุณไปเจอ Emily ที่ Secret Woods หลัง 10 pm คืนนั้น ระหว่างที่คุณไปแคมป์ปิ้งกับใน Secret Woods จู่ๆก็มีเสียงคำรามออกมาจากป่า เธอจึงบอกว่าตัวเธอหนาว และขยับตัวเข้ามาซบคุณ ทันใดนั้น ก็มีหมีป่าออกมา มันคำรามอีกครั้ง คุณและ เธอจึงรีบเข้าไปหลบในเต้นท์ ซักพัก เธอจึงบอกว่ามีถุงนอนอีกใบยังอยู่นอกเต้นท์ แต่เธอจะไม่มีวันออกไปเพื่อที่จะหยิบมัน คุณและเธอจึงต้องนอนด้วยกัน

*หมายเหตุ : เราไม่ต้องไปที่ Secret Wood ในวันที่เธอส่งจดหมายมาทันทีก็ได้ เพียงแต่ขอให้ไปที่นั่นในช่วงหลังจาก 10 PM ก็พอเพราะในช่วงแรกเชื่อว่าผู้เล่นหลายคนยังเข้าไปไม่ได้ครับ ต้องมีขวานระดับเงินขึ้นไปก่อนจึงจะเข้าได้

เทคนิคการจีบหนุ่มแต่ละคน พร้อมรายละเอียด

ไกด์รวบรวมข้อมูลและเทคนิคในการจีบหนุ่มๆแต่ละคน พร้อมอีเว้นท์ต่างๆ

ข้อควรทราบคล่าวๆก่อนการลงมือจีบ

1.เราจะสามารถให้ของขวัญหนุ่มๆได้วันละ 1 ชิ้น และสัปดาห์ละ 2 ชิ้น เท่านั้น
2.เราจะเข้าไปในห้องของหนุ่มๆได้เมื่อสนิธในระดับนึง (หัวใจ 2 ดวง)
3.เมื่อจีบจนหัวใจ 8 ดวงแล้วต้องขอเป็นแฟนโดยการไปซื้อดอกไม้ที่ร้านค้าไปให้หนุ่มที่เราชอบ (ให้ได้มากกว่า 1 คน)
4.เพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้
5.การแต่งงาน
6.อีเว้นในเกมสามารถเกิดข้ามซีนได้เพราะงั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เจอ

Alex / อเล็ก

ชายหนุ่มผู้รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจโดยความใฝ่ฝันของเขาคือการได้เป็นนักกีฬามืออาชีพ เขามาอาศัยอยู่กับคุณปู่และคุณย่าของเขาที่เมือง Pelican เนื่องมาจากคุณพ่อได้ทิ้งเขาไปส่วนคุณแม่ก็ป่วยจากไปแล้วหลังจากที่โดยคุณพ่อทิ้ง เขาจึงต้องมาอาศัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้ เรามักจะเห็นเขาออกกำลังกายอยู่เสมอๆและมักจะชวนเราคุยในเรื่องของกีฬา

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : Pierre’s General Store

วันเกิด : Summer 13

การหาของที่อเล็กชอบมากนั้นค่อนข้างจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยโดยเฉพาะในช่วงแรกๆแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ ดังนั้นเราควรจะเล็งสิ่งที่เขาชอบรองๆลงมาแทน และโดยส่วนตัวทางผู้เขียนมองว่าการจีบผู้ชายคนนี้จะค่อนข้างลำบากในการจำของนิดหน่อย เนื่องจากว่า
ของที่อเล็กชอบและเกลียดนั้นค่อนข้างจะกระจายๆ จึงต้องใช้เวลาจำนิดหน่อย โดยในช่วงแรกๆของที่เราจะหามาให้ได้คือ Parsnip, Green Bean, Potato, Salad(ซื้อได้จาก Saloon) และเมื่อเราเล่นไปนานๆจนมีบ้านแล้วชีวิตเราจะง่ายขึ้นเยอะครับ เพราะว่าเราสามารถที่จะทำ Sashimi ให้อเล็กได้โดยใช้เพียงปลาอะไรก็ได้ 1 ตัวเท่านั้นส่วนของที่ควรระวังอย่าไปให้จะมีคล่าวๆดังนี้คือ Wild Horseradish, Salmonberry, Spring Onion, Poppy, Quartz เป็นต้น แต่ถึงหมอนี่จะหาของมาให้ยากแต่ก็มีข้อดีคือตำแหน่งที่อยู่ไม่คอ่ยเปลี่ยนโดยเราจะพบหมอนี่ได้ง่ายๆที่หน้าบ้านตัวเองบ่อยๆ ส่วนในหน้าร้อน อเล็กจะไปขายไอติมอยู่แถวห้องสมุดตอนบ่าย และตอนเช้าจะอยู่ที่ชายหาด

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : เดินไปที่ทะเลในช่วงหน้าร้อนตอนเช้า
๐ เราจะพบกับอเล็กกำลังอยู่ที่ชายหาดเขาจึงชวนเราเล่นโยนบอลด้วยกันและเมื่อเล่นจบเขาจะถามว่าเราคิดว่า อเล็กพอจะเป็นมืออาชีพได้ไหม หากเราตอบใช่เขาจะดีใจมาก แต่หากเราตอบว่าไม่เค้าจะอารมณ์บูดและเดินจากไป

หัวใจ 4 ดวง : เดินเข้ามาในเมืองหลัง 10 AM โดยประมาณ
๐เราจะเจอกับอเล็กที่กำลังระบายความในใจให้เจ้า Dusty(ดัสตี้)หมาของเขาฟังอยู่ ก่อนจะมาสังเกตุเห็นเราและถามว่าเราได้ยินที่เค้าพูดหรือเปล่า ? ซึ่งตอบอะไรก็ได้ผลจะเหมือนกันคือ อเล็กจะระบายความในใจให้เราฟังว่า เขาต้องมาอยู่ที่เมืองนี้เพราะว่าแม่ได้ตายจากไปหลังจากที่โดนคุณพ่อขี้เหล้าทิ้ง เขาจึงไม่มีทางเลือกและมาอยู่กับคุณปู่และย่าที่นี่ สุดท้ายเขาจะบอกวง่าที่เล่าให้เราฟังเพราะเชื่อใจเราจากนั้นเขาจะโชว์การให้อาหารกับดัสตี้

หัวใจ 5 ดวง : เดินเข้าไปในบ้านอเล็ก(เวลาไม่ค่อยแน่นอน)
๐เราจะเข้าพบกับอเล็กที่กำลังมองชั้นหนังสือของตัวเองที่ไม่เคยอ่านเลย เขาจึงกังวลว่าตัวเขาเองจะต้องจมปลักกับชีวิตแบบนี้และไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นจะมีตัวเลือกมาให้เราแนะนำเขา ซึ่งจะตอบอะไรก็ได้สุดท้ายแล้วอเล็กจะฮึดสู้และบอกว่าหากพยามล่ะก็เขาจะทำอะไรก็ได้ และจากนั้นอเล็กจะชวนเรามาทานข้าวและชวนคุยถึงเรื่องราวต่างๆกันต่อ

หัวใจ 6 ดวง : บ้านของอเล็ก
๐อเล็กจะออกกำลังกายอยู่ในบ้าน และเราเข้าไปพอดี ซึ่งอเล็กจะขอโทษเรากับเรื่องที่ผ่านๆมาที่เคยทำไม่ดีเอาไว้ให้ เนื่องจากเขาซีเรียสกับความฝันในวัยเด็กมากเกินไปและขอบคุณที่เราทนเป็นเพื่อนกับคนอย่างเขาได้

หัวใจ 8 ดวง : ที่ทะเลในช่วงหน้าร้อน(เวลาไม่แน่ชัด)
๐อเล็กจะนั่งร้องให้อยู่คนเดียวที่ชายหาดและเราบังเอิญไปพบเข้า เขาจึงเล่าให้ฟังว่าวันนี้เป็นวันครบวันตายของคุณแม่เขา ซึ่งจากไปโดยที่เขายังไม่ได้พูดขอบคุณก่อนที่จะจากกันเลย โดยหลงเหลืออยู่เพียงกล่องเพลงเอาไว้ดูต่างหน้า และเขาจะขอความเห็นเราซึ่งตอบอะไรไปก็ได้ หลังจากนั้นอเล็กจะดีขึ้นและขอร้องให้เราอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ซึ่งเราจะหัวเราะและเดินออกไป ก่อนที่อเล็กจะเดินตามไปติดๆ

หัวใจ 10 ดวง : Saloon ในช่วงมืด
๐อเล็กจะส่งจดหมายมาหาเราที่บ้านให้ไปพบกันตอนกลางคืนที่ร้าน Saloon ซึ่งเขาได้จองห้องไว้เพื่อดินเนอร์ ซึ่งที่ Saloon อเล็กจะสารภาพรักกับเรา และถามว่าเราคิดแบบเดียวกันกับเขาไหม หากเราตอบใช่ตัวเราและอเล็กจะทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ถ้าตอบไม่ล่ะก็อเล็กจะซึมไปและบอกกับเราว่าเขาไม่หิวแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเราจะตอบอะไรก็ตามหัวใจของอเล็กก็จะไม่ลดลง(มีสปิริทจริงๆ)

Elliott / เอลเลียต

นักเขียนนิยายที่ปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวบริเวณชายหาด เพื่อที่จะหาไอเดียและบรรยากาศในการเขียนนิยายของตัวเอง แต่ถึงเขาจะมุ่งมั่นยังไงก็ตามแต่ที่บ้านมักจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเดินทางในงานสายนี้ของเขาเสียเท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นเขาเดินไปตามที่ต่างๆเพื่อมองหาไอเดีย หรือไม่ก็นั่งเขียนงานของตัวเองอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆ

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : บ้านของตัวเอง(ที่ทะเล)

วันเกิด : Fall 5

Elliott มักจะชอบไปเดินเล่นตามที่ต่างๆทำให้หาตัวได้ยากสักหน่อย วิธีที่ง่ายที่สุดคือการไปดักเขาที่หน้าบ้านหรือเข้าไปในบ้านเลย ซึ่งเขามักจะออกมาจากบ้านช่วงประมาณ 11.30 อยู่บ่อยๆ ในส่วนของที่เขาชอบมากอย่าง Lobster หรือ Duck Fish จะหาได้ช่วงกลางๆเกมไปแล้วดังนั้นเราจะข้ามไปจีบด้วยของที่เขาชอบปกติแทนโดย ผลผลิตจากไร่เรานั้นจะให้เขาได้แทบทุกอย่าง โดยเฉพาะ Parsnip เป็นอะไรที่ปลูกง่ายมากๆในช่วงแรก ข้อระวังคิดถึงแม้เขาจะชอบชีสแต่ว่าไม่ชอบนม และของป่าส่วนใหญ่แล้วเขาแทบจะไม่ชอบมันเลย

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : บ้านของ Elliott
เมื่อเข้าไปในบ้านเราจะพบกับ Elliott และเขาจะระบายให้เราฟังถึงเหตุที่เค้าออกมาอยู่ที่นี่คนเดียวและบอกว่าทางบ้านไม่ค่อยสนับสนุนกับงานที่เขารักเท่าไหร่ จากนั้นจะถามเราว่าชอบนิยายแนวไหน ก่อนจะชวนเราไปดูดอกกุหลาบกันต่อ

หัวใจ 4 ดวง : Saloon ในช่วงบ่ายหรือมืด
๐ขณะที่เรากำลังมาหาอะไรดื่มที่ Saloon Elliot จะเดินเข้ามาและบอกว่าโชคดีที่ได้เจอเราจากนั้นจะสังเครื่องดื่มมาให้เราดื่ม โดยจะมีช้อยมาให้เลือกว่าเราจะดื่มให้แด่อะไร ซึ่งไม่มีผลอะไรมากนัก

หัวใจ 6 ดวง : บ้านของElliott
๐ชณะที่เรามาเยี่ยม Elliott เราจะพบว่าเขากำลังเล่นเปียโนอยู่ จึงได้ถามเขาว่าเล่นมานานหรือยังหลังจากนั้น Elliott จะสาธยายถึงชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง ก่อนจะบอกว่าเป็นชาวนาก็ดีเหมือนกันนะ และมีช้อยให้เราเลื่อกคือ 1.เป็นชาวนามันไม่ง่ายนะ และ 2. นายมาเป็นด้วยกันไหม ? หากตอบข้อสองเขาจะขอบคุณที่เราชวน และบอกกับเราว่าตอนนี้เขากำลังติดเรื่องการเขียนนิยายอยู่

หัวใจ 8 ดวง : Archaeologist’s office (ห้องสมุดหรือพิพิธภัณฑ์นั่นแหล่ะ) ช่วงบ่าย
๐ในตอนเช้าหลังจากที่หัวใจครบ 8 ดวงแล้ว Elliott จะส่งจดหมายมาที่บ้านของเราบอกว่านิยายที่เขาเขียนนั้นเรียบร้อยแล้ว และเขาจะอ่านหนังสือให้ชาวบ้านฟังในห้องสมุด อยากให้เรามาให้ได้ เมื่อเราไปที่ห้องสมุดช่วงบ่ายแล้ว Elliott จะเริ่มอ่านหหนังสือของตัวเองให้เราฟังซึ่งชื่อเรื่องและเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ จะเปลี่ยนไปตามคำตอบของเราในเหตุการณ์แรก

หัวใจ 10 ดวง : ทะเลช่วงเช้า
๐เมื่อเราเข้ามาที่ทะเลในช่วงเช้าเราจะพบกับ Elliott โดยเขาจะชวนเราไปนั่งเรือด้วยกันซึ่งหากตอบ No เหตุการณ์จะจบตรงนั้นเลย และหากเราขึ้นเรือไปกับ Elliott เขาจะสารภาพกับเราว่าคิดกับเรามากกว่าเพื่อน จากนั้นจะเข้ามาจูบเราซึ่งตัวเราจะสั่นและมีตัวเลือกให้เรา 2 ข้อคือ 1.สั่นเพราะดีใจ 2. อีกฝ่ายทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยดี หากตอบข้อแรกเราจะสวีทกันต่อบนเรือ แต่หากตอบข้อ 2 Elliott จะขอโทษและพาเรากลับขึ้นฝั่ง

Harvey / ฮาร์วีย์

คุณหมอประจำหมู่บ้านที่แม้ดูภายนอกจะเป็นคนขรึมๆไปบ้างและดูจริงจัง แต่ว่าถ้าหากว่าสนิธกันแล้วล่ะก็จะรู้ว่าคุณหมอฮาร์วีย์เป็นคนที่โรแมนติก และขี้เล่นพอสมควรเลยทีเดียว โดยปกติแล้วคุณหมอมักจะคอยดูแลและเป็นห่วงสุขภาพของคนในเมืองอยู่เสมอๆ บางครั้งถึงกับไปออกตรวจกันถึงบ้านเลยทีเดียว

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : ที่คลีนิก(ข้างๆร้านขายเมล็ดพืช)

วันเกิด : Winter 14

ส่วนใหญ่แล้วในเวลาทำงานของคลีปนิกเรามักจะพบคุณหมออยู่ที่ทำงานเสมอๆ ดังนั้นการไปหาจึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ของที่คุณหมอชอบมาก ส่วนใหญ่จะหาค่อนข้างง่ายโดยเฉพาะกาแฟ ที่เราสามารถซื้อได้ที่ Saloon ได้ตั้งแต่ในช่วงแรกๆเลย หรือหากในช่วงแรกไม่อยากเสียเงินล้ะก็ Daffodil และ Spring Onion ที่เราสามารถเดินเก็บได้ฟรีๆในป่าคุณหมอก็ชอบเหมือนกันนะ

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด :http://stardewvalleywiki.com/Harvey

หัวใจ 2 ดวง : เดินเข้าไปในบ้านของ จอร์ท
๐ขณะที่ ฮาร์วีย์กำลังตรวจสุขภาพของจาร์ทอยู่ แต่จอร์ทไม่ค่อยให้ความร่วมมือนัก เราบังเอิญเข้าไปเห็นพอดี จึงโดนคุณหมอไล่ออกมา แต่จอร์ทบอกว่าไม่ต้องไปและถามความเห็นของเราว่า จอร์ทควรจะเชื่อหมอหรือ จอร์ทอยู่ด้วยตัวเองได้ หากเราตอบข้อแรกคุณหมอจะขอบคุณเราและจอร์ทจะสงบลงไป แต่ถ้าหากเราตอบว่าจอร์ทอยู่ได้ด้วยตัวเองได้ คุณหมอจะโกรธและขู่จอร์ทว่าจะนำเรื่องนี้ไปฟ้องภรรยาของเขา ซึ่งเธอคงเสียใจมากแน่ๆ จากนั้นเราจะโดนฮาร์วีย์ตำหนิ

หัวใจ 4 ดวง : เข้าไปในคลีนิก
๐เราจะเข้าไปตรวจสุขภาพที่คลีนิค โดยฮาร์วีย์จะถามเราว่าเครียดกับเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า โดยจะมีให้เราเลือกให้เราตอบ แต่ไม่ว่าจะตอบแบบไหน สุดท้ายคุณหมอก็จะบอกให้เราดูแลตัวเองให้ดี และขอบคุณที่เราแวะเวียนมาหา

หัวใจ 6 ดวง : Pierre’s shop ในช่วงที่ฮาร์วีย์อยู่ในร้านค้า
๐เราจะบังเอิญเจอคุณหมอกำลังเต้นรวมกลุ่มอยู่กับเหล่าสาวๆแม่บ้าน เมื่อคุณหมอเห็นเราจึงตกใจและเข้ามาขอร้องให้เราอย่านำเรื่องนี้ไปบอกใคร ซึ่งหากเราตอบตกลงคุณหมอจะบอกเหตุผลว่าเพราะเป็นหมอจึงต้องรักษาสุขภาพให้ดี แต่ถ้าเราไม่ตกลง ฮาร์วีย์จะหงุดหงิดนิดหน่อยและเดินจากไป

หัวใจ 8 ดวง : คลีนิกในห้องของฮาร์วีย์(เข้าไปในคลีกนิกก็พอ) ในช่วงเช้าๆ
๐เราจะเห็นฮาร์วีย์ใช้วิทยุติดต่อกับนักบินอยู่ ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาเขาจะชวนให้เราดูรอดูเครื่องบินที่กำลังจะผ่านไปด้วยกัน
หลังจากนั้นเขาจะเปิดเผยกับเราว่า เมื่อก่อนเขาอยากจะเป็นนักบินแต่ไม่สามารถจะเป็นได้ เมื่อเล่าอดีตจบเขาจะชวนเราไปดูโมเดลเครื่องบินที่พึ่งต่อเรียบร้อบ

หัวใจ 10 ดวง : ไปเจอฮาร์วีย์ที่ทางรถไฟ ( หลัง 9 โมงเช้า)
๐ในช่วงเช้าที่หัวใจครบ 10 ฮาร์วีย์จะส่งจดหมายมาบอกให้เราไปหาที่ทางรถไฟ โดยเมื่อเราไปถึงแล้วเขาจะเซอร์ไพรต์เราด้วยบอลลูนที่เช่ามา และจะชวนเราขึ้นไปนั่งด้วยกัน โดยจะมีตัวเลือกว่า ขึ้นเลยหรือถามเขาว่ากลัวความสูงไม่ใช่เหรอ หากเราถาม ฮาร์วีย์จะบอกว่าหากมีเราล่ะก็เขาไม่กลัวหรอก และก็ขึ้นไปด้วยกันจากนั้นเราจะพบกับฉากกระหนุงกระหนิงกันนิดหน่อย

Sam / แซม

เด็กหนุ่มที่รักในเสียงดนตรี ที่มีชื่อจริงว่า Samson แต่คนไม่ค่อยจะเรียกกันเท่าไหร่ เขาอาศัยอยู่กับแม่และน้องสองคน ส่วนพ่อเป็นทหารไปรบที่ค่อนข้างห่างไกล ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นเขาเที่ยวเล่นอยู่กับ เซบาสเตียนหรืออยู่ในห้องของเขาเพื่อซ้อมดนตรี โดยนิสัยของแซมจะค่อนข้างขี้เล่น และแอบซุกซนไปสักนิดหน่อย จนบางครั้งอาจเผลอทำให้ชาวเมืองเดือดร้อนไปบ้าง ถึงอย่างไรก็ตามแซมก็เป็นคนที่รักเพื่อนและครอบครัวมากๆ

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : บ้านของตัวเอง,หน้าบ้าน

เช่นเดียวกันกับตัวละครส่วนใหญ่ที่ของที่เขาชอบมากนั้นหายากมากในช่วงแรก ถึงแม้ว่า Pizza อาจจะพอหาซื้อได้ที่ Saloon แต่ราคาของมันก็สูงถึง 600g ดังนั้นในช่วงแรกๆ ที่จีบให้เราหาของอย่าง Joja Cola ที่หาซื้อได้ในร้าน Joja มาให้ก่อนก็ได้ และพอเล่นไปสักพักก็จะเป็นพวกไข่ไก่ที่แซมค่อนข้างชอบมันเลยล่ะ ส่วนของที่แซมค่อนข้างเกลียดคือถั่วทุกชนิด, Mayonnaise, Pickles ฯลฯ อีกนิดหน่อย ในเรื่องของสถานที่เราจะพบเขาได้ที่บริเวณบ้านซะส่วนใหญ่ ในบางวันช่วงมืดเขาอาจจะไปเล่นบิลเลียตกับเซบาสเตียนที่ Saloon ในช่วงเย็น

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : ที่บ้านของ Sam
๐เมื่อเข้าไปในบ้านจะพบแซมอยู่กับเซบาสเตียนกำลังซ้อมดนตรีกันอยู่ เมื่อเห็นเราจึงถามว่าควรจะเล่นเพลงแนวไหนดี ซึ่งเพลงแนวที่เราเลือก แซมจะนำไปเล่นในงานตอน Event 8 ดวง นอกจากนั้นจะไม่มีผลอะไร

หัวใจ 3 ดวง : ทะเลตอนเช้าในช่วงหน้าร้อน (ไม่แน่ใจว่าต้องกี่ดวง)
๐เราจะพบ แซม กำลังเล่นอยู่กับ วินเซนต์ที่ทะเลซึ่งวินเซนต์ได้พูดออกมาว่าคิดถึงพ่อและอยากให้กลับมาไวๆ และกลัวว่าพ่อของตนเองจะเป็นอะไรไปเนื่องจากต้องไปรบ แซมจึงได้ปลอบใจน้องของตัวเอง หลังจากนั้นแซมจะถามเราว่าทำแบบนี้ดีแล้วหรือเปล่า ซึ่งเราจะบอกว่าแบบนี้น่ะโอเคแล้ว

หัวใจ 4 ดวง : ที่บ้านแซมหลัง 6 โมงเย็น
๐เมื่อเราเข้าไปในบ้านแแซมจะพยามหาอะไรให้เรากิน จนเผลอไปทำไข่ตกแตก หลังจากนั้น Jodi จะเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งถ้าหากพูดความจริงเธอจะไม่ว่าอะไร แล้วเดินจากไป

หัวใจ 6 ดวง : ลานกว้างในเมือง
๐แซมกำลังเล่นสเก็ตบอร์ดอยู่และไปชนใส่ คุณนายก Lewis เข้าจึงโดนโกรธเสียยกใหญ่ เราซึ่งเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปไกลเกลี่ย ซึ่งหลังจากการพูดคุยจบลงแซมจะขอโทษ ซึ่งเมื่อลุง Lewis หายโกรธแล้วก็ขอโทษแซมเช่นกันและจบลงด้วยดี และหลังจากที่นายกเดินจากไปแล้วแซมจะถามเราว่าท่าที่ตนเองเล่นตะกี้เจ๋งรึเปล่า…

หัวใจ 8 ดวง : ป้ายรถเมล์
๐ในช่วงเช้าแซมจะมาหาเราและบอกว่าจะมีงานแสดงในช่วงค่ำ ทีอีกเมืองหนึ่งให้เราไปรวมตัวกันเพื่อไปงานที่ป้ายรถเมล์(จากฟาร์มเราไปทางขวา) เมื่อเราไปถึงแล้วแซมจะแสดงคอนเสิร์ต โดยเพลงที่แซมเล่นจะมาจากการเลือกของเราใน Event แรก

หัวใจ 10 ดวง : บ้านของแซม
๐ตอนเช้า(อีกแล้ว)แซมจะบอกให้เราไปหาที่บ้านในช่วงมืดๆ เมื่อเราไปหาแซมจะพาเรามุดหน้าต่างเข้าไปในบ้าน และกำลังจะพูดคุยกับเราเรื่องความรู้สึกของตัวเอง ทว่า Jodi เข้ามาขัดพอดีจึงให้เราไปซ่อนบนเตียงก่อน หลังจากที่ Jodi ไปแล้วเกมจะให้เราเลือกว่าจะนอนต่อหรือลุกขึ้นมา หากเรายังคงนอนอยู่จะเข้าสู่ฉากกระหนึงกระหนิง แต่หากเราไม่นอนต่อเกมจะให้เราเลือกว่าจะตอบรับความรู้สึก หรือเดินหนีออกมา หากเราตอบรับก็จะวนกลับไปกระหนุงกระหนิงเหมือนช้อยแรก แต่ถ้าหากถอยออกมาแซมจะขอโทษที่ชวนเราออกมาแบบนี้

Sebastian / เซบาสเตียน

ชายหนุ่มลุคเงียบขรึมที่มักไม่ค่อยคุยกับคนที่ไม่สนิธสักเท่าไหร่ และเป็นตัวละครที่มักจะไม่ค่อยได้ไปไหนสักเท่าไหร่ เนื่องจากเขาเองมักจะหมกตัวทำงานอยู่ในห้องส่วนตัวในบ้านของ Robin เว้นแต่ในบางครั้งเค้าออกมาสูบบุหรี่อยู่แถวๆหน้าบ้าน หรือไปเล่นกับแซมอยู่บ้างเหมือนกัน ส่วนเหตุผลที่เขาตั้งใจทำงานเก็บเงินนั้น ก็เพราะว่าในอนาคตเขาอยากที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ด้วยตัวคนเดียว

สถานที่ๆมักจะอยู่ :ในห้องของเขาเอง,บริเวณรอบๆบ้านของโรบิน

เซบาสเตียนมักจะอยู่ในห้องของเขาเองเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นการจีบเขาที่ง่ายที่สุดคือการทำความสนิทสนมให้หัวใจระดับ 2 แล้วบุกเข้าไปหาถึงห้องเลย นอกจากนี้ในทุกวันศุกร์ช่วงเย็น(ประมาณ 6 โมง) เขาจะไปเล่นสนุ๊กกับแซมที่ Saloon อยู่เสมอดังนั้นเราสามารถไปดักรอได้ มาถึงส่วนของที่พ่อหนุ่มคนนี้ชอบกันบ้าง ซึ่งของที่ชอบมากของ พ่อหนุ่มคนนี้อย่าง Sashimi นั้นทำไม่ยากเลยเพียงแต่ในตอนแรกเรายังไม่มีครัวเลยต้องละไปก่อน ดังนั้นของที่หาได้ง่ายในช่วงแรกจะมี Potato,Quartz และ Parsnip โดยเฉพาะอย่างหลังปลูกดองไว้เยอะๆได้เลยครับถ้าคิดจะจีบหนุ่มคนนี้

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : ภายในห้องของเซบาสเตียน
๐ขณะที่เราเข้ามาเยี่ยมเซบาสเตียนจะกำลังขมักขเม้นกับการทำงานอยู่ภายในห้องของตัวเอง เมื่อเราเกำลังจะออกไปเซบาสเตียนจะบอกให้เราอยู่ก่อนก็ได้ หลังจากนั้น เกมจะให้เราเลือกการกระทำนิดหน่อยแต่ผลจะไม่ต่างกันมากนัก เราจะได้รู้ว่าพ่อหนุ่มคนทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ฟรีแลนซ์ และกำลังทำงานให้ลูกค้าอยู่ หลังจากนั้นแซมจะเมล์เข้ามาหาว่าอยากไปข้างนอก และ อาบิเกลฝากโรบินให้มาบอกว่าจะแวะมาหา ทำให้เซบาสเตียนหงุดหงิดนิดหน่อยที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจงานของเค้า

หัวใจ 4 ดวง : หน้าร้านช่างไม้(บ้านโรบิน)
๐เราจะพบกับเซบาสเตียนกำลังซ่อมมอเตอร์ไซต์ของเขาอยู่ และเซบาสเตียนจะเล่าให้เราฟังว่าตัวเขาเองชอบที่จะขับรถมอเตอร์ไซต์ออกไปข้างนอกหลังจากพระอาทิตย์ตกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ และคิดอะไรไปเรื่อยๆ หลังจากที่คุยกันจบเซบาสเตียนจะบอกว่าหากมีโอกาสเขาอาจจะชวนเราไปด้วยกัน ซึ่งเราจะตอบอะไรก็ได้ไม่มีผลกับตัวเกมและเนื้อเรื่อง

หัวใจ 6 ดวง : ห้องของเซบาสเตียน(เวลาไม่แน่ชัด)
๐เซบาสเตียนและแซมขะชวนเราเล่นบอร์ดเกมด้วยกัน โดยเราจะเลือกเล่นเป็นอาชีพอะไรก็ได้โดยรายละเอียดปลีกย่อยจะต่างกันนิดหน่อย หลังจากที่จบแล้วเซบาสเตียนจะขอบคุณเราที่แวะมา

หัวใจ 8 ดวง : ทะเลในวันที่ฝนตกช่วงบ่าย
๐ขณะที่เราเดินเล่นอยู่ที่ทะเลก็พบกับเซบาสเตียนกำลังยืนรับลมฝนอยู่ เมื่อเราเข้าไปหาเซบาสเตียนจะตกใจนิดหน่อย และเล่าว่าเค้าชอบช่วงเวลาที่ฝนตก เพราะมันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนคนอื่นๆหายไป แล้วยังบอกอีกด้วยว่าเวลาอยู่กับเราแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่กับคนอื่น

หัวใจ 10 ดวง : หน้าร้านช่างไม้(บ้านโรบิน) 08.00 PM โดยประมาณ
๐เราจะเจอกับเซบาสเตียนที่กำลังจะไปขับรถเล่น เขาจึงชวนเราไปด้วยกัน และพาเราไปชมวิวในที่ๆเขาไปอยู่เป็นประจำ ซึ่งขณะที่ชมวิวไปด้วย ก็จะมีตัวเลือกให้เราตอบนิดหน่อย แต่ผลก็จะออกมาเหมือนกันคือเซบาสเตียนก็จะบอกความรู้สึกในใจกับเรา หลังจากนั้นเราก็จะกอดกันท่ามกลางวิวที่สวยงาม

Shane / เชน

ชายหนุ่มผู้มาใช้ชีวิตอยู่ในเมือง Pelican Town อย่างเบื่อหน่าย ตัวเค้าเองนั้นได้ผิดหวังจากการใช้ชีวิตและมาอยู่ที่เมืองอย่างหมดอาลัยตายอยาก และดื่มเหล้าอย่างหนักเป็นประจำ ซึ่งถึงแม้ว่าเค้าจะดูไม่ค่อยน่าคบและมองโลกในแง่ร้าย แต่หากผู้เล่นได้ทำความรู้จักและสนิธสนมกับเค้าแล้วล่ะก็ จะพบว่าเค้าเป็นคนที่ดีมากๆคนนึงเลยทีเดียว ซึ่งเราจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เชนเปิดใจและชี้นำเค้าออกจากความสิ้นหวังอันไร้ที่สิ้นสุดได้

สถานที่ๆ มักจะอยู่ : JojaMart, The Saloon, Marnie’s Ranch

วันเกิด : Spring 20

เชนนั้นถึงแม้เค้าจะดูหยิ่งๆ และเข้าถึงได้ยาก แต่ว่าจริงๆแล้วเราสามารถที่จะสนิธกับเค้าได้ง่ายมากๆ เพราะว่าตัวเค้านั้นมักจะอยู่เป็นเวลาในสถานที่เดิมๆแทบจะเสมอๆ ทำให้เราสามารถดักพบได้ง่าย และของที่เค้าชอบมากๆนั้นส่วนมากก็จะหาซื้อได้จาก Saloon อาทิเช่น Beer หรือ Pizza ทำให้ค่ามิตรภาพของเค้านั้นขึ้นไวสุดๆเลยทีเดียว(หากเรามีเงินซื้อนะ) ในส่วนของสถานที่ๆ เค้าอยู่โดยคร่าวๆ คือช่วงเช้าจะอยู่ที่ Joja Mart และช่วงมืดจะอยู่ที่ Saloon

ดูตารางเวลาและของที่ชอบ/เกลียดแบบละเอียด : [link]

หัวใจ 2 ดวง : เหตุเกิดที่ Cindersap Forest ระหว่าง 8pm-12pm

Shane จะกินเบียร์กับเรา พร้อมกับระบายความรู้สึกต่างๆ ในเรื่องที่ว่าชีวิตเค้ามีแต่ความสิ้นหวัง จะมองไปทางไหนก็หาแสงสว่างไม่เจอ และชวนเราดื่มจากนั้นเมื่อจบ Cut Scene เราก็จะติดสถานะมึนเมา ซึ่งไม่มีผลอะไรเท่าไหร่

หัวใจ 3 ดวง : Shane จะส่งสูตร Pepper Poppers กับ Strange Bun มาให้เรา

หัวใจ 4 ดวง : Cut Scene จะเกิดขึ้นเมื่อเราเข้าไปที่ Marnie’s Ranch ในขณะที่ Shane อยู่ในห้อง (แนะนำให้มาวันอาทิตย์)

Shane จะล้มลงท่ามกลางกระป๋องเบียร์เปล่า Marnie จึงขอให้เราปลุก Shane ขึ้นมา เราจึงใช้บัวรดน้ำรดบนหัวของเขาจนตื่น จากนั้น Marnie ก็พูดว่าทุกอย่างที่เขาทำก็คือทำตัวเซื่องซึม และดื่มเบียร์ไปเรื่อยๆ Shane จึงไม่พอใจและบอกว่าเค้าไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้น จากนั้นก็บอกเป็นนัยว่าปรารถนาที่จะตาย ในขณะนั้น Jas ได้ยินและวิ่งหนีไป พร้อมกับร้องไห้ จึงทำให้ Shane รู้สึกไม่ดี

*นอกเหนือจาก Event แล้ว Shane จะเริ่มส่ง Pizza และ Pepper Poppers มาให้เรา

หัวใจ 6 ดวง พาร์ท 1 : เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อคุณอยู่ที่ Cindersap Forest ตอนฝนตก เวลาระหว่าง 9 am – 8 pm ในขณะที่ Shane กำลังคว่ำหน้าลงที่ขอบของหน้าผา และรอบตัวของเขา ถูกล้อมด้วยเบียร์ Shane พูดเกี่ยวกับการที่เขาไม่มีความสุขในชีวิตของเขา และถามว่าทำไมเขาไม่ควรจะกลิ้งตกหน้าผาไปซะ ซึ่งจะมีตัวเลือกมาให้คุณให้คำแนะนำแก่เขา โดยไม่ว่าเราจะตอบอะไรก็ตาม เราก็จะพาเขาไปโรงพยาบาล และวันถัดมาเขาจะมาบอกว่าเขาตัดสินใจที่จะรับการรักษาในเรื่องการติดแอลกอฮอล์ และขอโทษที่ทำให้ชีวิตของคุณลำบาก

หัวใจ 6 ดวง พาร์ท 2 : เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อคุณอยู่ที่ Marnie’s Ranch ตอนที่ Shane อยู่ (เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นหลังจาก Cut Scene หัวใจ 6 ดวง พาร์ท 1 นะ) Shane จะเข้าไปใน Marnie’s Ranch และพูดกับ Marnie เกี่ยวกับเรื่องที่เขารู้สึกดีขึ้น และเรื่องที่เขาตระหนักว่ามีคนที่เขาพึ่งพาได้ และการที่เขาพึ่งพานั้น มันไม่เรื่องอ่อนแอเลย Shane ยังได้บอกว่า เขาดื่มน้ำเปล่าแทนเหล้าแล้วอีกด้วย จากนั้น Shane ก็จะเดินไปหา Jas และให้รองเท้าที่เธออยากได้ แต่ด้วยความที่มันแพงเกินไป เธอจึงไม่ซื้อ และบอก Jas ว่า เขาซื้อมันมาให้เธอจากเงินเก็บที่ได้มาจากการเลิกกินแอลกอฮอล์

หัวใจ 7 ดวง : เข้าไปในเมือง ระหว่าง 10am – 4pm ในวันแดดออก (จะต้องมีอย่างน้อย 2 หัวใจกับ Emily และ Clint ก่อนนะ) คุณจะเจอ Shane กำลังถ่ายฉากที่นำแสดงโดย Emily และ Clint จากนั้นเขาก็จะอธิบายว่า Joja มีการประกวดการสร้างโฆษณาใหม่ล่าสุดของ Joja Cola และผู้ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 10,000g Shane จะขอให้คุณเดินตามหลัง Clint และ Emily เพื่อให้เกิดรู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้น จากนั้น Shane จะขอขอบคุณสำหรับการช่วยเขา

หัวใจ 8 ดวง : เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อคุณอยู่ที่ Marnie’s Ranch ซึ่ง Jas จะพาเราไปหา Shane ที่กำลังวาดป้ายที่บอกว่า ”Fresh Eggs” พร้อมกับถูกล้อมรอบด้วยฝูงไก่สีฟ้า และไก่สีขาว รวมไปถึงไก่ที่เขาชอบเป็นพิเศษอย่าง Charlie คุณจะเห็น Shane ยก Charlie ขึ้นและพูดคุยกับมันเกี่ยวกับปัญหาของเขา จากนั้น Shane พูดกับคุณนิดเกี่ยวกับวิธีการที่เขาพยายามที่จะถ่ายทอดความรู้ในเรื่องของไก่ ให้แก่ Jas เพื่อที่เธอจะสามารถรับช่วงต่อไปได้ ถ้าเขาย้ายออก หลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ การซื้อไก่ของผู้เล่นจาก Marnie มีโอกาสที่ 1/4 สำหรบการที่จะได้ไก่สีฟ้า นอกเหนือจากลักษณะไก่สีฟ้าแล้ว มันก็เหมือนกับไก่สีขาวทุกอย่างนะ

หัวใจ 10 ดวง : ออกจากบ้านของคุณ ระหว่าง 6am – 6.30 am Shane จะเชิญทุกคนจะไปดู Zuzu Town Tunnelers (ทีม Gridball) เล่นในสนามของพวกเขา ในขณะที่ทีมทำประตูได้ Shane ตื่นเต้นมากจนเผลอหอมแก้มคุณ แล้วเขาก็รู้สึกอายที่ทำแบบนั้นลงไป แต่หลังจากนั้นคุณก็เอาคืนนิดหน่อย(?)

การแต่งงาน

การแต่งงานเราจะต้องสร้างความคุ้นเคยให้กับตัวละครต่างๆและหมั่นเอาสิ่งของไปให้ซึ่งในสัปดาห์นึงเราจะให้ของขวัญได้เพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้นตัวละครที่เราจีบได้มีดังนี้ (จีบเพศเดียวกันได้)

หลังจากที่เราจีบจนหัวใจเกิน 8 ดวงแล้วจะขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรานำดอกไม้ Bouquet ที่ซื้อได้จากร้านค้าไปมอบให้คนที่เราชอบแล้วจะสามารถจีบต่อไปได้

หลังจากนั้นเมื่อหัวใจของคนที่เราชอบถึง 10 ดวงให้เราไปซื้อ The Mermaid’s Pendant กับชายปริศนาซึ่งอยู่ที่ทะเทโดยจะหลบมุมอยู่แถวๆสะพานข้ามฝากในราคา 5000 G โดยพี่แกจะโผล่ออกมาในวันที่ฝนตก

หลังจากนำของไปมอบให้เป้าหมายของเราแล้วงานแต่งจะจัดขึ้นในอีก 3 วันและคู่ชีวิตของเราจะย้ายมาอยู่ในฟาร์ม และหัวใจของคู่เราจะเต็มที่ 12 จากเดิม 10 และในบางทีจะมาช่วยเราทำงานในฟาร์มด้วยซึ่งจะรู้ได้จากการพูดคุยว่าวันนั้นทำอะไรไปบ้าง นอกจากนี้ถ้าหัวใจเต็มแล้วคู่ชีวิตของเราจะมอบผล Stardrop ที่เพิ่มพลังงานถาวรให้เราด้วยนะ!

• คู่ชีวิตของเราจำนวนหัวใจที่เต็มจะเพิ่มจาก 10 ดวงเป็น 12 ดวง(และจะทะลุเป็น 13 ดวงได้ด้วย)
• ลิมิทในการให้ของจะหายไป(ให้ของได้ทุกวันเลยทีนี้)
• ในบางวันแฟนของเราจะทำอาหารให้ทาน หรือช่วยทำงานในไร่ด้วย เช่นรดน้ำ, ให้อาหารสัตว์, ซ่อมรั้วที่พัง (จะรู้ได้จากการคุย)
• แฟนของเราจะให้ผล Stardrop กับเราเมื่อหัวใจถึง 13 ดวง
• เราสามารถที่จะมีลูกได้(ต้องต่อเติมบ้านครั้งที่ 2 ก่อนนะ)

• หากเรากับแฟนเลิฟๆกันดี(หัวใจเต็ม) เราจะสามารถให้ดอกไม้(ดอกเดียวกับตอนจีบ) เพื่อบอกอีกฝ่ายว่าพร้อมจะมีลูก จะทำให้เกิดเหตุการณ์ ที่แฟนเราจะถามว่าพร้อมมีลูกหรือยัง หากเราตอบใช่อีก 14 วันเราหรือแฟน จะคลอดลูก
• ในกรณีที่แต่งกับเพศเดียวกัน ให้เราพยามนอนให้ไวกว่าแฟนแล้วจะสุ่มเกิดเหตุการณ์ที่ถามว่าเราพร้อมจะมีลูกหรือยัง ซึ่งเราและแฟนจะไปทำการรับเด็กมาเลี้ยงดู โดยเด็กจะปรากฏออกมาใน 14 วันให้หลังเหตุการณ์ด้านบนจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราต่อเติมบ้านครั้งที่ 2 แล้ว(จะมีห้องเด็กเพิ่มเข้ามา)

ตามล่าหาความลับกับ Secret Notes

อีกหนึ่งในส่วนของ Event ใหม่ที่เพิ่มมาใน Stardew Valley Beta co-op นั้นก็จะเป็นไอเท็มสะสมชุดใหม่ที่เรียกว่า Secret Notes หรือกระดาษโน๊ตลับนั่นเอง ซึ่งเจ้ากระดาษโน๊ตนี้ก็จะมีให้สะสมถึง 23 แบบ และสามารถหาได้ค่อนข้างง่าย แต่ละใบก็จะมีความลับในเกมซ่อนอยู่ให้ผู้เล่นได้ค้นหากันไปจ้า มาดูกันว่าเราจะเปิด Event นี้ได้ยังไง และแต่ละใบมีอะไรบ้าง

Secret Notes # 23

เพื่อนๆ จะเริ่ม Event นี้ได้ด้วยการเล่นไปให้ถึงหน้าหนาวก่อน จากนั้นเดินไปทางป้ายรถประจำทางในช่วงเช้าของวัน ก็จะพบเจอกับเผ่า Shadow Brute ที่เดินอยู่แถวนั้น ก่อนที่จะหนีไป

จะสังเกตุว่ามีรอยเท้าอยู่บนหิมะ

ให้เพื่อนๆ วิ่งตามเข้าไปในเมือง จะสังเกตุว่ามีรอยเท้าอยู่บนหิมะ(ถ้าเป็นตามปกติจะไม่มี) เมื่อตามรอยไปเรื่อยๆ จนสุดที่พุ่มไม้ ให้เพื่อนกดเขย่าพุ่มไม้ได้เลย เผ่า Shadow Brute ก็จะกระโดดผลุงออกมาพร้อมกับให้แว่นขยายกับเรา เป็นอันปลดล๊อคไอเท็มพิเศษเพิ่มเติมกันไป (กรณีเล่น co-op ต้องมาปลดกันเองรายคนนะจ๊ะ)

////////////////////////////////////////

เมื่อได้แว่นขยายแล้ว หลังจากนี้ผู้เล่นจะมีโอกาสได้รับ Secret Notes เรื่อยๆ จากการขุดเหมืองหรือกำจัดมอนสเตอร์ได้ โดยเจ้าตัว Secret Notes นี้จะเป็นไอเท็มให้กดใช้ หลังจากกดใช้จะแสดงข้อมูลในโน๊ตแผ่นนั้น และนำไปเพิ่มไว้ในส่วนของ Collection ที่อยู่ติดตัวในแถวล่างสุดให้กดดูทีหลังได้ด้วย

ตรงส่วนนี้ก็จะเป็นรายละเอียดของ Note แต่ละแผ่นที่เพื่อนๆ จะได้รับจ้า ส่วนของที่ซ่อนอยู่อันนี้หมาก็ขออณุญาติอุปไว้น้า ให้ไปหาเจอกันเองดีกว่า เพราะบางอันมันพีคมากมาย

โดยทั้งหมดนี้ที่มีในโน๊ตนั้นก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว และเพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องมีโน๊ตก็สามารถไปเจอหรือค้นหาได้เอง ตัวเกมเพียงแค่เพิ่มโน๊ตนี้มาเพื่อช่วยในการใบ้ให้เท่านั้นจ้า ขอให้สนุกกับการหาความลับในเกมน้า หมาใบ้ให้เยอะมากแล้วหงิง~

ส่อง quest น้ำหมึกมนตรา ปลดล๊อคสิ่งปลูกสร้างมายา

จั่วหัวซะเว่อร์ แต่ก็แปลให้ดูโก้ๆแบบนั้นได้ล่ะจ้า สำหรับ patch 1.1 (beta) ตัวปัจจุบันนั้นทาง ConcernedApe ผู้สร้างเกมก็ได้เพิ่ม quest ขึ้นมาสำหรับอำนวยความสะดวกของผู้เล่นที่เล่นเกมนี้ระยะหนึ่งแล้ว พร้อมทั้งเปิดตัวเนื้อเรื่องเพิ่มเติมในส่วนของพ่อมดในเกมอีกด้วย

ในบทความนี้ก็จะอธิบายวิธีการผ่าน quest นี้ทีละขั้นโดยละม่อม ดังนั้นย่อมมี spoil เนื้อหา quest และเนื้อเรื่องแน่นอน ถ้าใครอยากได้อรรถรสในการเล่นเอง แม้จะไม่อยากกล่าวคำนี้แต่ก็ต้องขอแนะนำให้ข้ามบทความนี้ไปจ๊ะ ; w ;

เงื่อนไขของการปลดล๊อค quest นี้คือ ผู้เล่นต้องบูรณะ Community Center หรือทำการจ่ายเงินค่าสมาชิกของ Joja จนครบเล้ว (ผ่าน event อาคารสมบูรณ์ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งเรียบร้อย) จากเงื่อนไขดังกล่าวทำให้มั่นใจได้เลยว่า มันไม่ใช่ quest ที่จะทำได้แต่แรก และของตอบแทนก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆแน่นอน

ผู้เล่นที่ผ่านเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว สามารถเริ่ม quest นี้ได้ทันทีโดยเดินทางไปยังสถานีรถไฟด้านบนของตัวเมือง เกมจะตัดเข้าสู่ event ของ quest นี้และมีพ่อมดเป็นตัวดำเนินเรื่องให้เรา

ผู้เล่นจะพบกับพ่อมดและเส้นทางใหม่ที่ถูกปิดกั้นเอาไว้โดยตัวพ่อมดเอง เขาจะเล่าถึงอดีตชีวิตการแต่งงานของเขา ชีวิตการแต่งงานที่เคยไปได้ด้วยดีต้องมาพังเพราะความผิดพลาดของตัวเขาเอง ภรรยาของเขาได้โกรธและกลายเป็นแม่มดที่คอยสาปชาวบ้านไปทั่ว เขาได้ทำการปิดเส้นทางไปยังบ้านของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้มีคนเดือดร้อนไปมากกว่านี้ แต่บังเอิญว่าตอนที่ทะเลาะกันนั้น แม่มดได้ฉกเอาน้ำหมึกมนตราของเขาไปด้วย และตอนนี้เขาต้องการมันกลับมา

เพียงแต่มีปัญหาอยู่ว่า เขาเองไม่สามารถมองเห็นแม่มดในตอนนี้ได้อีกแล้ว จึงต้องการความช่วยเหลือของผู้เล่น ผนึกเส้นทางนี้สามารถปลดออกได้ด้วย”ยันต์แห่งความมืด” พ่อมดจะให้เบาะแสกับผู้เล่นว่า Krobus ที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำจะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ก่อนจะฝากฝังภารกิจนี้ให้กับผู้เล่นและบอกว่างานนี้คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน

จากการถามทาง Krobus เขาจะบอกว่าเคยมีอยู่แต่เผลอทำตกไว้ระหว่างที่สำรวจซอกแห่งหนึ่งในท่อแล้ว ตัวเขาเองได้ปิดทางเข้าออกซอกนั้นไว้เพราะข้างในมันมีเริ่มเละเทะและอันตรายขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อผู้เล่นต้องการจะเข้าไป เขาก็จะเปิดทางให้ แน่นอนว่าไฟเขียวขนาดนี้ก็ไม่ต้องรออะไรให้วุ่นวาย บุกตามไปได้เลย

ภายในซอก ผู้เล่นจะพบกับหนอนชาเขียวที่มีจำนวนมากมายไม่น้อยอยู่ และความร้ายของพวกมันก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ถ้าเผลอๆอาจจะโดนงาบเอาเสียได้ ก็อย่าลืมเป้าหมายที่แท้จริงในการไปเก็บผ้ายันต์มา ให้ผู้เล่นตีฝ่าดงหนอนและวัชพืชขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ จะเจอหีบที่เก็บผ้ายันต์อยู่ได้ไม่ยาก ไม่ต้องวนไปวนมาเยี่ยงดันเจี้ยนเกม RPG โหดๆ

ยัดผ้ายันต์เข้าไปซะ … อาร่า

หลังจากได้รับยันต์แห่งความมืดมา ผู้เล่นไม่ต้องกลับไปหาพ่อมด แต่ให้ไปที่ผนึกที่สถานีรถไฟอีกครั้งเพื่อปลดผนึกได้เลย เส้นทางจะเปิดออกเผยให้เห็นถ้ำเล็กๆข้างในพร้อมกับวงเวทย์ที่พื้น

วงเวทย์นั้นจะวาร์ปผู้เล่นมายังสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งอันเป็นที่พักของแม่มด โดยมีก๊อปลิน Henchman ขวางทางไม่ให้ไปต่อ ให้เข้าไม่ได้จริงๆ ไม่งั้นเก๊าตกงานแน่ๆเลย พร้อมปรากฎ quest ขึ้นมา แสดงถึงการที่ผู้เล่นต้องไปหาข้อมูลของก๊อปลินที่ขวางทางไปยังบ้านแม่มดนี้ซักหน่อย

ในห้องสมุดประจำเมืองนั้น บนชั้นหนังสือทางขวามือติดกับ Gunther จะมีหนังสือที่อธิบายเกี่ยวกับก๊อปลินอยู่ และกล่าวถึงของโปรดของพวกมันคือ void mayonnaise …..
(ผู้เล่นสามารถหา void egg ได้จากร้านค้ารถเข็นแบบสุ่ม, ลุ้นว่าแม่มดจะสาปไก่ในเล้าหรือไม่, หาซื้อได้จาก Krobus จากนั้นเอาไปโยนลงเครื่องปั่นมายองเนส)

ด้วยความสามารถของผู้เล่น ก็จัดการหามามอบให้กับก๊อปลิน Henchman ที่แค่เห็นก็อดใจไม่ไหว ทิ้งหน้าที่หนีไปบริโภคหน้าตาเฉย ปล่อยให้บุกรุกบ้านแม่มดได้ตามสะดวก ก็จัดให้เขาหน่อยน่านะ

ในบ้านจะมีขวดหมึกเจ้าปัญหาอยู่บนโต๊ะ เก็บมาซะให้เรียบร้อยก่อน แน่นอนว่ารูปปั้นที่เห็นนั้นก็สามารถสำรวจได้นะจ๊ะ
1.Dark Shrine of Selfishness (ซ้ายมือ) – สละ Prismatic Shard เพื่อทำให้ลูกเราบินหนีไป คาดว่าสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องดูแลลูกหรือตั้งชื่อผิด ระบุเพศผิดก็ว่ากันไปจ๊ะ
2.Dark Shrine of Memory (อันกลาง) – จ่าย 30,000 g เพื่อทำให้คู่สมรสที่เราหย่าลืมไปว่าเราเคยมีความสัมพันธ์กัน (กลับไปเป็นชาวเมืองปกติ)
3.Dark Shrine of Night Terrors (ขวามือ) – สละ Strange Bun เพื่อทำให้ฟาร์มของเรามีสัตว์ประหลาดบุกยามค่ำคืน (ยังไม่ทราบว่าอัตราการปรากฎตัวมากน้อยแค่ไหน แต่ดูไม่เยอะมากนัก)

เสร็จกิจแล้วก็สามารถไปเหยียบวงเวทย์สีแดงที่พื้นได้ทันที วงเวทย์นี้จะพาผู้เล่นมายังชั้นใต้ดินของหอคอยพ่อมด เมื่อกลับขึ้นชั้นบนมาเกมจะตัดมาเข้าสู่ event อีกครั้ง
พ่อมดเองก็จะถามไถ่เกี่ยวกับแม่มดว่าเห็นเธอไหม เธออยู่กับใคร หรือว่า … แต่ตัดใจไม่ฟังดีกว่า และมอบสิ่งตอบแทนให้ผู้เล่นนั่นคือ คัมภีร์แห่งการเรียกสรร เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างสิ่งปลูกสร้างเวทย์มนตร์ให้กับฟาร์มของผู้เล่นได้ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้เล่นทิ้งท้ายสำหรับงานยุ่งๆครั้งนี้ก่อนจะลืม :3

เสร็จกิจแล้วก็สามารถไปเหยียบวงเวทย์สีแดงที่พื้นได้ทันที วงเวทย์นี้จะพาผู้เล่นมายังชั้นใต้ดินของหอคอยพ่อมด เมื่อกลับขึ้นชั้นบนมาเกมจะตัดมาเข้าสู่ event อีกครั้ง
พ่อมดเองก็จะถามไถ่เกี่ยวกับแม่มดว่าเห็นเธอไหม เธออยู่กับใคร หรือว่า … แต่ตัดใจไม่ฟังดีกว่า และมอบสิ่งตอบแทนให้ผู้เล่นนั่นคือ คัมภีร์แห่งการเรียกสรร เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างสิ่งปลูกสร้างเวทย์มนตร์ให้กับฟาร์มของผู้เล่นได้ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้เล่นทิ้งท้ายสำหรับงานยุ่งๆครั้งนี้ก่อนจะลืม :3

สำหรับสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวก็มีทั้งสิ้น 4 ชนิด และแต่ละอย่างมันก็ช่าง ……….. โอ๊ก

จิ้มดูรูปใหญ่ได้จ๊ะ

คาดว่าเนื่องจากยังเป็น beta ทำให้ราคาและวัตถุดิบถูกตั้งไว้คร่าวๆก็เป็นได้ เมื่อปล่อยให้เล่นจริงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง ก็คงต้องรอดูกันไป

นอกจากจะสร้างสิ่งปลูกสร้างได้แล้ว ถ้าขี้เกียจเดินไปที่บ้านของโรบิ้น ก็สามารถกดย้ายสิ่งปลูกสร้างที่หอคอยพ่อมดได้เหมือนกันผ่านคัมภีร์อันนี้น่อ ประมาณว่าระบบสร้างของเหมือนกัน ย้ายของได้พอกันนั่นแล

ถึงเวลาประเมินฟาร์ม

มรดกตกทอดของคุณปู่ที่มอบให้แก่ผู้เล่น ฟาร์มรกร้างที่ใช้หลบหลีกชีวิตวุ่นวายในตัวเมือง เรื่องราวของผู้เล่นจึงเริ่มต้นขึ้นจากมรดกของคุณปู่ผู้ใจดีคนนี้

มันก็เป็นการเกริ่นสั้นๆในตอนต้นเกมถึงเหตุผลและความเป็นมาว่าทำไมผู้เล่นถึงได้มาอยู่ที่ฟาร์ม และฟาร์มนี่เป็นฟาร์มของใคร แต่คงมีน้อยคนที่จะเดาทางออกว่ามันยังมีอะไรมากกว่านั้น ผู้เล่นส่วนมากที่ไม่ทันรู้ตัวหรือไม่เจอใครบอกล่วงหน้าเป็นอันได้เจอคุณปู่หลอนกันซะทุกรายโดยไม่ทันตั้งตัว

เงื่อนไขการปรากฎตัวของคุณปู่นั้นง่ายๆคือ เมื่อเวลาในเกมผ่านไปเข้าปีที่ 3 วันแรกนั้น คุณปู่จะปรากฎตัวขึ้นในความฝันของเราเพื่อทำการไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกับหลานผู้น่ารัก ซึ่งจุดนี้เองคุณปู่ก็จะทำการประเมินสภาพโดยรวมของฟาร์มเราว่าเป็นเช่นไรแล้ว หากผู้เล่นสามารถทำได้ดีมาก ปู่ก็จะแสดงความยินดีและภูมิใจในตัวเราที่ได้ประสบความสำเร็จเหนือกว่าใครๆ ทิ้งท้ายก่อนที่ปู่จะจากไปด้วยความสงบ

การประเมินของปู่มาจากตัวเลือกหลายอย่างประกอบกันไป โดยใช้หลักการคิดคะแนนจากเป้าหมายต่างๆที่ผู้เล่นสามารถทำให้สำเร็จได้ ตั้งแต่การนับเงินที่สามารถหาได้, ความสนิทสนมกับคนในเมืองหรือสะสมของต่างๆได้ครบถ้วน ซึ่งจะมีทั้งหมดดังนี้

*นับจากรายได้ทั้งหมดทบไปเรื่อยๆ เช่น ทำรายได้ถึง 1,000,000 ขึ้นไปจะได้ทั้งหมด 7 แต้มจ๊ะ*

Shipping นับที่หมวด collection หน้าแรกจ๊ะ

มีกี่ขีดก็นับไปตามนั้นเลย ♥

หัวใจสัตว์เลี้ยงดูไม่ได้นะ พยายามลูบมันทุกวัน ถ้าเต็มแล้วจะมีบอกว่ามันชอบเรามากให้รู้ครั้งหนึ่ง

สายโจจาจะเสียเปรียบเล็กน้อย 3 แต้ม

เกมจะไม่แจ้งว่าผู้เล่นได้คะแนนเท่าไหร่ตรงๆ แต่จะบอกคะแนนที่ผู้เล่นทำได้คร่าวๆ ผ่านทางสุสานของปู่ โดยแสดงเป็นเทียนที่ติดไฟขึ้นมาตั้งแต่ 1-4 เล่ม แต่ละเล่มจะแทนคะแนนประมาณ 4 คะแนนดังนี้

เทียน 4 เล่มจะแสดงให้ผู้เล่นทราบว่าคุณปู่ได้สบายใจ หลังเห็นลูกหลานประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว

ซึ่งหากผู้เล่นได้เทียนไม่ครบหรือคะแนนไม่ถึงตามที่ต้องการ ก็สามารถนำเพชร (Diamond) ไปวางที่สุสานของปู่ในภายหลังได้เพื่อให้ปู่มาทำการประเมินซ้ำได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากรู้ตัวช้าไปหรือสะสมคะแนนได้ไม่ทันจ๊ะ คุณปู่ใจดีให้โอกาสเราเสมอ

*ผู้เล่นไม่สามารถลักไก่เอาเพชรไปวางที่สุสานปู่ก่อนปีที่ 3 ได้นะจ๊ะ อย่าพยายามเลย ทำมาแล้ว…*

หากผู้เล่นสามารถทำคะแนนได้ 12 คะแนนขึ้นไป (เทียนทั้งหมด 4 เล่มถูกจุดแล้ว) จะถือว่าผ่านการประเมินในระดับสูงสุดแล้ว และสามารถเดินมาสำรวจสุสานเพื่อได้รับรูปปั้นแมวสีม่วง (Statue of Perfection) มาไว้ในครอบครอง

อยู่มาตั้งหลายปีก็ไม่เจอเนอะ

*รูปปั้นแมวจะต้องทำการสำรวจสุสานเองหลังจากได้รับการประเมิน จะไม่แจกเข้าตัวให้เลยนะจ๊ะ บางคนอาจจะต้องรอวันรุ่งขึ้นถึงจะสำรวจได้ก็มี*

แม้จะเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่านะ ส่วนก้อนข้างๆนั้นไม่เกี่ยวกัน แฮ่

คุณสมบัติของรูปปั้นแมวนี้คือจะสุ่มผลิตแร่ Iridium จำนวน 2-8 ชิ้นต่อวันเลยทีเดียว เรียกว่าคุ้มค่าที่พยายามไม่น้อยสำหรับความพยายามที่ผ่านมาของผู้เล่น แม้ว่าคุณปู่จะพอใจแล้วแต่ตัวเกมก็ยังคงสามารถเล่นต่อได้เรื่อยๆ ยังไม่จบลงนะเอ้อ สามารถเล่นต่อได้จนกว่าผู้เล่นจะพอใจเลย ส่วนคุณปู่คงพอใจแล้วล่ะที่เห็นลูกหลานประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้

พักผ่อนให้สงบนะคุณปู่